คุก10ปี'ประเสริฐ'คดีเพชรซาอุ

ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาคดีที่อัยการ เป็นโจทก์ฟ้อง พันตำรวจเอกประเสริฐ จันทราพิพัฒน์ อดีตผู้กำกับการตำรวจม้า กองบังคับการตำรวจสายตรวจ (ยศขณะนั้น) จำเลยร่วมกับพลตำรวจโทชลอ เกิดเทศ อดีตผู้บัญชาการประจำกรมตำรวจ กับพวกรวม 8 คน ฐาน ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ,ร่วมกันเบียดบังยักยอกทรัพย์ของผู้อื่นเป็นของตนเองโดยทุจริตและความผิดอื่นๆ หลายข้อหา

จากกรณียักยอกทรัพย์สินและเครื่องเพชร ของเจ้าชายไฟซาล ประเทศซาอุดิอาระเบียของกลาง ในคดีที่นายเกรียงไกร เตชะโม่ง คนงานไทยขโมยกลับประเทศมาโดยไม่นำของกลางส่งคืนให้พนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม2536

สำหรับพลตำรวจโทชลอ ถูกศาลจำคุก 20 ปี และคดีสิ้นสุดไปในชั้นอุทธรณ์เช่นเดียวกับจำเลยร่วมคนอื่นในคดีนี้ที่คดีสิ้นสุดแล้วเช่นกัน

ส่วนพันตำรวจเอกประเสริฐ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุก 10 ปี และพันตำรวจเอกประเสริฐ ยื่นฎีกาสู้คดีเพียงคนเดียว

ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่าโจทก์มีพยาน 4ปาก เบิกความสอดคล้องต้องกันว่าพันตำรวจเอกประเสริฐ เดินทางไปยังบ้านพักของผู้ต้องหาที่รับซื้อทรัพย์สิน ที่ถูกขโมยมาจากประเทศซาอุดิอาระเบีย พร้อมรับเงินจำนวน 6 แสน 6 หมื่นบาท โดยไม่นำส่งพนักงานสอบสวน และการสอบปากคำพยานโจทก์มีข้าราชการฝ่ายมหาดไทยและนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ร่วมในการสอบสวนรวมทั้งสิ้น5ครั้ง มีการบันทึกถ้อยคำละเอียดถี่ถ้วน และพยานเบิกความตรงกัน ซึ่งคดีมีความซับซ้อนยากที่จะปรุงแต่งขึ้น ฎีกาของพันตำรวจเอกประเสริฐ ที่ระบุว่าไม่มีพยานยืนยันว่าเรียกรับทรัพย์สินจากผู้ต้องหานั้นฟังไม่ขึ้น จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์จำคุก 10ปี