เปิด 6 ประเด็นค้าน 'พ.ร.บ.ยา' ฉบับใหม่

ปมค้าน ร่าง พ.ร.บ.ยาฉบับใหม่ ของคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดข้อเรียกร้องสภาเภสัชกรรม 6ประเด็นร้อน
กระแสคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.ยาฉบับใหม่ ของคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ยังคงเป็นประเด็นร้อนในวงการเภสัชกรทั่วประเทศ หลัง 19 เครือข่ายวิชาชีพเภสัชกรรม ออกแถลงการณ์คัดค้าน เนื่องจากเห็นว่า พ.ร.บ.ยาฉบับใหม่นี้ จะส่งผลเสียต่อระบบยาทั้งประเทศ โดยเฉพาะอันตรายที่จะเกิดกับประชาชน จากการอนุญาตให้วิชาชีพสุขภาพนำยาที่ขึ้นทะเบียนแล้ว มาผสมทำยาที่เป็นสูตรตำรับของตนเองได้ โดยไม่ต้องขอ อย. ไม่ต้องเปิดเผยสูตรยา
ทั้งนี้ การยกร่างและแก้ไข พ.ร.บ.ยา นั้นทำมานาน 17 ปี แล้ว ตั้งแต่ปี 2542 เพื่อทดแทนฉบับปี 2510 ซึ่งขณะนั้นมีประเด็นที่ต้องแก้ไขอยู่ประมาณ 10-20 ประเด็น แต่เกิดความขัดแย้งจนกระทรวงสาธารณสุขต้องถอนเรื่องออกมาเมื่อปี 2548 เพื่อปรับปรุงและเสนอใหม่อีกครั้งเมื่อปี 2549 ซึ่งมีข้อตกลงร่วมกันหลายข้อ และกำลังจะถูกนำเข้าสภา สนช. ในปี 2557 แต่เครือข่ายวิชาชีพเภสัชกรรมก็ออกมาคัดค้าน
ล่าสุด อย.ได้ร่วมหารือกับเครือข่ายวิชาชีพเภสัชกรรมแล้วมีความเห็นร่วมกันให้ส่งตัวแทนจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาหาในรายละเอียดรายมาตราของ พ.ร.บ.ยา ฉบับใหม่นี้ โดยจะเชื่อว่าจะมีข้อสรุปร่วมกันได้ภายใน 2 สัปดาห์ก่อนจะส่งข้อเสนอดังกล่าวให้รัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุขพิจารณาอีกครั้ง
สำหรับข้อเรียกร้องของสภาเภสัชกรรมให้แก้ไข ร่าง พ.ร.บ.ยา ฉบับ พ.ศ. ... นั้นมีด้วยกัน 6 ประเด็น ประกอบด้วย
1.ขอให้นิยามประเภทของยาให้ชัดเจน 2.การจ่ายยาต้องดำเนินการโดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม และผู้ประกอบวิชาชีพด้านเภสัชกรรมแผนไทย ส่วนวิชาชีพอื่นๆ หากจำเป็นต้องจ่ายยาขอให้ไปเขียนไว้ในหมวดยกเว้นมาตรา 24 แทน
3.กรณีการผสมยาถือเป็นการผลิตยาใหม่ต้องมีการควบคุมเข้มข้น โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ การผสมยาเพื่อผู้ป่วยให้วิชาชีพอื่น เช่น แพทย์สามารถทำได้ในระหว่างการทำหัตการให้ผู้ป่วย และกรณีเร่งด่วน แต่ไม่ควรอนุญาตให้วิชาชีพอื่นๆ ผสมยาเพื่อเตรียมจ่ายให้กับผู้ป่วยที่ไม่ใช่กรณีเร่งด่วน
และอีกกรณีคือการผลิตยาในระบบอุตสาหกรรมนั้นในส่วนของเจ้าของกิจการจะเป็นใครก็ได้ แต่ผู้ควบคุมการผลิตต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ทางด้านยาอย่างแท้จริง ซึ่ง พ.ร.บ.ยาเดิมก็ระบุเอาไว้ชัดเจนว่าเป็นความรับผิดชอบของเภสัชกรควบคุม
4.ขอให้ตัดข้อความในมาตรา 24 พ.ร.บ.ยาฉบับใหม่ซึ่งเขียนไว้ไม่ชัดเจนทำให้ตีความได้ว่าวิชาชีพอื่นใดก็สามารถเปิดร้านขายยาได้โดยไม่ต้องขออนุญาต และให้เพิ่มข้อความว่าการเปิดร้านขายยาจะต้องมีการขออนุญาตและตรวจสอบอย่างเข้มงวด
5.ขอให้คงข้อความเรื่องการห้ามโฆษณายาอันตรายตาม พ.ร.บ.ยา 2510 เอาไว้เช่นเดิมเพราะถือเป็นยาควบคุมพิเศษห้ามโฆษณา ส่วนยาสามารถโฆษณาได้นั้นตาม พ.ร.บ.เดิมอนุญาตเฉพาะยาสามัญประจำบ้านเท่านั้น ในขณะที่พ.ร.บ.ยาฉบับใหม่ ไม่ได้กำหนดตรงนี้เอาไว้ จึงเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับประชาชน เพราะพ.ร.บ.ใหม่เขียนแค่ว่า การโฆษณาต้องขออนุญาต อาจจะตีความได้ว่ายาอันตรายก็สามารถโฆษณาได้
6.ขอให้เพิ่มเติมข้อห้ามการขายยาชุด ยาแบ่งขาย ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายกับผู้บริโภคมากเพราะนอกจากยาแต่ละประเภทมีลักษณะการเก็บรักษาที่แตกต่างกันแล้ว ขณะนี้ยาชุดถือว่าเป็นปัญหาของประเทศไทยมาเพราะพบการผสมสเตียรอยด์เข้าไปด้วย




