ยุติธรรมชง'คสช.'ปฏิรูปดีเอสไอปลอดการเมือง

ยุติธรรมชง'คสช.'ปฏิรูปดีเอสไอปลอดการเมือง

ปลัดยุติธรรมเรียกผู้บริหารกระทรวงประชุมด่วน ชง"คสช."ปฏิรูปดีเอสไอปลอดจากการเมือง ลอกแบบก.ต.ช.แต่งตั้งอธิบดีไม่ให้การเมืองคุมเบ็ดเสร็จ

นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เรียกประชุมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม เพื่อประสานงานคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยสาระสำคัญในการเรียกประชุมครั้งนี้เพื่อซักซ้อมความเข้าใจและปรับการทำงานให้เข้ากับระบบใหม่ภายใต้การบริหารของคสช. นอกจากนี้จะชี้แจงความหมายของการที่ปลัดกระทรวงปฏิบัติหน้าที่แทนรัฐมนตรี ซึ่งนายกิตติพงษ์นอกจากยังเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมยังปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมอีกด้วย รวมถึงการแบ่งส่วนราชการให้กระทรวงยุติธรรมทำงานในฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม โดยการประชุมครั้งนี้ผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมประชุมเกือบครบขาดเพียงผู้ที่ติดราชการอื่นๆ อาทิ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ อธิบดีกรมบังคับคดี และพล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยในส่วนของดีเอสไอ ส่งนายเพิ่มพูน พึ่งประสิทธิ์ รองอธิบดีดีเอสไอมาประชุมแทน

นายกิตติพงษ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ได้มีการหารือเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติงานของส่วนราชการต่าง ๆ เพื่อเสนอเป็นนโยบายเร่งด่วนให้คสช.พิจารณาในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งที่ประชุมได้ข้อสรุป 3 เรื่องเร่งด่วนของกระทรวงยุติธรรมประกอบด้วย 1.การให้ประชาชนที่ด้อยโอกาสหรือยากจนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมมากขึ้นและให้ชุมนุมเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการไกล่เกลี่ยปัญหาและข้อพิพาทในชุมนุมเช่นในรูปแบบของยุติธรรมชุมนุม รวมถึงการตั้งกองทุนยุติธรรมเพื่อเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน 2.การเสนอให้มีการปรับการทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)เพื่อให้มีความโปร่งใส ไม่ถูกแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะตำแหน่งของอธิบดีดีเอสไอต้องสร้างหลักประกันการทำงาน เริ่มจากระบบการได้มาของอธิบดีควรปรับให้มีมาตรฐานคล้ายกับการคัดเลือกของคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.)ที่ต้องมีผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมแต่งตั้งด้วย ไม่ใช่มีแต่นักการเมือง เนื่องจากอำนาจหน้าที่ของอธิบดีดีเอสไอไม่ต่างจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเป็นการคุยกันถึงหลักปฏิบัติเท่านั้น เพราะเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความต้องการของประชาชน ส่วนรูปแบบใดเป็นเรื่องของรายละเอียดแต่ยืนยันว่าจะปรับปรุงให้ไม่น้อยกว่ามาตรฐานของก.ต.ช. ทั้งนี้ปฏิเสธว่าการปรับปรุงการทำงานครั้งนี้ไม่ใช่ให้ดีเอสไอเป็นซุปเปอร์กรม เพราะกรณีดังกล่าวเป็นประโยชน์เฉพาะหน่วยงานไม่ใช่ประโยชน์ต่อประชาชน

นายกิตติพงษ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้จะเสนอเรื่องการพัฒนาระบบปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง ในส่วนของการปฏิรูปประเทศเชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะหัวหน้าคสช. จะให้ความสำคัญกับการปฏิรูปแต่รอจังหวะที่ลงตัวก่อนจึงจะมีความชัดเจนออกมา โดยเห็นว่าคสช.จะให้ความสำคัญกับการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมกับการปฏิรูป อย่างไรก็ตาม เครือข่ายเดินหน้าปฏิรูปยังไม่ได้รับการประสานจากคสช.ในการนำเสนอเรื่องการปฏิรูป และส่วนตัวยังยืนยันว่าไม่ได้รับการทาบทามให้เป็นนายกรัฐมนตรีด้วย

นายกิตติพงษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับหัวหน้าส่วนราชการกระทรวงยุติธรรมเชื่อว่าทุกคนยังสามารถทำหน้าที่ได้ เพราะเป็นข้าราชการต้องพร้อมปฏิบัติหน้าที่ และเข้าใจดีว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ หากจะมีการโยกย้ายสับเปลี่ยนตำแหน่งใดๆก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคสช. ส่วนการดำรงปลัดกระทรวงยุติธรรมของตนนั้นเชื่อว่าในช่วง 60วันตามกรอบของกฎหมาย ระหว่างการโยกย้ายตำแหน่งจนถึงวันที่ 2 ก.ค.นี้ จะยังคงทำหน้าที่เพื่อวางแนวทางการทำงานและจัดระบบที่เหมาะสม ซึ่งต้องมีการรายงานข้อจำกัดดังกล่าวให้คสช.พิจารณาด้วย