สนช.รับหลักการร่างพรบ.การทวงหนี้

สนช.รับหลักการร่างพรบ.การทวงหนี้

สนช.รับหลักการร่างพ.ร.บ.การทวงหนี้กำหนดให้มีคณะกรรมการกำกับการทวงหนี้ พร้อมบทลงโทษผู้ฝ่าฝืน มีโทษ

ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)โดยมีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.ทำหน้าที่ประธาน ต่อมาที่ประชุมได้พิจารณาร่างพ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ....ซึ่งเป็นร่างพ.ร.บ.ที่เลื่อนมาจากการประชุมเมื่อวันที่ 28 ส.ค. โดยร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้มีสาระสำคัญ คือ กำหนดความหมายของ ผู้ถูกถามหนี้ ลูกหนี้ ผู้ให้สินเชื่อและกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ต้องจดทะเบียนประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของกฎกระทรวง กำหนดให้มีคณะกรรมการกำกับการทวงหนี้ พร้อมกำหนดบทลงโทษผู้ฝ่าฝืนทั้งโทษทางอาญาและโทษทางปกครอง อย่างไรก็ตามร่างพ.ร.บ.นี้แม้ไม่ครอบคลุมหนี้นอกระบบ แต่สามารถแก้ไขได้ในชั้นกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และเพื่อให้ครอบลุมทั้งหนี้ในระบบ และนอกระบบ

นายตวง อันทะไชย สนช. อภิปรายแสดงความเห็นด้วยกับร่างกฎหมายดังกล่าว เพราะถือเป็นนวัตกรรมในการทวงถามหนี้ที่ประเทศไทยต้องพัฒนาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ยังมีจุดบกพร่องที่ไม่ครอบคลุมหนี้นอกระบบ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า หากผู้ใช้กฎหมายเป็นผู้กระทำผิดเอง และหากมีการทวงถามหนี้ในโลกโซเชี่ยลจะทำอย่างไร เนื่องจากวิธีการทวงถามหนี้ไม่อยู่กับที่ แต่ก้าวหน้าไปตามเทคโนโลยีดังนั้นควรพิจารณาด้วยว่ากฎหมายฉบับนี้จะทำอย่างไรกับปัญหาเหล่านี้ เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยมีกฎหมายจำนวนมาก แต่ไม่สามารถบังคับใช้ได้

นายสุธรรม พันธุศักดิ์ สนช. กล่าวว่า โดยภาพรวมเห็นว่าการเสนอร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เป็นเรื่องดี แม้จะไม่ครอบคลุมถึงหนี้นอกระบบแต่ก็สามารถแก้ไขภายหลังได้ ขณะนี้หนี้นอกระบบมีจำนวนสูงมาก คนยากจนทั้งหมดกู้หนี้มาทำมาค้าขาย โดยดอกเบี้ยต่อวันสูงถึงร้อยละ 20 มีการทวงถามในลักษณะขู่เข็ญ ใช้ความรุนแรง บางครั้งก่อให้เกิดอาชญากรรม สาระสำคัญมีวิธีการทวงถามหนี้ให้เป็นตามระบบ ให้มีมาตรฐานการทวงถามหนี้ที่เหมาะสมเป็นธรรม แต่จะบังคับใช้ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้บังคับใช้กฎหมายที่ต้องเคร่งครัด นอกจากนี้ยังครอบคลุมธุรกิจติดตามทวงหนี้ หรือการรับมอบอำนาจจากนิติบุคคล ส่วนมากหนี้นอกระบบจะใช้นักเลงในการทวงถามหนี้ เพื่อบังคับให้ลูกหนี้ได้ใช้หนี้ด้วยความกลัวว่าจะถูกทำร้าย รวมถึงการกำหนดโทษผู้ทวงถามหนี้ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งตนคิดว่าเป็นส่วนที่ดีของร่างกฎหมายฉบับนี้ นอกจากนี้ควรปรับปรุงกรรมการส่วนกลางในการรับร้องเรียนการทวงถามหนี้ให้สะดวกแก่ประชาชน

นายรังสรรค์ ศรีวรพันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ปฏิบัติหน้าที่รมว.คลัง ชี้แจงว่า กรณีวิธีการทวงถามหนี้ที่มีการพัฒนารูปแบบออกไป ซึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้ มาตรา 9 กำหนดลักษณะการแจ้งความเป็นหนี้ในลักษณะเปิดเผยที่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย ไม่ว่าจะเปิดเผยทางใดก็อยู่ในการครอบคลุม นอกจากนี้ในมาตรา 9 (6)ก็ยังเปิดโอกาสให้อำนาจคณะกรรมการที่จะประกาศเพิ่มเติมหากมีการพัฒนาวิธีการการทวงถามหนี้ คณะกรรมการก็สามารถกำหนดเพิ่มเติมให้ครอบคลุมได้ ส่วนการร้องเรียนคณะกรรมการสามารถออกแบบวิธีการในการร้องเรียนได้ อาจจะอาศัยกลไกภาครัฐที่อยู่ในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อให้สะดวกแก่ประชาชน ในส่วนของการบังคับใช้กฎหมาย กระทรวงการคลังจะรับไปดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

จากนั้นประธานฯ ได้ขอมติจากที่ประชุม ซึ่งที่ประชุมมีมติรับหลักการวาระแรกด้วยคะแนน 168 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 25 คน แปรญัตติ 7 วัน จากนั้นประธานสั่งปิดประชุมเวลา 14.45 น.