ตร.หิ้วมือยิงเอ็ม79ใส่อาคารชิน3ทำแผนจุดยิง

ตำรวจควบคุมตัว"ยงยุทธ บูญดี"มือยิงเอ็ม79 ใส่อาคารชินวัตรทาวเวอร์3 ทำแผนจุดยิง
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง พร้อมด้วย พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 และพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ได้ควบคุมตัว นายยงยุทธ หรือ ชินจัง บุญดี อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาในคดียิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ถ.วิภาวดีรังสิตขาเข้า แขวงลาดยาง เขตจตจักร กทม. เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 มี.ค.2557 มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยในวันเกิดเหตุนายยงยุทธ พร้อมพวกได้ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีขาว มาจากถนนหอวังมุ่งหน้าถนนวิภาวดีรังสิต ก่อนมาจอดรถชิดตรงเกาะกลางถนนหอวัง ก่อนออกถนนวิภาวดีรังสิต จากนั้นนายยงยุทธ ซึ่งนั่งมาที่บริเวณเบาะหลังด้านขวา ได้ใช้เครื่องยิงลูกระเบิดชนิดเอ็ม 79 ยิงใส่อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ก่อนหลบหนีไป
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นายยงยุทธ ถูกจับตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ลงวันที่ 18 ก.ค.2557 ในคดีร่วมกับพวกยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 ใส่อาคารสำนักงาน ป.ป.ช. ถนนสนามบินน้ำ ก่อนจะถูกทหารควบคุมตัวได้ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยจากการสอบสวนขยายผลนายยงยุทธ ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ที่ลงมือยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 ใส่อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 เพียงจุดเดียว ส่วนจุดอื่นนายยงยุทธ แค่มีส่วนรู้เห็นเท่านั้น โดยไปร่วมตั้งวงดื่มสุราก่อนลงมือก่อเหตุ ซึ่งในวันนี้ตำรวจจะนำตัวนายยงยุทธ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดอื่นๆ อีก 4 จุด ได้แก่ ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นจุดที่นายยงยุทธ สารภาพว่าได้ร่วมกับพวกยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 ใส่เวทีก ปปส.แจ้งวัฒนะ ยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 ใส่บริเวณใกล้ห้างโลตัส สาขาเเจ้งวัฒนะ และสำนักงาน ป.ป.ช. ถนนสนามบินน้ำ อีก 2 จุด
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวถึงกรณีการติดตามตัว น.ส.กริชสุดา หรือ เปิ้ล คุณะแสน อายุ 27 ปี ว่า ขณะนี้ตนได้ดูคลิปของ น.ส.กริชสุดา เชื่อว่าได้หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศแล้ว แต่จะเป็นประเทศใดนั้นตนยังไม่สามารถยืนยันได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้เมื่อศาลอนุมัติหมายจับแล้ว ตำรวจก็จะให้กองการต่างประเทศ แปลหมายจับเป็นภาษาอังกฤษ ก่อนส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดดำเนินการยื่นเรื่องส่งตัว น.ส.กริชสุดา มาดำเนินคดีในประเทศไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน ส่วนกรณีที่ น.ส.กริชสุดา หลบหนีไปยังประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ก็ไม่น่าเป็นห่วง เพราะกระทรวงต่างประเทศสามารถใช้ช่องทางความสัมพันธ์ทางการทูตในการขอให้ส่งตัว น.ส.กริชสุดา มาดำเนินคดีได้
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวอีกว่า คดีที่เกี่ยวข้องกับอาวุธสงคราม ตำรวจได้ดำเนินการอย่างรอบคอบรัดกุมที่สุด และทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฎ หากว่าพยานหลักฐานมีความเชื่อมโยงถึงใคร หรือใครมีส่วนเกี่ยวข้อง ตำรวจก็ต้องดำเนินคดีทั้งหมด สำหรับคดีอาวุธสงครามในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหา 29 คน ส่วนใหญ่สามารถจับกุมได้แล้ว เหลือเพียง 7-8 คน ที่ยังจับกุมไม่ได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นมี น.ส.กริชสุดา รวมอยู่ด้วย ทั้งนี้ สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ส่วนใหญ่มีความเชื่อมโยง เป็นขบวนการเดียวกัน เพียงแต่ใครจะทำหน้าที่อะไรเท่านั้น อย่างกรณีของนายยงยุทธ ได้ให้การว่ารู้จักกับ น.ส.กริชสุดา โดยพบกันในพื้นที่ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ยืนยันว่าไม่ได้รับอาวุธมาจากน.ส.กริชสุดา แต่อย่างใด




