กปปส.ล้อมทำเนียบวันนี้ ผบ.ทอ.หวังไม่รุนแรง

กปปส.ล้อมทำเนียบวันนี้ ผบ.ทอ.หวังไม่รุนแรง

กปปส.ล้อมทำเนียบวันนี้! เคลื่อนขบวน 9 เส้นทาง-แนวร่วม 50 จุด ผบ.ทอ.หวังไม่มีเหตุรุนแรง สธ.ระดม 30 ทีมแพทย์รับมือ

ผู้ชุมนุมต่อต้านระบอบทักษิณ จัดทัพ 9 เส้นทาง 50 จุด เคลื่อนขบวนมุ่งปิดล้อมทำเนียบฯ วันนี้ สหภาพฯบินไทยชวนพนักงานใช้สิทธิลางานร่วมชุมนุม ชี้การปฏิรูปประเทศคือการปฏิรูปองค์กร เหตุการเมืองส่งคนไม่เก่งมาบริหาร ทำบริษัทขาดทุนกว่า 6 พันล้านบาท สถานทูตหวั่นถูกรัฐใช้เป็นเครื่องมือ หลังดึงสังเกตการณ์ผู้ชุมนุม โพลล์ชี้ประชาชนกังวลแตกหัก

คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ภายใต้การนำของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ เตรียมนำกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านระบอบทักษิณ เดินขบวนมุ่งไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล วันนี้(9 ธ.ค.)

โดยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. แถลงเมื่อวานนี้ (8 ธ.ค.) ว่า จะมีการเคลื่อนไหวใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ในการกดดันรัฐบาล โดย กปปส.จะมีการเคลื่อนขบวนดาวกระจายใน 9 จุด โดยจะเริ่มเคลื่อนขบวนพร้อมกันในเวลา 09.39 น. แต่ขบวนของนายสุเทพ จะเคลื่อนจากศูนย์ราชการในเวลา 08.29 น. เนื่องจากมีที่ตั้งไกลจากทำเนียบรัฐบาลมาก

นอกจากนี้จะยังมีกลุ่มสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) นิสิต นักศึกษา คณาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมไปถึงนักธุรกิจ ภาคเอกชน ที่จะมีการรวมตัวตามจุดต่างๆ ทั่วกรุงเทพมหานคร กว่า 50 จุด เพื่อเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาลด้วย โดยการเดินทางไปทำเนียบรัฐบาลครั้งนี้ เป็นการปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น จะไม่มีการเข้าบุกยึดแต่อย่างใด ทั้งนี้ หากมีประชาชนออกมาแสดงพลังในการต่อต้านรัฐบาลจำนวนมากก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะออกมาแสดงความรับผิดชอบ

เปิด9เส้นทางม็อบเคลื่อนขบวน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเส้นทาง 9 จุดของกลุ่ม กปปส.ที่นัดหมายไว้นั้น ประกอบด้วย เส้นทางที่ 1 นำทีมโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯ กปปส. จากศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ เลี้ยวขวาเข้าถนนวิภาวดีฯ เลี้ยวเข้าถนนพหลโยธิน ผ่านอนุสาวรีย์ชัญฯ ผ่านรามาฯ ผ่านเขาดินไปทำเนียบรัฐบาล

เส้นทางที่ 2 นำโดยนายถาวร เสนเนียม เริ่มจากถนนหน้าเอสซีบี รัชโยธิน ไปรัชดาฯ ฟอร์จูน อนุสาวรีย์ชัยฯ เข้าถนนศรีอยุธยา ไปทำเนียบรัฐบาล, เส้นทางที่ 3 นำโดยนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เริ่มจากเอกมัย ผ่านสุขุมวิท ไปทองหล่อ ราชประสงค์ มุ่งหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แวะทักทาย ตร. แล้วเลี้ยวไปหอศิลป์กทม .ออกถนนเพชรบุรี เดินตรงผ่านแยกอุรุพงษ์ ยมราช พิษณุโลก เข้าทำเนียบรัฐบาล

เส้นทางที่ 4 นำโดยนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ เริ่มจากวงเวียนใหญ่ ไปสาทร วกเข้าเจริญกรุง เข้าคลองผดุงกรุงเกษม ผ่านโบ๊เบ๊ ทาวเวอร์ เข้าทำเนียบรัฐบาล, เส้นทางที่ 5 นำโดยนายวิทยา แก้วภราดัย เริ่มที่กระทรวงการคลัง มาทางพระราม 6 แยกประดิพัทธ์ เกียกกาย ราชินีบน วชิรพยาบาล กระทรวงศึกษาธิการ เข้าทำเนียบรัฐบาล

เส้นทางที่ 6 นำโดยนายถนอม อ่อนเกตุพล เริ่มจากถนนราชดำเนิน อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ข้ามสะพานปิ่นเกล้า ข้ามสะพานซังฮี เข้าถนนสามเสน กระทรวงศึกษาธิการ เข้าทำเนียบรัฐบาล, เส้นทางที่ 7 นำโดยนายสาธิต เซกัล ประธานกลุ่มประชาคมชาวสีลม เคลื่อนออกจากสีลม เข้าพระราม 4 หัวลำโพง วงเวียนโอเดียน เข้าเยาวราช แยกวังบูรพา ผ่านฟ้า นางเลิ้ง เข้าทำเนียบรัฐบาล, เส้นทางที่ 8 นำโดยนายอิสสระ สมชัย ออกจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผ่านสตรีวิทยา วังแดง คุรุสภา เข้าทำเนียบรัฐบาล, เส้นทางที่ 9 นำโดยนางศรีวรา อิสสระ เจ้าของอาคารชาญอิสสระ และโรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต รวมพลหน้าพรรคเพื่อไทย มุ่งหน้าทำเนียบรัฐบาล

สหภาพฯบินไทยนัดลางาน

นายดำรงค์ ไวยคณี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สหภาพฯได้ออกแถลงการณ์ด่วนที่สุด "ลางาน...ทวงคืนประเทศไทย" เพื่อเชิญชวนพนักงานการบินไทยใช้สิทธิการลางานทุกประเภทตามระเบียบบริษัทในวันนี้ (9 ธ.ค.) เพื่อร่วมการชุมนุมทางการเมืองโดยใช้สิทธิทวงคืนอำนาจของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 69 ในการปฏิรูปประเทศไทยให้ปลอดจากการเมืองเลว โดยนัดพบบริเวณหน้าสำนักงานใหญ่ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เพื่อมุ่งสู่ทำเนียบรัฐบาล

ทั้งนี้ สหภาพฯเห็นว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันหมดความชอบธรรมตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเรื่องพ.ร.บ.นิรโทษกรรม อีกทั้งการบินไทยตกอยู่ในภาวะวิกฤติหลายครั้งจากนักการเมืองที่มากอบโกยผลประโยชน์ และที่สำคัญผู้บริหารหลายคนของการบินไทยเกี่ยวข้องกับการเมืองมากเกินไป ไม่ใช้ระบบธรรมาภิบาลในการแต่งตั้งโยกย้ายบุคลากรแต่ใช้ระบบพวกพ้องในการแต่งตั้งโยกย้าย ส่งผลให้คนดีคนเก่งท้อถอย หมดกำลังใจในการทำงาน ซึ่งปัญหาดังกล่าวส่งผลให้พนักงานจำนวนมากไม่พอใจ

"การเลือกคนไม่เก่งมาบริหารการบินไทย ส่งผลให้ช่วง 9 เดือนปี 2556 การบินไทยขาดทุนกว่า 6 พันล้านบาท การปฏิรูปประเทศไทยให้ปลอดจากการเมืองเลวจะทำให้เกิดการปฏิรูปการบินไทยให้พ้นจากภาวะวิกฤติในปัจจุบัน วันนี้มีทางเลือกเพียง 2 ทาง คือเป็นไทยเฉย ปล่อยให้การบินไทยล่มสลาย สายการบินแห่งชาติตกเป็นสมบัติของนักการเมืองเลว หรือจะร่วมขบวนมหาประชาชน รักษาการบินไทยให้เป็นสมบัติของชาติ เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยต่อไป"

ทั้งนี้ การหยุดงานถือเป็นสิทธิอันชอบธรรมของพนักงาน และการออกแถลงการณ์ดังกล่าวไม่ได้เป็นการนัดหยุดงาน แต่ยอมรับว่าประชาชนผู้ใช้บริการอาจได้รับผลกระทบบ้างจากปัญหาเที่ยวบินล่าช้า หรือต้องใช้เวลานานเพื่อรอรับกระเป๋าสัมภาระ เพราะคาดว่าจะมีพนักงานใช้สิทธิลาหยุดเพื่อร่วมการชุมนุมหลายพันคน แต่ปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องที่ฝ่ายบริหารการบินไทยต้องแก้ไข

"ประภัสร์"ย้ำพนักงานทำงานปกติ

นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ได้หารือกับนายอำพล ทองรัตน์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจร.ฟ.ท.หลายครั้ง โดยยืนยันว่าการเข้าร่วมชุมนุมเป็นสิทธิของพนักงาน แต่ต้องเป็นการเข้าร่วมในนามส่วนตัวไม่ใช่ในนามสหภาพฯ เพราะถือเป็นการชุมนุมทางการเมือง แต่ไม่เกี่ยวข้องกับสิทธิประโยชน์ของพนักงาน ซึ่งประธานสหภาพฯเข้าใจและเห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพนักงานร.ฟ.ท.ยังคงทำงานให้บริการประชาชนตามปกติ

ศอ.รส.ดึง"ทูต-สื่อ"สังเกตการณ์ม็อบ

วันเดียวกัน เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. นายกรัฐมนตรีเดินทางไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะทำงานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาสถานการณ์ ของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เพื่อประเมินสถานการณ์ทางการเมือง และการเคลื่อนไหวของ กปปส.และกลุ่มอื่นๆ ที่ประกาศร่วมกันเดินเท้าไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 9 ธ.ค.นี้

ต่อมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ศอ.รส.แถลงว่า วันที่ 9 ธ.ค.นี้ ศอ.รส.ขอเชิญชวนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งผู้แทนเจ้าหน้าที่ทางการทูตจากประเทศต่างๆ พี่น้องสื่อมวลชน องค์กรอิสระ องค์การมหาชน รวมทั้งกลุ่มพี่น้องประชาชน ร่วมเข้าสังเกตการณ์ตรวจสอบสถานที่ ณ บริเวณที่มีการชุมนุม

วัตถุประสงค์ที่ต้องการแจ้งก็คือ จุดในมุมสูง จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่นั้น ขอเชิญเจ้าหน้าที่ สื่อมวลชนทุกฝ่าย ไปร่วมปฏิบัติหน้าที่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะแต่งกายด้วยเครื่องแบบ ปราศจากอาวุธ ประจำ ณ จุดสังเกตการณ์ต่างๆ บริเวณโดยรอบพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล สำหรับสื่อมวลชนที่มีความประสงค์จะเข้าร่วมสังเกตการณ์ เก็บภาพ บันทึกภาพ และฉายภาพต่างๆ ให้แก่พี่น้องประชาชนได้รับทราบนั้น สามารถติดต่อได้ที่ บช.น.ได้ตลอดเวลา เพื่อให้สถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายไปได้ด้วยดี

สถานทูตหวั่นถูกรัฐใช้เป็นเครื่องมือ

ด้านแหล่งข่าวจากสถานทูตแห่งหนึ่งในประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ที่เตรียมจะนำคณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวของ กปปส.ที่จะเคลื่อนการชุมนุมปิดทำเนียบรัฐบาลว่า เวลา 07.00 น. วันที่ 9 ธ.

ค.รมว.ต่างประเทศจะมีการบรรยายสรุปการณ์การชุมนุมของ กปปส.ล่าสุดให้คณะทูตานุทูต และองค์กรต่างประเทศได้รับฟัง ที่กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งในโอกาสนี้จะมีการเชิญคณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมสังเกตการชุมนุมของ กปปส.ในเวลา 08.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย

โดยจะเกิดขึ้นก่อนที่กลุ่ม กปปส.จะเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล โดยการดำเนินการครั้งนี้ของทางสถานทูตเองก็เข้าใจเจตนาของรัฐบาลไทยว่า ต้องการให้ผู้แทนจากชาติได้เห็นถึงการดำเนินงานของรัฐบาลที่ปฏิบัติต่อผู้ชุมนุม โดยเฉพาะความพยายามของรัฐบาลที่จะพยายามเปิดพื้นที่เพื่อให้เกิดการเจรจา

ส่วนการตัดสินใจที่จะเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้กับรัฐบาลไทยหรือไม่ คงจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องปัญหาที่เกิดขึ้นมีความเกี่ยวกันกับปัญหาการเมืองภายในประเทศไทยเอง เกรงว่าจะถูกประเด็นใช้ทางการเมืองให้ฝ่ายใดหนึ่งได้ รวมทั้งปัญหาเรื่องความปลอดภัยของตัวแทนสถานทูตจะเข้าร่วมกิจกรรมนั้นๆ จะมีความปลอดภัยหรือไม่ เรื่องนี้เราจำเป็นที่จะต้องพิจารณา

ผบ.ทอ.หวังไม่มีเหตุรุนแรง

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ที่จะเคลื่อนไหวใหญ่ในวันที่ 9 ธันวาคม ว่า ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหวังว่าเหตุการณ์จะสงบด้วยดี ไม่มีเหตุรุนแรง ส่วนผู้บัญชาการทั้ง 3 เหล่าทัพนั้น ได้หารือกันเป็นประจำ และมีคณะกรรมการที่ติดตามประเมินสถานการณ์เป็นระยะๆ อยู่แล้ว

สธ.ระดมทีมแพทย์ฉุกเฉิน30ทีมรับมือ

นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุขส่วนหน้ากรณีชุมนุมการเมือง เปิดเผยว่า เพื่อวางแผนการดูแลการชุมนุมครั้งใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครทั้งหมด วันที่ 9 ธันวาคมนี้ จะมีการปรับเปลี่ยนแผนบริหารจัดการให้เป็น 3 โซน โดยยึดบริเวณทำเนียบรัฐบาลเป็นจุดศูนย์กลาง โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ให้โรงพยาบาลสังกัดดูแลตลอดแนวบริเวณถนนพระราม 5 และเส้นเลียบคลองผดุงกรุงเกษมลงมา โดยได้ปรับเปลี่ยนทีมปฏิบัติการด้านการแพทย์ชั้นสูง โดยมีแพทย์ประจำการเป็น 10 ทีม และทำงานร่วมกับทีมมูลนิธิร่วมกตัญญูและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง อีก 20 ทีม รวม 30 ทีม และหากเหตุการณ์เปลี่ยนแปลง ได้สำรองทีมแพทย์ชั้นสูงจาก 5 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม อีก 10 ทีม เข้ามาเสริมอีกทันที

โพลล์ชี้ปชช.กังวล"สุเทพ"แตกหัก

ส่วนกรณีที่นายสุเทพ กำหนดเป่านกหวีดสู้เฮือกสุด โดยชวนคนไทยทั่วประเทศเดินขบวน ทำให้หลายฝ่ายมีความเป็นห่วงและเกรงว่าสถานการณ์ต่างๆ จะยกระดับความรุนแรงมากขึ้น สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สอบถามความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,588 คน ระหว่างวันที่ 6-7 ธ.ค.สรุปผลดังนี้

ประชาชนคิดอย่างไรกรณีนายสุเทพประกาศแตกหัก 9 ธ.ค.นี้ อันดับ 1 รู้สึกวิตกกังวล กลัวการชุมนุมยืดเยื้อบานปลาย ไม่อยากเห็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายเกิดขึ้น 36.46%, อันดับ 2 ขอให้ทุกฝ่ายมีสติ เห็นแก่บ้านเมือง ไม่อยากเห็นคนไทยต้องมาทะเลาะหรือทำร้ายกันเอง 30.39%, อันดับ 3 เป็นอีกวันหนึ่งที่จะต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด /สื่อไทยและต่างประเทศจับตามอง 19.34%, อันดับ 4 ขอให้การเคลื่อนไหวเป็นไปในทางสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างแท้จริง 13.81%

เมื่อถามว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ควรวางตัวอย่างไรในวันที่ 9 ธันวาคม ที่นายสุเทพจะประกาศแตกหัก อันดับ 1 ต้องหนักแน่น ใช้ความสงบโดยอยู่เฉยๆ ขอความร่วมมือทุกคนในรัฐบาลไม่ให้ยั่วยุหรือตอบโต้กันไปมา 34.52%, อันดับ 2 ไม่ใช้กำลังหรือความรุนแรงต่างๆ ที่จะทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บอันตราย 7.92%, อันดับ 3 ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง รับฟังข้อเสนอหรือสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องเพื่อนำมาแก้ไข 24.87%, อันดับ 4 กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด /และไม่ก้าวก่ายการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน 12.69%

และเมื่อสอบถามว่า คิดว่าความวุ่นวายทางการเมืองหลังจากวันที่ 9 ธันวาคมนี้ จะเป็นอย่างไร อันดับ 1 คงจะเหมือนเดิม 42.42% เพราะการเมืองไทยแบ่งเป็น 2 ขั้วชัดเจน นักการเมืองขาดคุณธรรมจริยธรรม เห็นแก่ประโยชน์ อำนาจ เงินทอง, อันดับ 2 น่าจะดีขึ้น 29.82% เพราะการยื่นข้อเสนอ ข้อเรียกร้องต่างๆ เพื่อให้รัฐบาลรับรู้และนำไปปฏิบัติชัดเจนมากขึ้น เป็นการเรียกร้องขั้นเด็ดขาด, อันดับ 3 น่าจะแย่ลง 27.76% เพราะยังมองไม่เห็นทางออกหรือวิธีแก้ปัญหาให้ดีขึ้น สถานการณ์การเมืองอยู่ในขั้นวิกฤติ นักการเมืองไม่ยอมเลิกรา