ศก.ม็อบการค้าคู่การเมือง ผลประโยชน์มากมาย

ตลอดช่วงการชุนุมของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ( กปปส.) นอกจากประเด็นการปราศรัยต่างๆที่ได้รับฟังจากแกนนำ และผู้ร่วมสนับสนุนแล้ว ยังมีสีสันของบรรดาอุปกรณ์ประกอบการชุมนุม ที่มีออกมาอย่างมากมาย

ไม่ว่าจะเป็นสัญลักษณ์หลักการชุมนุม อย่าง 'นกหวีด' ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า ม็อบนกหวีด เสื้อยืดสกรีนรูปภาพแกนนำ คำขวัญ หรือ ประโยคล้อเลียนการเมือง รวมไปถึงเครื่องประดับอื่นๆอีกมากมาย ผ้าลายธงชาติหลากหลายรูปแบบ ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ที่แปลกใหม่ และแตกต่างจากการชุมนุม ใหญ่ๆทางการเมืองก่อนหน้า ที่มีสัญลักษณ์เพียง สีเสื้อ มือตบ - เท้าตบนับจากนกหวีดตัวแรกที่ดังขึ้นที่เวทีต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่สามเสน จนเป็นนกหวีดนับล้านที่รวมปฏิบัติการ ปิดกรุงเทพฯ หรือ ชัตดาวน์แบ็งค็อก ในขณะนี้

จากการสำรวจแหล่งค้าของส่งที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ อย่าง สำเพ็ง ก็พบว่าสินค้าที่ พ่อค้า แม่ขาย ต่างเข้ามาซื้อหาเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทั้งสิ้น โดยเฉพาะนกหวีด ซึ่งร้านค้าส่งต่างๆได้กล่าวว่า สินค้าประเภทนี้ นานๆถึงจะนำออกมาขาย และมีคนซื้อเพียงไม่กี่เจ้า แต่ตลอดการชุมนุมที่เกิดขึ้นเกือบ 2 เต็ม มีคนเข้ามาหาซื้อนกหวีดเป็นจำนวนมากทั้งที่นำไปขายต่อในที่ชุมนุม และซื้อเพื่อไปแจก หรือฝาก คนในครอบครัว เพื่อนฝูง

และปัจจุบันที่สังคมมีสื่อโซเชียลต่างๆ ที่สามารถเข้าถึงได้ไม่ยาก การถ่ายรูปรูปโชว์สัญลักษณ์การชุมนุมยิ่งเผยแพร่ออกไปเร็ว ทำให้เกิดกระแสความนิยม ทันสมัยขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งแม้แต่คนที่ไม่สะดวกหรือไม่สามารถไปร่วมชุมนุมได้ทุกๆวัน ยังสามารถหาซื้อสินค้าสักลักษณ์การชุมนุมมาสวมใส่ และพูดคุยกันในหมู่เพื่อนฝูงแม้ไม่ใช่วงการเมืองก็ตาม

ดร.พจน์ ใจชาญสุขกิจ นักสื่อสารการตลาด ได้ให้ความเห็นว่า เรื่องถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจทีเดียว ในแง่มุมการตลาด เพราะเป็น political marketing ที่สร้างกระแสได้อย่างกว้างขวาง เพราะสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์มีรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่เพียงนกหวีดเพียงอย่างเดียว รวมทั้งเป็นกระแสนิยม ที่คนสนใจ อยากมีส่วนรวม และเป็นการแสดงตัวตน จุดยืน ต่อกิจกรรมสังคมที่เกิดขึ้น โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปร่วมชุมนุมทุกๆครั้ง

ดร.พจน์ ยังมองต่อไปว่า การเลือกนกหวีดเป็นสัญลักษณ์เด่น ความแตกต่างอยู่ที่ เสียง หรือ Noise ของมันเอง ที่สามารถสร้างความแตกต่างให้เห็นเด่นชัด ต่อการที่มีสินค้าต่างๆออกมาขายเพิ่มเติม ดร.พจน์ เห็นว่า เป็นความคิดการตลาดที่อยู่ในตัวของคนที่มองเห็นโอกาสมากกว่าการที่วางแนวทางไว้แต่ต้น ทั้งมีการนำธงชาติมาใช้ร่วมในการชุมนุม คนหัวใสจึงยิ่งต่อยอดไปเป็น ที่คาดผม ตุ้มหู สายรัดข้อมือ ทำให้เกิด ความฮิต ได้อย่างไม่ยากเย็น แม้แต่ตามหัวเมืองใหญ่ๆในต่างจังหวัดยังมีสินค้าเหล่านี้ขายให้พบเห็น

อีกทั้งยังเป็นการซื้อหาในการสะสม เป็นที่ระลึกเช่น ของที่มีคนดังในสังคมทำออกมาขาย แม้แต่การประมูล ยังมีคนให้ความสนใจ ทำให้สินค้าต่างๆหมดลงอย่างรวดเร็ว และคาดว่าเม็ดเงินที่เกิดขึ้นอาจถึงร้อยล้านบาท

ส่วนจะเป็นเหตุผลที่เพิ่มคนให้กับการชุมนุมหรือไม่ ดร.พจน์ให้ความเห็นว่า มีส่วนอาจจะไม่ใช่ทั้งหมด การที่มีตัวตน และแสดงจุดยืน ก็ทำให้คนคนนั้นก็ไม่ตกกระแสแล้ว แต่ส่วจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ เป็นสิทธิของแต่ละคน

ซึ่งสอดคล้องกับ คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย นักเขียน นักบริหารการตลาดชื่อดัง ที่คิดเห็นว่าสินค้าที่ออกมาถูกจุด ก่ออารมณ์ร่วม ความรู้สึกของผู้พบเห็น อีกทั้งยังมีการวางรูปแบบที่สมัยใหม่