'ชัยสิทธิ์'ชูกำปั้นพร้อมสู้ถูกโยงคดีบึ้มศาลอาญา

'ชัยสิทธิ์'ชูกำปั้นพร้อมสู้ถูกโยงคดีบึ้มศาลอาญา

“ชัยสิทธิ์” ชูกำปั้นพร้อมสู้ถูกโยงคดีบึ้มศาลอาญา ยันไม่หนีไปไหน ขอที่ยืนให้กับคน “ตระกูลชินวัตร” เตรียมฟ้องกลับจับพิรุธทหารถามนำผู้ต้องหา

ที่สวนทวดจีบ จ.ปทุมธานี พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารบก และ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด แถลงข่าวเปิดใจกรณีเข้าไปพัวพันกับการปาระเบิดที่ศาลอาญารัชดา ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องความเมตตาธรรมของตนเอง เพราะตนเคยเป็นผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารสูงสุด ใครมาหาเพราะความเดือดร้อนใจตนก็ดูแลไปตามอัตภาพ บางคนมาขอเงิน ขอกินข้าว ตนก็ให้ไป ก็ไม่มีอะไร ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว นานจนตนลืมไปแล้ว ส่วนเจตนาที่ต้องการโยงผมไปเกี่ยวข้องเพื่อต้องการสาวให้ถึงใครหรือไม่นั้น ก็ขอว่าอย่าลากตนเข้าไป

ทั้งนี้ตนคิดว่าเรื่องการข่าว การสอบสวน ตำรวจก็ทำงานดีอยู่แล้ว เพราะทราบล่วงหน้าว่าจะมีการก่อเหต ซึ่งควรจะมุ่งไปในประเด็นนั้นมากกว่ามามุ่งในประเด็นที่ตนเห็นเบอร์โทรศัพท์ของตน กลายเป็นว่าประเด็นมาตกอยู่ที่ตนและเป็นประเด็นใหญ่ แสดงว่ามีเจตนาจะลากตนเข้าไปเกี่ยวใช่หรือไม่ ตนก็ขอร้องว่าอย่าลากตนเข้าไป ในส่ิ่งที่ไม่ถูกต้อง ตนลูกผู้ชายตัวจริงเป็นทหารมารับใช้ประเทศชาติมาก็เยอะ โดยเฉพาะน้องๆ ที่ถามนำผู้ต้องหาอยู่ตลอดเพื่ออะไร ก็เตรียมพบทนายได้เพราะทำให้ตนเสียหาย ตนจะฟ้องร้องทั้งหมด เพราะเขาถามนำตลอด และตนก็ชักจะไม่ไว้วางใจว่าผู้ต้องหาอาจจะโดนกล่อม โดนหลอก ซึ่งตนก็จะต้องคิดว่าจะถูกใส่ร้ายอย่างไร แต่ทั้งนี้ตนเชื่อในกระบวนการยุติธรรม ขอให้เหลือเอาไว้บ้างความยุติธรรม

เมื่อถามว่า การเชื่อมโยงทางการข่าวต้องการกำจัดตระกูลชินวัตรหรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งว่ามีการตั้งธงกันไว้หรือไม่ ซึ่งตนก็ไม่ทราบได้ แต่พฤติกรรมก็มีแนวโน้มอาจจะเป็นไปได้ แต่อย่างไรก็ตามตนมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยว่าคงจะมีจุดยืนตระกูลชินวัตรสักคน ไม่ใช่เป็นตระกูลชินวัตรแล้วล่อหมดทุกคน และล่อโดยไม่มีเหตุและผลพยายามลากเข้าไปซึ่งไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ตนบริสุทธิ์ใจ และไม่คิดว่าจะถูกโยงเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องแบบนี้ และตนก็รักประเทศชาติเหมือนกับทุกๆ คน ประเทศชาติไปได้ดีตนก็ชอบใจ มีระเบิดเกิดขึ้นตนก็ไม่สบาย ตนเกลียดเรื่องการวางระเบิดเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ก็ขอให้กำลังนายกรัฐมนตรี เพราะถือว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่ใช้ได้ ก็ทำงานไปตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน และตนก็จะพยายามเอาใจช่วย ซึ่งตนเป็นคนไทยรักประเทศชาติ และ รักน้องด้วย อย่างไรก็ตาม การที่จะสร้างความปรองดองให้กับคนในชาติก็มีการจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาแล้ว เพียงแต่ยังมีเด็กๆ ที่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องบ้าจี้ หรือคิดว่าตัวเองเป็นใหญ่

“บก.สส.มีหน่วยข่าวอย่างดี ซึ่งผมเชื่อมั่นใจหน่วยข่าวของ ศรภ. และหน่วยข่าวกรองทางทหาร ก็ขอให้เช็กข่าวกันให้ดี และเช็กกันให้ละเอียด ไม่ใช่เจอฝ่ายข่าวที่นั่งเทียน หรือมีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อคนในตระกูลชินวัตร อยากให้เอาความจริงมาพูดกัน อย่าโมเม อย่าลากหรือดึงเข้าไป ซึ่งผมจะไม่หนีไปไหน มีคนอยากให้ผมหนีแต่ผมไม่ไป อยากจะรู้เหมือนกันว่าเมืองไทยผมจะอยู่ไม่ได้ ผมก็เป็นคนไทยเหมือนกันรักในหลวง รักทุกสิ่งทุกอย่างของประเทศไทย ซึ่งขอยืนยันว่าที่ผ่านมาผมไม่เคยเคลื่อนไหวต่อต้าน คสช. อยู่อย่างสงบ เจียมตัว ซึ่งอาจจะถูกเพ่งเล็งบ้าง ขออย่าดึงผมเข้าไปเลยไม่มีประโยชน์อะไรความจริงก็คือความจริง ส่ิงที่ผมไม่สบายใจและอยากฝากถึง คสช. ก็คือ ผบ.พล. 1 รอ. บอกว่าจะออกหมายจับผมก็เอาเลย ก็ให้ออกหมายจับมาว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม ผมก็อยากจะรู้แค่สมุดโทรศัพท์มีชื่อผม และศาลจะออกหมายจับก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าประเทศจะเป็นอย่างไร" ชัยสิทธิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อมารขอข้อมูลแต่อย่างไร ซึ่งผมก็พร้อมที่จะให้ข้อมูล และไม่หนีไปไหน” พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากจบการแถลงข่าว พล.อ.ชัยสิทธิ์ ได้ชูกำปั้นพร้อมกับตะโกนว่าพร้อมสู้ พร้อมกับรอยยิ้มของนักสู้