นปช.ปรับวิธีระดมคนร่วมชุมนุม

นปช.ปรับวิธีระดมคนร่วมชุมนุม
หากจะสรุปว่า "ยอดผู้ร่วมชุมนุม" กับ "กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ" (นปช.)หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ถนนอักษะ พุทธมณฑลสาย 3 และพุทธมณฑลสาย 4 ระหว่างวันที่ 5-7 เมษายน จำนวนคน "ต่ำกว่าเป้าหมาย" ที่ "แกนนำ" เคยประกาศไว้ก็คงไม่ผิด
เพราะก่อนการชุมนุม"แกนนำคนเสื้อแดง" หลายคน ไม่ว่าจะเป็น "จตุพร พรหมพันธุ์" ประธาน นปช. "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" เลขาธิการ นปช. หรือแม้กระทั่ง "ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง" รมว.แรงงานและผู้อำนายการศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ที่ประกาศว่าจะมีคนเสื้อแดงมาชุมนุมไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน
มีการตั้งข้อสังเกตการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงครั้งนี้ว่าต่างจากการชุมนุมที่ผ่านมาอย่างน้อย 2 ประเด็น คือ การชุมนุมครั้งนี้ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้วิดีโอลิงค์เข้ามาพูดคุยกับแกนนำบนเวทีและคนเสื้อแดงที่มาร่วมชุมนุมเหมือนกับที่เคยทำบนเวทีอื่นๆ
รวมทั้งการชุมนุมในครั้งนี้ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เดินทางมาโดย "รถปิกอัพมากที่สุด"
ส่วน"ยอดผู้ชุมนุม" ที่ไม่ได้ตามเป้า "5 แสนคน" นั้น"ก่อแก้ว พิกุลทอง" แกนนำคนเสื้อแดง มองว่า ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน โดยส่วนตัวมองว่า มีผู้มาชุมนุมครั้งนี้จำนวน 2-2.5 แสนคน "ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ" (ศรภ.) ประเมินว่ามา 1-1.5 แสนคน ส่วน ศอ.รส.บอกว่าไม่ถึงแสนคน เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับการประเมินของแต่ละคน
แม้จำนวนผู้มาร่วมชุมนุมจะไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้สำหรับ "ก่อแก้ว" มองว่า แค่จำนวนที่มาก็ทำให้มีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการต้องช่วยกันแก้ไข เนื่องจากพื้นที่คับแคบ เต็นท์ไม่เพียงพอ รถน้ำและรถสุขามีไม่พอ โดยเฉพาะช่วงเย็นการจราจรติดขัดมาก
"สัปดาห์นี้จะมีการประชุมหารือเรื่องการกำหนดสถานที่และวันที่จะนัดชุมนุมใหญ่หลังวันสงกรานต์อีกครั้ง ขณะนี้มีการมองไว้ 3-4 ที่ แต่จะต้องหารือกันอีกครั้ง เพราะถ้าชุมนุมเพื่อแตกหักสถานที่ชุมนุมต้องอยู่ในเมือง เพื่อกดดันเป้าหมาย การที่เรามาชุมนุมที่ถนนอักษะเรากดดันตัวเอง เพราะพวกเราลำบากหลายเรื่อง และเชื่อว่า หากนัดชุมนุมแตกหักจะมีมวลชนมาร่วมชุมนุมจำนวนมาก" แกนนำเสื้อแดงกล่าว
และที่การชุมนุมครั้งนี้ใช้รถปิกอัพเป็นพาหนะขนคนมาร่วมชุมนุม"ก่อแก้ว" เล่าว่า รถเล็กเดินทางสะดวกกว่าส่วนใหญ่ก็เป็นรถของแกนนำที่เดินทางมาพร้อมกับผู้ชุมนุม เป็นคนรู้จักใกล้ชิดกัน การประสานงานก็ทำได้สะดวก เพราะครั้งนี้เป็นการประสานงานแกนนำคนเสื้อแดงระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน ไม่ผ่าน ส.ส.ทำให้ตรวจสอบยอดผู้เข้าร่วมชุมนุมได้ชัดเจนกว่าในอดีต
ส่วนที่คนตั้งข้อสังเกตว่าหากองค์กรอิสระตัดสินคดี "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี อาจจะทำให้มวลชนลดจำนวนลง "ก่อแก้ว" ไม่เชื่อว่าจะเป็นแบบนั้น เพราะที่คนน้อยกว่าเป้าหมาย เนื่องจากไม่อยากออกมาในวันที่ 5-7 เมษายน เนื่องจากรู้ว่า มาแล้วก็เดินทางกลับ ไม่มีประโยชน์ แต่ถ้านัดรวมพลขั้นแตกหักหลังสงกรานต์จะมีคนเสื้อแดงมาจำนวนมาก โดยเฉพาะขาลุย
"คนมาไม่ตามเป้า เพราะรู้ว่ามาแล้วก็กลับ จึงไม่อยากมา เหมือนมาชกลม ไม่เกิดประโยชน์ พวกขาลุยตอนนี้อยากมาลุยกันเต็มที่แล้ว เชื่อว่ายอดไม่น่าจะน้อยกว่าปี 2553 วันที่ 12-13 มีนาคม 2553 มีคนเสื้อแดงมาชุมนุมประมาณ 4-5 แสนคน การมาชุมนุมหากมาเพื่อรักษาเวที 2-3 หมื่นคนก็พอ" ก่อแก้วกล่าว
สำหรับการชุมนุมครั้งนี้"พ.ต.ท.ทักษิณ" ไม่ได้วิดีโอลิงค์เข้ามาทักทาย "ก่อแก้ว" มองว่าเป็นเรื่องดีทั้งสองฝ่าย ทั้ง นปช.และพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะแกนนำ นปช.ก็ไม่ได้ขอร้องไป ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ได้ขอมา งานนี้เป็นงานของ นปช. 100% หาก พ.ต.ท.ทักษิณวิดีโอลิงค์ก็จะถูกฝ่ายตรงข้ามหาเหตุโจมตีได้







