'ธนะศักดิ์'ติวทูตไทยในยุโรป

(รายงาน) "ธนะศักดิ์"ติว"ทูตไทย"ในยุโรป สั่งยืนยันโรดแมพ-ส่งเสริมเศรษฐกิจ
ประเทศในภูมิภาคยุโรปมีความสำคัญ ในเชิงการดำเนินยุทธศาสตร์เสริมสร้างประสิทธิภาพการแข่งขันทางเศรษฐกิจของไทยกับประเทศต่างๆ ซึ่งยุโรปเป็นประเทศคู่ค้า และมีมูลค่าการลงทุนที่สูงสุดในไทย
ภายหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าควบคุมการบริหารประเทศ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 ทางกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ได้มีมาตรการต่อไทย หนึ่งในนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ นั่นคือการชะลอความร่วมมือ และยกเลิกการลงนามข้อตกลงความร่วมมือหุ้นส่วนกับไทย ทำให้ประเทศไทยเดินหน้าชี้แจงพัฒนาการทางการเมืองของไทย ควบคู่ไปกับการเรียกความเชื่อมั่นจากต่างประเทศ เพื่อให้รัฐบาลและนักลงทุนในยุโรปให้เกิดความมั่นใจ นำไปสู่การค้าการลงทุนทางยุโรปกลับมายังประเทศไทยคงเดิม
ระหว่างที่เดินทางร่วมคณะกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมผู้นำอาเซม ครั้งที่ 10 นั้น พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ประชุมร่วมกับเอกอัครราชทูตไทย 11 ประเทศในภูมิภาคยุโรป และเป็นโอกาสที่ พล.อ.ธนะศักดิ์ ได้มอบนโยบายยุทธศาสตร์ให้กับสถานเอกอัครราชทูตไทยในยุโรปไปดำเนินการ มุ่งสานต่อความสัมพันธ์กับประเทศในยุโรปให้เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง
นายวิทวัส ศรีวิหค เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก ให้สัมภาษณ์ว่า ได้มีการพูดคุยในเรื่องแนวทางการสร้างความเชื่อมั่นให้กับไทย หลังจากที่ได้ผ่านพ้นเหตุการณ์มาระยะเวลาหนึ่งตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. ที่คสช.เข้าควบคุมการบริหารประเทศ และได้ประกาศโรดแมพมุ่งให้เกิดการปฏิรูปประเทศอย่างยั่งยืน
โดยให้มีการจัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาปฏิรูปแห่งชาติ รวมทั้งการสรรหาคณะกรรมการที่จะยกร่างรัฐธรรมนูญ จะเห็นว่าสถานการณ์ภายในไทยมีพัฒนาการขึ้นมาเป็นลำดับ และมีความมั่นคงมากขึ้น เป็นที่ปรากฎชัดในกลุ่มประเทศยุโรป
สิ่งที่เกิดขึ้นไทยจะต้องย้ำกับประเทศในยุโรป ซึ่งเป็นเพื่อนของไทยว่า ไทยยังคงยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย เพียงขอเวลาให้ได้ดำเนินการ เพื่อที่จะสร้างความสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้นภายในบ้านเมือง
นายวิทวัส ระบุว่า ในการประชุมเอกอัครราชทูตยุโรปครั้งนี้ ประการแรก พล.อ.ธนะศักดิ์ ได้มอบนโยบายขอให้ทูตทั้งหลายดำเนินการอย่างแข็งขันต่อไป ในเรื่องการเรียกความเชื่อมั่นจากยุโรปให้กลับคืนมากที่สุด ประเทศใดที่ยังมีความเชื่อมั่นเป็นมิตรอยู่กับไทยอยู่ก็ให้คงไว้ และขอให้วางใจว่า เราทำตามคำมั่นสัญญา และเป็นไปตามกำหนดระยะเวลาที่เราได้พูดเอาไว้
โรดแมพจะเป็นสิ่งที่สร้างความเชื่อถือให้ประเทศต่างๆ แล้วก็ต้องขยายผลให้มากยิ่งขึ้น
ประการที่สองคือ การส่งเสริมการแข่งขันทางเศรษฐกิจให้กับไทย เป็นก้าวต่อไปที่ต้องทำควบคู่ไปกับการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสถานการณ์ภายในประเทศ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นมิตรประเทศสำคัญ ทั้งเป็นตลาดการค้า ตลาดการค้าเทคโนโลยี นวัตกรรมที่สำคัญ
ไทยยังจำเป็นต้องมีความร่วมมือกับทางยุโรป เพื่อแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดเทคโนโลยี รวมทั้งส่งเสริมความเจริญทางเศรษฐกิจและพัฒนาการของประเทศไทย
"ในเรื่องการส่งเสริมการแข่งขันทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ พล.อ.ธนะศักดิ์ ได้มอบการบ้านให้เอกอัครราชทูตไทยในภูมิภาคยุโรป ในการแสวงหาแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อที่ได้นำมาเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการพัฒนาประเทศไทย เป็นข้อหนึ่งในการส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน"
นายวิทวัส กล่าวด้วยว่า เรื่องหนึ่งที่สำคัญ การที่อาเซียนกำลังจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเป็นรูปแบบในปีหน้า อันนี้เป็นจุดหนึ่งที่ประเทศในยุโรปมีความสนใจที่จะเป็นพันธมิตรทางด้านเศรษฐกิจกับไทย ในฐานะที่ไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียน เป็นจุดหนึ่งที่จะเพิ่มขีดความสามารถของไทย นี่เป็นหน้าที่ของสถานทูตที่จะดำเนินการอย่างแข็งขัน
พล.อ.ธนะศักดิ์ ยังได้กล่าวถึงภาคเอกชนที่ต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับภาครัฐ ในการขยายตลาดการค้า การลงทุนในภูมิภาคยุโรป ซึ่งการลงทุนที่ว่าต้องทำรอบด้าน ทั้งการร่วมมือกับประเทศในยุโรป การดึงดูดการลงทุนของยุโรปมาในไทยและอาเซียน
สำหรับ ประการที่สาม พล.อ.ธนะศักดิ์ ได้กำชับให้สถานทูตไทยในยุโรปได้ดูแลชุมชนไทยในต่างประเทศให้อบอุ่นใกล้ชิด เนื่องจากชุมชนไทยในต่างประเทศจะเป็นผู้ที่พูดแทนประเทศไทยได้อย่างดีเช่นเดียวกัน โดยได้แนะให้สถานทูตไทยใช้วัฒนธรรม ดนตรี เรื่องกงสุลสัญจร รวมทั้งกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนไทย และก่อให้เกิดชุมชนไทยที่เป็นปึกแผ่น ไม่เฉพาะชุมชนไทยในยุโรปแต่ทั่วโลก
ด้านนายธีรกุล นิยม เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงออสโล นอร์เวย์ กล่าวว่า ตอนนี้ประเทศในยุโรปเห็นความตั้งใจจริงของไทย ในการดำเนินการตามโรดแมพที่ขณะนี้อยู่ในขั้นที่สอง และบางเรื่องก็ดำเนินการได้ก่อนกำหนดตามกรอบเวลาด้วยซ้ำ ทำให้แนวโน้มมีความเชื่อมั่นที่มีไปทางเชิงบวก
ที่ประชุมยังได้คุยเรื่องการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจกับประเทศในยุโรป โดยที่ประชุมเห็นร่วมกันว่า ปัจจัยสำคัญที่ประเทศไทยเป็นประตูสู่การค้าการลงทุน ทั้งด้านกายภาพ จิตวิทยา จิตวิญญาณ และเป็นประเทศสายกลาง ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางโครงข่ายเชื่อมยุโรปไปกับประเทศต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
ขณะที่นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า พล.อ.ธนะศักดิ์ ได้เน้นว่าต้องไปพูดจาอย่างสร้างสรรค์ ในช่วงนี้สิ่งที่จำเป็นต้องพูดและทำอย่างจริงจัง นั่งคือ อธิบายถึงเส้นทางข้างหน้า นับจากนี้ไปจนถึงประเทศกลับคืนสู่ประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน แม้ว่าเรื่องหลักๆ จะสามารถดำเนินเชื่อมความสัมพันธ์กันได้ในทุกด้าน แต่จะต้องทำให้ดีขึ้นอีก ในส่วนของเนเธอร์แลนด์ ประเทศที่มีความใกล้ชิดอยู่แล้วต้องใกล้ชิดเข้าไปอีก ทั้งระดับรัฐบาล ราชการและประชาชน
ขณะที่ความสัมพันธ์ทวิภาคี ด้านเศรษฐกิจจะต้องส่งเสริมเพิ่มเติม โดยที่ไทยเป็นผู้นำเข้าสินค้าอันดับหนึ่งของเนเธอร์แลนด์ หรือทุกปีไทยจะต้องขยายการค้าการลงทุนกับเนเธอแลนด์เพิ่มขึ้นไปอีก โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว จะต้องให้ความเชื่อมั่นว่า ไทยยังเป็นประเทศท่องเที่ยวที่สำคัญ







