โอละพ่อ!สาวอ้างถูกอุ้มทำร้าย ที่แท้จัดฉากง้อแฟน

โอละพ่อ!สาวอ้างถูกอุ้มทำร้าย ที่แท้จัดฉากง้อแฟน

โอละพ่อ! สาวอ้างสนิทอดีตผบช.ก.ถูกอุ้มทำร้าย ที่แท้จ้างหนุ่ม 5 หมื่น จัดฉากทำร้ายตัวเองง้อแฟน

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น., พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ร่วมกันแถลงการจับกุมตัว นายเมฆ เชื้อจีน อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 622 ม.2 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.กำแพงเพชร และน.ส.ชนิตา กินนิส อายุ 38 ปี ในข้อหา แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย

พล.ต.อ.สมยศ เปิดเผยว่า การจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองคนสืบเนื่องจาก น.ส.ชนิตา ได้อ้างตัวเป็นทายาทมรดก 100 ล้านของตระกูลปทุมวาสนา เจ้าของโรงงานเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ที่ถูกฆ่ายกครัว 5 ศพ ที่ซ.โพธิ์แก้ว ถ.ลาดพร้าว 101 เมื่อวันที่ 11 เม.ย. พ.ศ. 2552  ขณะเดียวกันยังบอกว่าตัวเองสนิทสนมกับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. ซึ่งถูกดำเนินคดีหมื่นเบื้องสูงและรับสินบนที่เป็นข่าวครึกโครม แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกคนร้ายจี้ตัวจากห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขารามอินทรา พาขึ้นรถแท็กซี่ไปรุมทำร้าย โดยใช้เทปใสรัดข้อมือ ข้อเท้าและรัดคอ ก่อนคนร้ายจะใช้ของแข็งทุบตีจนสลบเหมือด แล้วนำร่างไปทิ้งที่รกร้างภายในซอยเปลี่ยวข้างสนามกอล์ฟสุภาพฤกษ์ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ในชั้นการสอบสวนในเบื้องต้น น.ส.ชนิตา ยังให้การอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ถูกคนร้ายเป็นผู้ชายสวมแว่นตาดำ ใส่หมวกแก๊ป และเสื้อแจ็กเกต ใช้มีดจี้บังคับไปจากหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขารามอินทรา ก่อนบังคับขึ้นรถเก๋งสีดำ จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ โดยมีคนร้ายอีกคนขับรถมาจอดรอไว้ล่วงหน้าแล้ว จากนั้นคนร้ายใช้ของแข็งไม่ทราบชนิด ทุบที่ศีรษะ แต่เอามือป้องไว้ได้ทัน ต่อมาคนร้ายได้พาไปขึ้นรถแท็กซี่ภายในซอยมัยลาภ ขับรถจะขับมุ่งหน้าพาขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี เมื่อลงจากทางด่วนก็พาเลี้ยวเข้าซอยเปลี่ยนย่าน มหาวิทยาลัยเอแบค บางนา นำร่างของน.ส.ชนิตาไปทิ้งไว้ในป่ารกร้างบริเวณบ่อปลา ข้างสนามกอล์ฟสุภาพฤกษ์ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทั้งชุดสืบสวนและชุดสอบสวน ได้ติดตามนายประชา ผ่องใส คนขับรถแท็กซี่ สีเหลือง หมายเลขทะเบียน ทส-1162 กทม. กลับให้การไม่ตรงกับน.ส.ชนิตา โดยนายประชาระบุว่า จอดรถแท็กซี่รับน.ส.ชนิตากับผู้ชายอีกคน มาจากซอยมัยลาภ โดยบอกให้ไปส่งยังจุดเกิดเหตุ ระหว่างทางไม่เห็นพิรุธอะไรที่แสดงให้เห็นว่า ฝ่ายหญิงถูกบังคับ นอกจากนี้เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุแล้วทางน.ส.ชนิตายังเป็นคนจ่ายค่าแท็กซี่เองอีกด้วย

"สำหรับคดีนี้ กก.1 และ กก.2 บก.ป. ได้ลงพื้นที่ทำการสอบสวน อย่างละเอียดถี่ถ้วน ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจุดต่างๆ ตามคำให้การของผู้เสียหายและพยาน พบภาพกล้องวงจรปิดหลายจุดที่ขัดแย้งกับคำให้การของผู้เสียหายที่กล่าวอ้างว่าถูกคนร้ายอุ้มไปทำร้ายร่างกาย ชุดทำงานของ บก.ป.ได้ขยายผลจนรู้ว่า ผู้ชายที่ไปพบกับผู้เสียหายในวันที่เกิดเหตุนั้น คือ นายเมฆ เชื้อจีน เมื่อตราวจสอบประวัติก็พบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ 230/2557 ข้อหา "ฉ้อโกง" จึงได้เดินทางไปติดตามตัว ก่อนควบคุมตัวนายเมฆ ที่โรงแรมรัตนศักดิ์ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร แล้วนำตัวมาสอบปากคำที่ บก.ป. จนนายเมฆเปิดปากรับว่า น.ส.ชนิตา ได้ติดต่อทางไลน์ว่าจ้างให้นายเมฆ จำนวน 5 หมื่นบาท ทำทีเป็นลักพาตัวเพื่อเรียกร้องความสนใจจาก นายนิว ซึ่งเป็นแฟนของ น.ส.ชนิตา " ผบ.ตร. กล่าว 

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวอีกว่า เหตุผลที่ น.ส.ชนิตาต้องว่าจ้างนายเมฆ มาทำทีลักพาตัวไปทำร้ายร่างกายนั้น เนื่องจากน.ส.ชนิตา ต้องการคืนดีกับแฟนหนุ่มที่มีีปัญหาเพิ่งเลิกกันไปประมาณ 2 เดือน หลังตกลงว่าจ้างกันเรียบร้อย ในตอนแรกน.ส.ชนิตาได้วางแผนให้นายเมฆ พาไปในป่าที่รกร้างแล้วใช้อาวุธปืนยิงที่แขน แต่นายเมฆได้ปฏิเสธแผนนี้เนื่องจากไม่มีอาวุธปืน ก่อนที่น.ส.ชนิตา จะขอร้องให้นายเมฆช่วยเนื่องจากตั้งท้องกับแฟน แต่นายเมฆ เห็นว่า น.ส.ชนิตา ตั้งท้องอยู่จึงไม่กล้าทำร้าย เลยเปลี่ยนแผนเป็นว่าจะทำเป็นรัดคอ ให้มีรอยที่คอแล้วเอาไปทิ้งในป่า นายเมฆจึงตกลงตรามนั้น เมื่อถึงวันเกิดเหตุ น.ส.ชนิตา และนายเมฆ ได้ช่วยกันใช้เชือกไนลอนที่เตรียมมารัดคอ น.ส.ชนิตา จนเป็นรอยพอสมควร จากนั้นนายเมฆได้ใช้ผ้าเทปกาวมัดมือ และใช้ปิดปาก น.ส.ชนิตา แล้วรีบออกจากจุดเกิดเหตุ ขึ้นแท็กซี่มาลงที่ ซ.รามอินทรา 34 เข้าพักที่ รพีรีสอร์ท จากนั้นก็เดินทางกลับบ้านที่จังหวัดกำแพงเพชร

ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติจากทะเบียนราษฎร์ไม่พบข้อมูลว่า นางสาวชนิตา มีความเกี่ยวข้องกับกรณีเหตุฆาตรกรรม 5 ศพ ครอบครัวปทุมวาสนาแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดพระโขนง ที่369/2556 ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2556 ข้อหา “ฉ้อโกง” โดยมีพฤติกรรมแอบอ้างว่าเป็นญาติกับ ดารา-นักแสดง คือนายเกริกพล มัสยวานิช หรือฟลุ๊ค โดยขณะนั้น นางสาวชนิตา ได้เปลี่ยนชื่อเป็น น.ส.อิชวารย่า มัสยวนิช แล้วไปหลอกเงินผู้เสียหาย ได้เงินจำนวน 80,000 บาท 

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะส่งตัวน.ส.ชนิตา กินนิส ให้พนักงานสอบสวน กก.2.บก.ป. ดำเนินคดีในข้อหา "แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ทำให้ผู้อื่นหรือประชาขนเสียหาย มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 6 ดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะเดียวกันในส่วนของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีที่ผู้ต้องหาทั้งสองคนมีหมายจับอยู่แล้ว ก็ให้มาอายัดตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมานั่งที่โต๊ะจัดเตรียมไว้ต่อหน้าสื่อมวลชน แต่จู่ๆ น.ส.ชนิตา ได้เกิดอาการโมโห นายเมฆ จึงปรี่เข้าทำร้ายร่างกาย พยายามกระโดดถีบ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยกันรั้งตัวเอาไว้ ซึ่งมีความชุลมุนวุ่นวายเล็กน้อย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แยกทั้งคู่นั่งห่างกัน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งคั่นกลาง