รัฐบาลแจกโบนัสข้าราชการรัฐสภา26ล้านบาท

รัฐบาลใช้งบประมาณที่เหลือจ่ายของหน่วยงานในปีงบประมาณ 2556 เบิกจ่ายภายใน 31 มี.ค.57 และครม.ยังรับทราบการปรับเงินรางวัลของผู้บริหารให้ลดลง 10%
ครม.ไฟเขียวจ่ายโบนัสข้าราชการรัฐสภาฯ วงเงิน 26 ล้านบาท โดยให้ใช้งบประมาณที่เหลือจ่ายของหน่วยงานในปีงบประมาณ 2556 เบิกจ่ายภายใน 31 มี.ค.2557 พร้อมรับทราบแนวทางการลดโบนัสผู้บริหารลง 10% เพื่อสมทบให้กับพนักงานระดับปฏิบัติงาน ด้านกฤษฎีกาชี้เบิกจ่ายได้ไม่เข้าข่ายผูกพันรัฐบาลต่อไป
ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการจัดสรรเงินรางวัลและสิ่งจูงใจของส่วนราชการในสังกัดรัฐสภา และการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษตามโครงการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการสังกัดรัฐสภาประจำปีงบประมาณ 2556 วงเงิน 26 ล้านบาทเศษ ตามที่นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรนำเสนอต่อ ครม.
ทั้งนี้ การจัดสรรค่าตอบแทนพิเศษดังกล่าวใช้เงินจากงบประมาณเหลือจ่ายที่กันไว้จากรายจ่ายในปีงบประมาณ 2556 จำนวน 26,035,920 บาท แบ่งเป็นเงินกันไว้ของสํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร 16,662,900 บาท และเงินกันไว้ของสำนักงานเลขาวุฒิสภา 9,373,020 บาท เพื่อเบิกจ่ายเป็นค่าตอบแทนพิเศษ
โดยกรมบัญชีกลางได้แจ้งไปยังส่วนราชการเพื่อขออนุมัติให้กันเงินไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปีกรณีไม่มีหนี้ผูกพันสามารถขยายระเวลาเบิกจ่ายงบประมาณส่วนดังกล่าวได้ภายในวันที่ 31 มี.ค. 2557
นอกจากนั้น ครม.ยังรับทราบการปรับหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินรางวัลให้ราชการในสังกัดรัฐสภาได้ปรับเงินรางวัลของผู้บริหารให้ลดลง 10% จากเดิมที่ผู้บริหารได้รับจัดสรรเงินรางวัล 40% ลดลงเหลือ 30% และที่เหลืออีก 70% นำไปสมทบให้ข้าราชการในระดับปฏิบัติงานและปรับกรอบวงเงินรางวัลของข้าราชการในส่วนระดับปฏิบัติงานให้มากกว่าเดิม เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงาน
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลการประเมินการปฏิบัติงานของแต่ละบุคคลว่ามีความทุ่มเทให้กับงานและมีผลงานให้ส่วนราชการที่สังกัดในปีงบประมาณที่ผ่านมามากน้อยเพียงใด
ด้านสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเสนอความเห็นต่อ ครม.ว่า คณะกรรมการข้าราชการรัฐสภามีอำนาจในการกำหนดเรื่องเงินค่าตอบแทนพิเศษและหลักเกณฑ์วิธีการในการเพิ่มประสิทธิภาพและเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติราชการ การจัดสรรเงินรางวัลและสิ่งจูงใจของข้าราชการรัฐสภาในส่วนนี้เป็นการใช้เงินงบประมาณเหลือจ่ายที่ส่วนราชการฯได้ดำเนินงานบรรลุวัตถุประสงค์แล้วมีเงินเหลือจ่ายอย่างแท้จริง รวมทั้งไม่มีหนี้สาธารณูปโภคค้างชำระและมีเงินงบประมาณเพียงพอ
สำหรับชดเชยค่างานสิ่งก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่าK) โดยไม่มีการขอตั้งงบประมาณเพิ่มแต่อย่างใด
ขณะที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วให้ความเห็นต่อที่ประชุม ครม.ว่าแม้ที่ผ่านมา ครม.จะอนุมัติการจ่ายเงินรางวัลพิเศษให้ข้าราชการที่มีผลการปฏิบัติงานดีในปีงบประมาณ 2556 ไปแล้ว แต่เนื่องจากตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายงบประมาณค่าตอบแทนนอกเหนือจากเงินเดือนของข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการปี 2547 ได้นิยามคำว่า “ข้าราชการ” ไว้ไม่ครอบคลุมถึงข้าราชการของรัฐสภาด้วย ทำให้ข้าราชการของรัฐสภาไม่ได้รับการจัดสรรเงินรางวัลในส่วนดังกล่าว ดังนั้นการเบิกจ่ายเงินรางวัลที่จะจัดสรรจึงต้องขอมติ ครม.เพื่อให้ผู้มีอำนาจสั่งจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวได้ตามที่เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรนำเสนอ
นอกจากนั้นสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้นำเสนอความเห็นว่าการดำเนินการเรื่องดังกล่าวถือว่าไม่เป็นการขัดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 181 (3) ของรัฐธรรมนูญที่ห้ามไม่ให้รัฐบาลรักษาการอนุมัติเรื่องใดๆที่สร้างความผูกพันแก่รัฐบาลชุดต่อไป ครม.จึงสามารถให้ความเห็นชอบเรื่องนี้ได้เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป







