อาวุธสงครามอื้อทิ้งในป่าเพชรบูรณ์

ตร.รุดตรวจอาวุธสงครามทิ้งในป่าละเมาะที่เพชรบูรณ์ ขยายผลแก๊งค้าอาวุธชาวจีน บุกยึดอาวุธสงครามจำนวนมากซุกหักพักเมืองนนท์
เมื่อบ่ายวันที่ 3 มิ.ย. ที่บริเวณป่าสาธารณประโยชน์เพชรขวาง หมู่ที่ 13 ต.นางั่ว อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจของ สภ.ท่าพล ได้ออกติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าคนตายในพื้นที่ ต.นางั่ว มาถึงที่เกิดเหตุพบกลุ่มคนร้าย จำนวน 4 คน ซุ่มในเกิดเหตุพร้อมรถยนต์และจักรยานยนต์ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ คนร้ายได้แยกย้ายหลบหนีเข้าป่า ตรวจสอบเบื้องต้นพบอาวุธสงครามจำนวนมากมาย จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชา และผู้เกี่ยวข้อง
จากการเข้าตรวจที่เกิดเหตุ พบอาวุธสงคราม ปืนยาว 13 กระบอก ปืนสั้น 3 กระบอก ระเบิดปิงปอง 10 ลูก โน๊ตบุ๊ค 2 เครื่องและรถยนต์ 1 คัน รถจักรยายนต์ 2 คัน จึงได้นำมารวบรวมเพื่อนำส่งกองพลทหารม้าที่ 1 ต่อไป
เบื้องต้นกลุ่มคนร้ายคาดว่าจะเป็นกลุ่มที่ถูกกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นในพื้นที่ อ.หล่มสักและนำอาวุธมาซุกซ่อนไว้ในที่เกิดเหตุ แต่บังเอิญมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพากันหลบหนี แต่อย่างไรทางเจ้าหน้าที่จะออกติดตามสืบหาตัวคนร้ายกลุ่มนี้มาดำเนินคดีต่อไป
ขยายผลยึดอาวุธสงครามชลบุรีแก๊งค้าอาวุธชาวจีน
เมื่อเวลา 17.00 น. พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รรท.ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา สบ.10 พล.ต.ท.ศักดิ์ดา ชื่นจินดา รรท.ผบช.สตม. พล.ต.ต.วราวุธ ทวีชัยการ ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.วรวัฒน์ อมรวิวัฒน์ รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.ทิฆัมพร ศรีสังข์ ผกก.2 บก.สส.สตม. พร้อมกำลัง เข้าตรวจสอบอาวุธสงคราม ซึ่งคนร้ายนำมาทิ้งไว้ภายในป่าละเมาะ พื้นที่หมู่ 1 ต.หนองรี อ.เมือง จ.ชลบุรี พบอาวุธสงครามและเครื่องกระสุนประกอบด้วย ปืนยาวไรเฟิ้ล 2 กระบอก ปืนอาร์ก้า 1 กระบอก ปืน 9 มม. จำนวน 3 กระบอก ปืนพกสั้น .357 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 140 นัด กระสุนปืนไรเฟิ้ล จำนวน 199 นัด กระสุนปืน .380 จำนวน 100 นัด เม็กกาซีนปืนอาก้า 2 อัน กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 10,000 นัด กระสุนปืนบีบีกัน 9 กล่อง และระเบิดขนาด 40 มม. ซึ่งใช้ยิงกับเครื่องยิงระเบิดเอ็ม 79 จำนวน 6 ลูก จึงยึดไว้ตรวจสอบ
พล.ต.อ.วัชรพล เปิดเผยว่า การตรวจยึดอาวุธสงครามครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการขยายผลกรณีการจับกุม นายหยี่ ปอ และ นายหยี่ เถา อายุ 30 ปี สองฝาแฝด สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับเมืองไถ่โจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน ในคดีจัดหาอาวุธปืน ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยประสานให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจับกุมได้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่บริเวณปั้มน้ำมัน ปตท. ซอยมัยลาภ ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.
โดยผู้ต้องหาทั้งสองคนมีพฤติการณ์จัดหาอาวุธปืนในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านส่งจำหน่ายให้กับลูกค้าในประเทศจีน โดยมีการติดต่อซื้อขายผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และมีการจัดส่งอาวุธผ่านบริษัทขนส่งในประเทศไทย ต่อมาทางการจีนจับกุมผู้ซื้อในประเทศจีนได้จำนวน 4 คน มีการสอบสวนขยายผลกระทั่งทราบว่าสั่งซื้ออาวุธจากผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศไทย ทางการจีนจึงประสานสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ดังกล่าว
บุกยึดอาวุธสงครามจำนวนมากซุกหักพักเมืองนนท์
เมื่อเวลา 15.00 น.พ.อ.อนันต์กฤตย์ ดวงอัมพร รอง.ผอ.กอ. รมน.จังหวัดนนทบุรีประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภ.จว.นนทบุรีเข้าตรวจค้นห้องพัก ถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี หลังจากได้รับรายงานจากสายลับว่าห้องพักดังกล่าวมีการนำอาวุธสงครามและเครื่องกระสุนมาซุกซ่อนไว้
ตรวจค้นห้องพักเลขที่ 2309 ชั้น 3 พบอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนสั้นขนาด 11 มม. จำนวน 2 กระบอก ปืนสั้นชนิดลูกโม่ขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก แม็กกาซีนปืนเอ็ม 16 จำนวน 3 อัน กระสุนปืนขนาดต่างประมาณ 200 นัด และวิทยุสาร กุญแจมือ ชุดตำรวจควบคุมฝูงชนภ.จว.ยโสธร ระบุชื่อด.ต.สมคิด อนันทวัน นอกจากนี้ยังพบเอกสารต่างๆอีกเป็นจำนวนมากจึงได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนที่ห้อง2407 ชั้น 4 จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนสั้นออโตเมติกขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก ปืนสั้นชนิดลูกโม่ขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด.38จำนวน 120 นัดและห้อง 2403 ซึ่งอยู่ตรงข้ามกันพบเพียงแต่เอกสารสำเนาทะเบียนสำเนาบัตรประชาชนและเอกสารต่างๆอีกจำนวนหนึ่ง
เวลาต่อมาพล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.ภ.1 ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับกล่าวว่าอาวุธสงครามที่ตรวจยึดได้ในวันนี้นั้น เป็นความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับทหารหลังสืบทราบว่าห้องพักดังกล่าวมีการซุกซ่อนอาวุธสงครามเป็นจำนวนมากจึงนำกำลังเข้าตรวจค้นจนพบอาวุธดังกล่าว ตนเองจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาทำการตรวจสอบพร้อมทั้งเก็บลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอเพื่อนำไปตรวจสอบว่าอาวุธดังกล่าวเคยถูกนำไปใช้ก่อเหตุมาก่อนหรือเปล่าร่วมถึงหากลุ่มบุคคลที่ครอบครองอาวุธดังกล่าวมาดำเนินคดีต่อไป
ส่วนที่พบว่าห้องพักดังกล่าวมีด.ต.สมคิด อนันทวัน ระบุชื่อว่าเป็นผู้เช่าห้องพักนั้นตนเองจะเร่งประสานไปยังหน่วยงานตนสังกัดเพื่อเรียกตัวมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับอาวุธดังกล่าวอย่างไรร่วมถึงบุคคลที่มีเอกสารระบุชื่อที่พบภายในห้องพักตนก็จะขออนุมัติหมายจับเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป







