'อุดมเดช'บินร่วมประชุมผบ.ทบ.อาเซียน

'อุดมเดช'บินร่วมประชุมผบ.ทบ.อาเซียน

"อุดมเดช"บินร่วประชุมผบ.ทบ.อาเซียนวันที่25-29พ.ย. ประเทศเวียดนาม หวังเสริมสร้างการทำงานของกองทัพระดับอาเซียน

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีกำหนดเดินทางเข้าร่วมการประชุมผู้บัญชาการทหารบกกลุ่มประเทศอาเซียน ครั้งที่ 15 (ASEAN Chiefs of Armies Multilateral Meeting : ACAMM - 15) ระหว่างวันที่ 25 - 29 พ.ย. ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งเป็นการประชุมที่จัดขึ้นเพื่อให้ผู้บัญชาการทหารบกมิตรประเทศ อาทิ ไทย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไน เวียดนาม กัมพูชา ลาว แลพพม่า ได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยมีกองทัพบกของประเทศอาเซียนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ และมีหัวข้อการประชุมตามสถานการณ์ของภูมิภาคและสถานการณ์โลกในขณะนั้น

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวต่อว่า ในการประชุมผู้บัญชาการทหารบกกลุ่มประเทศอาเซียน ครั้งนี้มีหัวข้อหลักในการประชุม คือ “การเสริมสร้างการทำงานร่วมกันของกองทัพบกกลุ่มประเทศอาเซียนในการจัดการกับภัยคุกคามรูปแบบต่างๆ ” ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกไทยจะได้มีโอกาสแสดงวิสัยทัศน์ในที่ประชุม พร้อมทั้งได้พบปะหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นทั้งในแบบพหุภาคี และทวิภาคี กับผู้บัญชาการทหารบกกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อร่วมกันเสริมสร้างความมั่นคงในภูมิภาคให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมทั้งได้เข้าเยี่ยมคำนับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเวียดนาม และเยี่ยมชมหน่วยทหารของกองทัพเวียดนาม นอกจากนี้ ฝ่ายเสนาธิการของกองทัพบกกลุ่มประเทศอาเซียนก็จะได้มีโอกาสพบปะหารือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันด้วย

ในโอกาสเดียวกันนี้ผู้บัญชาการทหารบกจะเข้าร่วมในพิธีปิดการทดสอบยิงปืนทางยุทธวิธีกองทัพบกกลุ่มประเทศอาเซียนครั้งที่ 24 ซึ่งเป็นกิจกรรมคู่ขนานที่จัดคู่กับการประชุมผู้บัญชาการทหารบกกลุ่มประเทศอาเซียนด้วย โดยในปี 2559 กองทัพบกไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้บัญชาการทหารบกกลุ่มประเทศอาเซียนครั้งที่ 16 และการทดสอบยิงปืนทางยุทธวิธีกองทัพบกกลุ่มประเทศอาเซียนครั้งที่ 25

สำหรับการจัดประชุมผู้บัญชาการทหารบกกลุ่มประเทศอาเซียนเป็นเวทีการประชุมที่ริเริ่มโดยกองทัพบกไทยตั้งแต่ปี 2543 และกองทัพบกไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมมาแล้ว 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 และ ครั้งที่ 8 ซึ่งผลของการประชุมในหลายครั้งที่ผ่านมา ทำให้เกิดความร่วมมือด้านการทหารและความมั่นคง รวมถึงข้อตกลงในเรื่องอื่นๆอาทิ การจัดแข่งขันกีฬา โครงการพัฒนาความสัมพันธ์ของนายทหาร และการบรรเทาสาธารณภัย เป็นต้น