'ยรรยง'เปิดตัวหนังสือ'ฟังชาวนาบ้าง'

'ยรรยง'เปิดตัวหนังสือ'ฟังชาวนาบ้าง'

"ยรรยง พวงราช"เปิดตัวหนังสือ"ฟังชาวนาบ้าง" ลั่น"จำนำข้าว"ช่วยชาวนา ยันรัฐบาลเปรม-ชวน-สุรยุทธ์ เคยใช้โครงการ

ที่ห้องกระดังงา โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ถนนพระราม 9 นายยรรยง พวงราช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ"ฟังชาวนาบ้าง" โดยมีนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการรกระทรวงพาณิชย์ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาร่วมงานเปิดตัวหนังสือด้วย

นายยรรยง กล่าวว่า ชีวิตชาวนาตอนนี้ยังมีฐานะไม่ดี จึงอยากให้ชาวนาหลุดพ้นจากหนี้สิน แต่เพิ่งมาเห็นว่าในช่วงโครงการรับจำนำข้าวชาวนาหน้าตาสดใส คิดว่าเป็นแสงสว่างความหวังที่มองเห็น แต่ตอนนี้หน้าเริ่มห่อเหี่ยว เพราะนโยบายรับจำจำถูกตราหน้าว่าเป็นประชานิยม หากสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ไปเขียนห้ามไว้ตนก็จะเสียใจว่าไม่ให้ทำโครงการที่ช่วยเหลือชาวนา โดยเหตุผลที่เขียนหนังสือนี้เพราะอยากสะท้อนความรู้สึกของชาวนาว่ามีความคาดหวังอย่างไร ตนได้เกี่ยวข้องในฐานะผู้ขับเคลื่อนนโยบายรับจำนำ และเคยขับเคลื่อนนโยบายประกันรายได้มาแล้ว จึงมองเห็นความแตกต่างชัดเจน ระหว่างโครงการรับจำนำ ประกันราคา และการชดเชยต้นทุน

นายยรรยง กล่าวต่อว่า หนังสือเล่มนี้ ต้องการตีแผ่ชีวิตชาวนา และต้องการตีแผ่หรือแฉโครงการช่วยเหลือชาวนาในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้คนเกี่ยวข้องรับทราบข้อมูล ทั้งนักวิชาการ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) สปช. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) ศาลปกครอง และศาลที่เกี่ยงข้อง ที่กำลังจะตัดสินและกำหนดนโยบายเรื่องการช่วยเหลือชาวนาทั้งหมด ตนอยากให้ตั้งสติดู และให้ทุกคนที่มีส่วนตัดสินใจว่า จะยุบโครงการรับจำนำข้าวหรือจะใช้โครงการประกันรายได้ เพื่อจะให้ทุกฝ่ายมีเวลาตั้งตัว มองภาพให้ครบ และมองในมุมของชาวนาว่าได้รับอานิวสงค์จากนโยบายนี้

นายยรรยง กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา 2-3 ปีที่คนเข้าใจผิดมากคือการรับจำนำเกิดขึ้นจากรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ในหนังสือจะเเฉว่าทุกรัฐบาลตั้งแต่รัฐบาลพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นต้นมามีโครงการรับจำนำข้าวทั้งหมด ทั้งรัฐบาลพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ รัฐบาลนายชวน หลักภัย 1 รัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รัฐบาลนายชวน 2 รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 1 และ2 รัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มาเว้นในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เป็นโครงการประกันราคา แต่มาถึงรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็กลับมาใช้กลไกรับจำนำเช่นเดิม ซึ่งการรับจำนำข้าวเป็นส่วนที่ดีของรัฐบาล แต่ไม่มีรัฐบาลประเทศไหนปิดบัญชีว่าขาดทุนเท่าไหร่ เพราะต้องการช่วยเกษตกร ความชอบธรรมที่ช่วยชาวนาจึงไม่ใช่เรื่องจะคิดว่าเป็นเรื่องเสียหายหรือขาดทุน

นายยรรยง กล่าวด้วยว่า เรื่องข้าวไม่มีใครมองมุมถึงชาวนา เหมือนตาบอดคลำช้าง แต่หนังสือเล่มนี้ครบมุมที่จะดูได้ คนตัดสินคดีอย่านึกว่าจะตัดสินแล้วไม่มีผลกระทบกับชาวนา เพราะการตัดสินเรื่องนโยบายข้าวจะกระทบชาวนาแน่นอน อยากให้ฟังชาวนาก่อนที่จะตัดสินใจอะไร คนที่เกี่ยวข้องถ้าไม่ได้อ่านจะเสียดายมาก เพราะแต่ละคนมองเฉพาะมุมเท่านั้น จึงอยากให้สื่อช่วยเผยแพร่ให้คนได้มาอ่านหนังสือนี้ทั้งงหมด อย่างไรก็ตาม หนังสือเล่มนี้ไม่มีประเด็นไหนตอบโต้และกล่าวหาใคร เป็นการแฉความจริงทั้งหมดว่านโยบายนี้เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ช่วยชาวนา ไม่มีคำโจมตีแต่ตั้งข้อสังเกตบ้างว่านโยบายประกันต่างกับนโยบายจำนำอย่างไร หนังสือเล่มนี้ เหมือนจะเป็นการเมืองเล่มเดัยวที่ไม่โจมตีทางการเมือง

"การที่ฝ่ายต่างมาขุดขุ้ย ผมไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ขุดขุ้ยแต่ประกันรายได้เสียหายเป็นแสนล้าน ขาดทุนเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะรัฐบาลนั้นได้จ่ายเงิน แต่ไม่มีรายรับ มีแต่รายจ่าย คนขาดทุนจริงๆคือชาวนนา ที่สังคมพูดตอนนี้ว่าโครงการรับจำนำเสียหาย 5 แสนล้าน ผมก็เสียดายเพราะบวกจากรัฐบาลอื่นมาด้วย หนับสือเล่มนี้ไม่ได้แก้ตัว แต่อยากให้เป็นมุมมองคนตัดสิน เรื่องความเสียหายเพราะใช้จ่ายเพื่อประชาชน เป็นการลงทุน ส่วนเรื่องที่บอกว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์เปิดช่องทุจริตทุกขั้นตอน หนังสือเล่มนี้จะแฉทั้งหมดว่า 13 ขั้นตอนรัฐบาลได้ทำอะไรไปบ้าง รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ปิดช่องการทุจริตอะไรบ้าง หนังสือเล่มนี้จะแฉหมด"นายยรรยง กล่าว

นายชัย วัชรงค์ ผู้จัดรายการเรื่องการเกษตร กล่าวว่า เป็นหนังสือเล่มแรกที่ได้ใจชาวนาจริงๆ ซึ่งกลไกการตลาดค้าข้าวเมืองไทยถูกบิดเบือนกลไกที่มีอยู่ เพราะกลไกเดิมได้ผิดเพี้ยน เป็นกลไกเสรีแต่ไม่เป็นธรรม ชาวนามีอำนาจต่อรองน้อย ชาวนาไม่มีเครื่องมือต่างๆ จึงต้องรีบขายข้าว ทำให้กลไกนี้ชาวนาเสียเปรียบ ใครอยากให้มีกลไกนี้ เชื่อว่าผลลัพธ์อีก 50 ปีชีวิตชาวนาไม่มีทางดีขึ้น ซึ่งในความเห็นของตนคิดว่าโครงการนี้ได้แทรกแซงเพราะของเดิมมีปัญหา ถ้าไม่แทรกแซงกลไกนี้ชีวิตชาวนาจะไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ ทั้งนี้ ข่าวที่ออกมาเมื่อ 14 พ.ย. ว่าโครงการนี้ขาดทุนหลายแสนล้านเป็นการคลาดเคลื่อนอย่ายิ่ง เป็นการเข้าใจผิดทั้งหมด จึงอยากให้สื่อมวลชนไปตรวจสอบข้อมูลด้วย

ด้านนายวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมายังไม่มีรัฐบาลไหนแก้ปัญหานี้ระยะยาว ถามชาวนาได้โครงการรับจำนำได้เงินดีที่สุด สื่อเป็นตัวสำคัญที่จะนำเราไปทิศทางที่ถูกต้อง ที่บอกขาดทุนสื่อไม่ได้รู้เอง ฟังมาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่การขาดทุนเพื่อขาวนาไม่ได้หรืออย่างไร แต่ปัจจุบันการผลิตต้นทุนสูง ผลผลิตต่ำ ตนจึงอยากให้รัฐบาลนี้ออกกฎหมายสวัสดิการชาวนาเหมือนเกาหลี ญี่ปุ่น เพื่อช่วยเหลือชาวนา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือของนายยรรยง มีการเปิดวิดีโอกลุ่มชาวนากลุ่มหนึ่งแต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นชาวนาจังหวัดอะไรที่อธิบายความลำบากจากการทำนา จากต้นทุนการทำนาที่สูง แต่กลับขายข้าวไม่ได้ราคา จึงขอสนับสนุนโครงการรับจำนำว่าเป็นโครงการที่ดี ให้คะแนนเต็มร้อยสามารถมีเงินไปใช้หนี้และมีเงินเหลือไปลงทุนต่อได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหนังสือเล่มนี้จะเปิดขายวันที่ 3 ธ.ค. ราคา 150 บาท มีหน้าปกเป็นภาพชาวนากำลังใช้ผ้าขาวม้าปาดเหงื่อที่ใบหน้า โดยหนังสือมีจำนวน 148 หน้า 4 สี มีทั้งหมด 10 ตอน อาทิ นโยบายอะไรตอบโจทย์ชาวนาไทย ประกันราคา...เรื่องนี้มีที่มา (นวัตกรรมสวมต่อ) ทำไมรัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องจำนำข้าว รับจำนำข้าวบิดเบือนกลไกราคาตลาดจริงหรือ รับจำนำข้าวเปิดให้ทุจริตทุกขั้นตอนและทุจริตเชิงนโยบายจริงหรือ เป็นต้น โดยเนื้อหาในหนังสือได้อธิบายถึงความยากลำบากของชาวนาต่อการทำนา ที่ไม่สามารถขายข้าวให้ได้ราคา แต่เมื่อเข้าสู่ยุครัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เห็นว่าโครงการประกันราคาข้าวไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของชาวนาได้ จึงประกาศใช้นโยบายรับจำนำข้าว ด้วยการรับจำนำข้าวเปลือก ราคาตันละ 15,000 บาท และราคาข้าวหอมมะลิ ราคาตันละ 20,000 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ ในหนังสือได้ให้เหตุผลถึงการผลักดันโครงการรับจำนำข้าวเพื่อยกระดับรายได้ชาวนา จากต้นทุนการผลิตที่สูง ช่วยพัฒนากลไกตลาดในประเทศเพื่อให้ราคาข้าวสูงขึ้น การตั้งสมมติฐานว่ากลไกตลาดข้าวถูกบิดเบือนเป็นสมมติฐานไม่ถูกต้องและนำมาสู่การวิจัยที่ผิดพลาด ส่วนมาตราการป้องกันการทุจริตของโครงการนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้กำหนดหลักเกณฑ์การรับจำนำเพื่อป้องกันการทุจริตทุกขั้นตอน การตั้งสมมติฐานว่ามาตราการการรับจำนำเป็นประชานิยม ซึ่งรัฐบาลคิดขึ้นเพื่อเปิดช่องการทุจริตและหาเสียงนั้น จึงไม่ถูกต้องและนำไปสู่การวินิจฉัยที่ผิดพลาดตามมาด้วย

"ส่วนตัวเลขขาดทุนของโครงการรับจำนำข้าว เมื่อพินิจจากแต่ละฝ่ายที่คัดค้านออกมาแจกแจง ก็พบว่าไม่ตรงกัน บ้างก็ว่าขาดทุน 2 แสนล้าน บ้างก็ว่าขาดทุน 4 แสนล้าน และบ้างก็ว่า 5 แสนล้าน แต่ทั้งหมดเคยมองด้านผลตอบแทน จากโครงการรับจำนำข้าวกันบ้างไหม ตกลงโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ขาดทุนจริงหรือ หรือเป็นเพียงตัวเลขชี้นำ ที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อทำลายโครงการรับจำนำข้าวเท่านั้น รวมถึงเป็นตัวเลขที่ไม่สามารถวิเคราะห์ความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ แต่ทั้งหมดนั้นก็ทำให้ปัญญาชนเมื่อฟังแล้ว อดฉงนไม่ได้ในข้อเท็จจริงที่ปรากฎ"นายยรรยงกล่าวไว้ตอนหนึ่งในบทนำหนังสือ