'แดงอิสระโคราช'ขอ65ล้าน ลุยองค์กรอิสระไล่9ตลก.รธน.

'แดงอิสระโคราช ทำจม.เปิดผนึกขอเงิน นปช. ขอ65ล้าน ลุยองค์กรอิสระ-ไล่9ตลก.รธน. ซัดแกนนำ-ส.ส.สู้แล้วรวย แย่งผลประโยชน์ บอกถึงเวลาต้องรบแตกหัก
หลังจากแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.)นัดแกนนำเสื้อแดงทั่วประเทศประชุมใหญ่เมื่อวันที่23ก.พ. ที่จ.นครราชสีมา โดยให้แกนนำแต่ละภาคกำหนดยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี วางแนวทางการเคลื่อนไหวตอบโต้กลุ่มที่ต้องการล้มรัฐบาล
ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในแวดวงคนเสื้อแดง นายยรรยง ป้อมไชยา ในฐานะประธานกลุ่มแดงอิสระโคราช ได้ทำเอกสารความยาว9หน้า ‘แดงอิสระลั่นกลองรบ ร่วมกับ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ชัตดาวน์องค์กรอิสระ9 กบฏตุลาการ.’ เสนอไปถึงแกนนำนปช.ส่วนกลาง ซึ่งเนื้อหานั้นมีข้อเสนอที่รุนแรง
โดยเนื้อหาช่วงแรกจำแนกผู้ที่เกี่ยวข้องในสถานการณ์ปัจจุบันเป็น2กลุ่มใหญ่คือ ฝ่ายอำมาตย์กับฝ่ายประชาธิปไตย นอกจากมีเนื้อหาที่เป็นเสนอวิธีปฏิบัติแล้ว บางช่วงยังได้วิพากษ์วิจารณ์พวกเดียวกันเองด้วย
สำหรับฝ่ายระบอบอำมาตย์นั้น มีความมาดมั่นสูงที่จะนำไปสู่จุดแตกหักเพื่อทำลายล้างวงศ์ตระกูลชินวัตร พรรคการเมือง ระบอบทักษิณ การปกครองระบอบประชาธิปไตย การจะขจัดอิทธิพลพ.ต.ท.ทักษิณ จะอนุญาตให้มีเลือกตั้งไม่ได้ การเสนอปฏิรูปประเทศไทยก่อน จึงเป็นกลลวงเพื่อหยุดยั้งระบอบประชาธิปไตย และเนื่องจากการทำรัฐประหารโดยกองทัพมีอุปสรรคต่อต้านจากประชาชนและสังคมโลกอารยะ พวกเขาจึงต้องยึดอำนาจประชาชนโดยวิธีอื่น จึงเสนอยุทธศาสตร์ปฏิวัติประชาชน ปฏิรูปประเทศไทย ใช้มวลมหาประชาชน ยึดอำนาจรัฐโดยวิธีการลุกขึ้นสู้ในกรุงเทพฯ และประสงค์ให้ทหารสนับสนุนทั้งทางตรงและทางอ้อม
ทางตรงคือทำรัฐประหารเอง ทางอ้อมก็คือคุ้มครองประชาชนที่ลุกขึ้นสู้โดยไม่ร่วมมือกับรัฐบาลในการควบคุมสถานการณ์ และแอบช่วยสนับสนุนทางลับ เช่น เป็นการ์ดคุ้มกัน คุ้มครองมวลชนด้วยอาวุธ ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีจึงใช้วิธีการลุกขึ้นสู้ในเมืองกดดัน จึงใช้วิธีการลุกขึ้นสู้ในเมืองกดดันรัฐบาลยาวนาน รอคอยโอกาสเหมาะสมเพื่อให้เกิดความรุนแรง การใช้องค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งกระบวนการยุติธรรมอื่นๆ มากำจัดฝ่ายการเมืองและประชาชนที่รักประชาธิปไตย
สำหรับฝ่ายประชาธิปไตยนั้น มีความพยายามเปิดเกมรุกทางการเมืองแต่ไม่เป็นผล ได้แก่ การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ การออก พรบ.นิรโทษกรรม การปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคมงบประมาณ2ล้านล้านบาท การจำนำข้าวถูกสกัดการใช้อำนาจจากองค์กรอิสระและสถาบันตุลาการ ทำให้รัฐบาลเปลี่ยนสถานะจากรุกเป็นรับ ถอยร่นจนต้องยุบสภาฯพร้อมกับเผชิญยถากรรมทางคดีความอันหนักหน่วง
“ขณะที่ฝ่ายระบอบอำมาตย์เตรียมตัวสู้รบใหม่ทันทีหลังแพ้เลือกตั้ง แต่ฝ่ายประชาธิปไตยไม่คิดถึงการต่อสู้ในลักษณะสู้รบที่ต้องสิ้นสุดอย่างแตกหัก ยังคิดในลักษณะประนีประนอม ใช้การเจรจาเป็นด้านหลัก ไม่ได้ใช้การต่อสู้เป็นด้านหลัก โดยไม่ตระหนักถึงความล้าหลังทางการเมืองและความอำมหิตของชนชั้นจารีตนิยม ฝ่ายประชาชนผู้รักประชาธิปไตยถูกทำให้อ่อนพลังสู้รบไปเนื่องจากชัยชนะในการเลือกตั้งและได้จัดตั้งรัฐบาล นักต่อสู้ส่วนหนึ่งถูกทำให้กลายเป็นนักการเมืองและหัวคะแนน และมีความแตกแยกอันเนื่องมาจากผลประโยชน์ รวมทั้งการจัดตั้งถูกทำให้อ่อนแรงด้วยกลุยุทธ์จัดตั้งซ้อนจัดตั้ง”เนื้อหาช่วงหนึ่ง ระบุ
การทบทวนยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีเฉพาะหน้าในสถานการณ์วิกฤตการเมืองผู้รักประชาธิปไตยจึงเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากยุทธศาสตร์ที่มีอยู่เป็นยุทธศาสตร์ระยะยาว เป็นลักษณะผูกติดกับพรรคการเมือง ขาดลักษณะการสู้รบ เมื่อเกิดยุทธการปฏิวัติประชาชน ปฏิรูปประเทศของ กปปส.นำโดยนายสุเทพ ที่มีประชาชนเข้าร่วมและมีผู้สนับสนุนจำนวนมาก จำเป็นต้องเรียกร้องต่อผู้รักประชาธิปไตยที่จะต้องยกระดับทางการต่อสู้ทางการเมืองด้วยการเป็นหนึ่งเดียวในการต่อสู้ ต้องระดมพลังกาย พลังใจ พลังสมอง และทุนทรัพย์เพื่อต่อสู้ในศึกใหญ่นี้ให้อยู่ในฐานะรับอยู่ แล้วเปลี่ยนจากรับเป็นรุกเพื่อนำไปสู่เป้าหมาย คือการปกครองที่เป็นระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่แบบไทยๆ ของอำมาตย์และบรรลุคำขวัญของระบอบประชาธิปไตยคือเสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพให้ได้
เนื้อหาส่วนต่อมาเป็นการเสนอยุทธศาสตร์เฉพาะหน้าในวิกฤติการเมืองไทย ในทางเปิดมีการเสนอยุทธการ ทำลายสุเทพและแนวร่วมกปปส. ยุทธการเปิดโปงองค์กรอิสระ ชูการปฏิรูปองค์กรอิสระ ยุทธการชูการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ยุทธการชูการปฏิรูปกองทัพให้ก้าวหน้า แต่หากมีสูญญากาศ รัฐประหารโดยองค์กรอิสระและตุลาการ เปิดยุทธการใหญ่ คัดค้านและต่อสู้กับขบวนอนาธิปไตยและอำนาจนอกระบบที่จะทำลายระบอบประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม
เรื่องขอสนับสนุนภาระกิจชัตดาวน์องค์กรอิสระ เพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตย โดยเนื้อหาช่วงหนึ่งระบุ การปิดล้อมสำนักงานและขับไล่ตุลาการทั้ง9คนออกจากตำแหน่ง จึงเป็นเหมือนการตัดมือตัดเท้าของระบอบอำมาตย์เผด็จการโดยตรง เพื่อประกาศให้ประชาชนทั้งในและต่างประเทศได้รับรู้ถึงการตอบโต้จากประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริงแบบแตกหักและรุนแรง เพื่อให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต่อไปมีจิตสำนึกในภาระหน้าที่ที่ถูกต้องของตนเอง กลุ่มแดงอิสระและประชาชนผู้รักประชาธิปไตยพร้อมที่จะกำจัดระบอบอำมาตย์เผด็จการให้หมดไปจากประเทศ
“ฉะนั้นทางกลุ่มเราจึงขอความร่วมมือมายังท่านและองค์กรต่างๆ ได้มีส่วนร่วมในภารกิจที่สำคัญในครั้งนี้ด้วยกันทุกคนอย่างพร้อมเพรียง กลุ่มเราอยู่แนวหน้าเผชิญกับศัตรูอย่างเปิดเผยไม่กลัวแม้ความตายเพราะความตายของกลุ่มเราไม่เป็นการตายที่สูญเปล่า แต่เราขอตายแบบมีค่าเพื่อรักษาประชาธิปไตย ท่านที่อยู่แนวหลังอย่าวางเฉยได้โปรดส่งแรงใจ ส่งข้อมูลข่าวสารให้เราตลอดเวลาเพื่อเป็นกำลังใจให้เราต่อสู้จนบรรลุเป้าหมาย ปัจจัยหลักเงินทองของอุปโภคเป็นสิ่งจำเป็นต้องใช้ขอให้ท่านระดมสรรพกำลังตามมีตามเกิด จัดส่งถึงเราด้วย” เนื้อหาช่วงหนึ่งจากแดงอิสระโคราช
ในเอกสารยังระบุถึงยุทธวิธีซึ่งมี10ข้อ ประกอบด้วย 1.นัดหมายวันเวลาปิดล้อมศาลรัฐธรรมนูญร่วมกับแดงนปช.ส่วนกลางในกทม. ปริมณฑล 2.ใช้มวลชนเสื้อแดง3,000คน เป็นกลุ่มผู้ชุมนุมหลักของแดงอิสระโคราชสับเปลี่ยนเวียนผู้ชุมนุม10วันครั้ง(จัดรถรับส่งโคราช-กทม.ไปกลับ) 3.จัดตั้งการ์ดรักษาความปลอดภัย รปภ.จำนวน260คน 4.จัดตั้งกองกำลังเคลื่อนที่เร็ว2ชุดๆละ 20คนรวม40คน และควบคุมฝูงชน 5.จัดตั้งที่ทำการยุทธโดยมืออาชีพใช้บุคลากรจำนวน 5คน
6.จัดตั้งเวทีปราศรัยกลางวัน กลางคืนทุกๆวัน มีวิทยากรหลัก3คน และเชิญผู้ทรงคุณวุฒิปราศรัยทุกคืน 7.ห้ามพนักงานเข้าออก ปิดน้ำ ปิดไฟ แต่ไม่ทำลายทรัพย์สินของสำนักงาน. 8.จัดทำเอกสารยื่นคำขาดให้การตุลาการทั้ง9คนลาออก ประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ทางโซเชียลมีเดียและหนังสือพิมพ์
9.จัดตั้งกองอำนวยการเพื่อสนับสนุนกิจกรรมของกลุ่มแดงอิสระโคราชโดยผู้นำชาวโคราช มีสำนักงานเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานเพื่อรับบริจาคเครื่องอุปโภค บริโภคส่งเข้ากทม. 10.เปิดบัญชีเงินฝากในนาม แดงอิสระโคราช โดยหัวหน้าสำนักงานกองอำนวยการและประชาชนขอรับบริจาคกับพี่น้องประชาชนคนโคราชเพื่อใช้เป็นค่าพาหนะ ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่ารักษาพยาบาล ค่าจัดทำพิธีบำเพ็ญกุศลในการฌาปนกิจศพและค่าตอบแทนของผู้เข้าร่วมชุมนุม
นอกจากนี้ยังมีการประเมินต่าใช้จ่ายในการดำเนินการเบื้องต้นต่อเดือน 1. ค่าเบี้ยเลี้ยงผู้เข้าร่วมชุมนุม 3000คนๆละ 500บาทต่อวัน 45,000,000บาท 2.ค่าเบี้ยเลี้ยงรักษาความปลอดภัย 260คนๆละ 750บาทต่อวัน 5,850,000บาท 3.ค่าเบี้ยเลี้ยงกองกำลังจัดตั้งเพื่อควบคุมฝูงชน 40คนๆละ 1000บาทต่อวัน 1,200,000บาท 4.ค่าเบี้ยเลี้ยงฝ่ายยุทธการ 5คนๆละ 1500บาทต่อวัน 225,000บาทต่อเดือน
5.ค่าใช้จ่ายยานพาหนะ4คัน ค่าติดต่อประสานงานฝ่ายยุทธการ 200,000บาทต่อเดือน 6.ค่าอาหาร เครื่องดื่ม3มื้อ วันละ3,500คน 12,600,000บาทต่อเดือน 7.ค่าพาหนะ200เที่ยวไป กลับ โคราช-กทม.(รถบัส) 8.อื่นๆค่ารักษาพยาบาล ค่าตอบแทนวิทยากรประจำเวที ? โดยรวมทั้งสิ้น 65,075,000บาท/เดือน (ไม่รวมรายการ7-8)
ขณะที่นายยรรยงค์ ป้อมไชยา ประธานกลุ่มแดงอิสระโคราช ให้สัมภาษณ์ว่า เราเตรียมพร้อมหมดแล้ว โคราชพร้อม ชัยภูมิพร้อม รอเพียงเสียงระฆังเท่านั้น ประชาชนส่วนใหญ่เกิน80เปอร์เซ็นต์เห็นด้วยกับเรา การเคลื่อนไหวแดงอิสระโคราชไม่เกี่ยวกับนปช.ส่วนกลาง เพราะเขามีกิจกรรมเยอะ แต่แนวคิดอุดมการณ์ ก่อนเราทำอะไรก็รอฟังยุทธศาสตร์เขาก่อน ถ้าตรงกันก็พร้อม เราทำในนามประชาชนธรรมดา ไม่ใช่เพียงโคราช แต่ทั้งหมดทุกภาคส่วน ในอีสานเขาก็มีโปรแกรมหมดจะทำอะไรบ้าง
“เราไม่เล่นเกมยืดเยื้อ เล่นเกมประชาชน แตกหักไม่เจรจา ศัตรูเราหมายถึงพวกตรงข้ามฝ่ายประชาชน”นายยรรยงกล่าว
ขณะที่นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ โฆษกนปช.กล่าวว่า การที่แดงอิสระโคราชจะเคลื่อนไหวอะไร เราไม่ขัดขวาง เป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่นปช.ส่วนกลางจะเคลื่อนในประเด็นเกี่ยวกับผู้ทำลายระบอบประชาธิปไตย เช่น เกิดรัฐประหาร รัฐบาลไม่ได้มาจากเลือกตั้ง เป็นต้น เราต่อต้านองค์กรอิสระสำหรับคนที่ตัดสินไม่เป็นกลาง แม้ไม่ถูกใจเมื่อตัดสินออกมาแล้ว เราก็ยอมรับ เช่น คดียุบพรรคไทยรักไทย, พลังประชาชน ตัดสิทธิ์ส.ส.







