ย้อนอดีตยึดอำนาจ

ย้อนอดีตยึดอำนาจ

ย้อนอดีตยึดอำนาจ

ยามนี้ ต้องหันเล่าเรื่องประวัติศาสตร์การเมืองไทย ขอเริ่มต้นที่การรัฐประหาร เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2534 คณะนายทหาร ซึ่งก่อการในนาม "คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ" (รสช.) นำโดยนายทหารผู้ใหญ่ 5 คน คือ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.สุจินดา คราประยูร ผู้บัญชาการทหารบก, พล.ร.อ.ประพัฒน์ กฤษณจันทร์ ผู้บัญชาการทหารเรือ, พล.อ.อ.เกษตร โรจนนิล ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี รองผู้บัญชาการทหารบก ได้ร่วมกันยึดอำนาจจากรัฐบาลของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ

เพลานั้นคณะรัฐประหาร 2534 ได้ใช้ "กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์" (ร.11 รอ.) เป็นกองบัญชาการ ภายหลังจากที่ได้ประกาศใช้ "ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พ.ศ. 2534" คณะ รสช. ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "สภารักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ" (สภา รสช.) โดยมี พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ เป็นประธานสภา และ พล.อ.สุจินดา คราประยูร เป็นรองประธานสภา ในวันที่ 19 กันยายน 2549 พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ยึดอำนาจรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยใช้ชื่อว่า "คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" (คปค.) ต่อมา เปลี่ยนชื่อเป็น "คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ" (คมช.) และ พล.อ.สนธิ ใช้ "กองบัญชาการกองทัพบก" ถนนราชดำเนิน เป็นกองบัญชาการ

หลังสุดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้เข้าควบคุมอำนาจ ตั้ง "คณะรักษาความสงบแห่งชาติ" (คสช.) ใช้ "กองบัญชาการสำรอง" ด้านหลังตึกบัญชาการของกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ (ร.1 พัน 1 รอ.) ถนนวิภาวดีรังสิต ติดกับสโมสรทหารบก เป็นกองบัญชาการ ว่ากันว่า ห้องประชุมแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่จัด "มอร์นิ่งบรีฟ" ของผู้นำเหล่าทัพ เมื่อถึงช่วงทหารประกาศยกระดับ ด้วยกฎอัยการศึก จนถึงยึดอำนาจหรือรัฐประหารรูปแบบใหม่ และมิเพียงเท่านั้น ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ (ร.1 รอ.) ยังมีบ้านพัก และมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5จังหวัดภาคตะวันออก ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) จึงไม่แปลกที่จะมีข่าวเล่าลือเรื่อง "พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์" กับบทบาทกุนซือหลังม่าน คสช.

นอกจากนั้น พล.อ.ประวิตร ยังมี "ซ.ค.คอนเน็คชั่น" ที่สั่งสมไว้ตั้งแต่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล โดยเฉพาะเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง "หม่อมอุ๋ย" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ก็แนบแน่นกันมายาวนาน และที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นน้องชายแท้ๆ ของ พล.อ.ประวิตร ก็มีบทบาทในการจัดแถวตำรวจใหม่ใต้เงา คสช. เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี และให้ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ก็เป็นที่รู้กันในยุทธจักรตำรวจไทยว่า พล.ต.อ.พัชรวาท กับ พล.ต.อ.วัชรพล สนิทชิดใกล้กันมากแค่ไหน นี่คือ ปฐมบทแห่งอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ มีเวลาพิสูจน์เข็มมุ่งที่ว่า จะคืนความสงบให้ประเทศชาติ และ พิทักษ์ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ยิ่งชีพ