อย.กำหนดร้านขายยา'สเตียรอยด์' ดีเดย์อีก3เดือน

อย.กำหนดร้านขายยา'สเตียรอยด์' ดีเดย์อีก3เดือน

อย.กำหนดร้านขายยา'สเตียรอยด์'ดีเดย์อีก 3 เดือน ร้านละไม่เกิน 1,000 เม็ดต่อเดือน

ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ปัญหาการลักลอบผสมสารสเตียรอยด์ลงในผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ เช่น ยาชุด ยาลูกกลอน ยาแผนโบราณที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน เครื่องดื่มสมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ผิดกฎหมาย เป็นต้น ยอมรับว่าส่วนหนึ่งเกิดจากการรั่วไหลของสารสเตียรอยด์จากระบบบริการสาธารณสุข ทั้งในส่วนของการผลิตและนำเข้า ซึ่งสารสเตียรอยด์มีฤทธิ์ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอาการดีขึ้น เมื่อมีการอวดอ้างสรรพคุณรักษาสารพัดโรค จึงทำให้ประชาชนหลงเชื่อและซื้อมารับประทานจำนวนมาก ถือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เนื่องจากจะทำให้ผนังทางเดินอาหารบาง จนถึงขั้นทะลุ กระดูกบางเสี่ยงเปราะหักง่าย หากหยุดยาทันทีอาจทำให้ความดันโลหิตตกลง หมดสติ ถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยขณะนี้ อย.พยายามเร่งให้ความรู้ประชาชนโดยจัดกิจกรรมรณรงค์ให้รู้เท่าทันผลิตภัณฑ์ที่ลอบผสมสารสเตียรอยด์ เพื่อเป็นการปกป้องตนเอง

ภก.ประพนธ์ กล่าวอีกว่า จากการทำให้ประชาชนมีความรู้แล้ว ในช่วง 3 เดือนนี้ อย.จะเก็บข้อมูลปัญหาการใช้สเตียรอยด์ไม่เหมาะสม หากยังพบว่ายังคงมีการลักลอบใช้อย่างผิดกฎหมาย อย.ก็เตรียมที่จะออกประกาศให้ร้านขายยารับยาสเตียรอยด์ทั้งจากที่ประเทศไทยผลิตเองหรือนำเข้ามาจำหน่ายในร้านได้เพียงร้านละ 1,000 เม็ดต่อเดือน และจะจ่ายได้ต่อเมื่อมีใบสั่งแพทย์เท่านั้น เนื่องจากเป็นยาควบคุมพิเศษ โดยต้องจัดทำบัญชีการรับยาสเตียรอยด์ว่ามาจากแหล่งใด จำนวนเท่าไร และจำหน่ายไปเท่าไร เพื่อให้ อย.ตรวจสอบด้วย ซึ่งหากมาตรการนี้ยังไม่สามารถแก้ปัญหาการรั่วไหลของสารสเตียรอยด์ในระบบได้ อย.จะยกระดับมาตรการให้ “สเตียรอยด์” จำหน่ายได้แต่เฉพาะในโรงพยาบาลเท่านั้น

“หากทั้ง 2 มาตรการยังคงไม่ได้ผล และยังมีการลักลอบนำสารสเตียรอยด์มาผสมลงในผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ อยู่อีก ปัญหาอาจเกิดขึ้นจากการลักลอบการนำเข้าสารสเตียรอยด์อย่างผิดกฎหมาย ซึ่งตรงนี้ อย.จะให้ด่านอาหารและยา ซึ่งมีอยู่ 44 แห่งทั่วประเทศ ดำเนินการเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าสเตียรอยด์ให้เข้มข้นขึ้น ซึ่งล่าสุด อย.ได้ทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขของแต่ละเขตสุขภาพ เพื่อให้สนับสนุนการดำเนินงานในด่านอาหารและยาแล้ว เนื่องจากบุคลากรของ อย.ไม่เพียงพอ” ภก.ประพนธ์ กล่าว