เปิดเบื้องหลังเหตุจลาจล'ม.รามฯ'

เปิดเบื้องหลังเหตุจลาจล'ม.รามฯ'

เปิดเบื้องหลังเหตุจลาจล"ม.รามฯ" จากคำบอกเล่านักศึกษาร่วมกิจกรรมต้านพ.ร.บ.นิรโทษ

ชนวนเหตุของปัญหาการปะทะของกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง กับกลุ่มคนเสื้อแดง ที่บริเวณประตูด้านหลังของมหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ต่อเนื่องเช้าเมื่อวานนี้ (1 ธ.ค.) ได้รับคำบอกเล่าจากนักศึกษารั้วรามคำแหงว่า กลุ่มนักศึกษาได้ร่วมกิจกรรมในการต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในช่วงที่ผ่านมา

โดยมีนักศึกษาหญิงและนักศึกษาชาย รวมตัวกันหลายร้อยคน โดยวันหนึ่งนักศึกษาหญิงที่ร่วมเป็นการ์ดถูกกลุ่มคนเสื้อแดงด่าทอ พร้อมกับตบหน้า หลังจากนั้นก็มีปากเสียงกัน จนถึงก่อนวันเกิดเหตุมีกลุ่มคนเสื้อแดงขับรถจักรยานยนต์มาป่วนเปี้ยน พร้อมกับนำมีดคัตเตอร์มากรีดรูปพ่อขุนรามคำแหง ซึ่งเป็นที่เคารพรักของนักศึกษา จึงทำให้นักศึกษาต้องลุกขึ้นมาปกป้องศักดิ์ศรีในครั้งนี้

นักศึกษารามคำแหง ได้รวมตัวกันชุมนุมมากว่า 10 วัน จนกระทั่งเหตุการณ์เริ่มสุกงอมตั้งแต่บ่ายของวันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา โดย นายอนิวัฒน์ นาคเป้า รองนายกองค์การนักศึกษา คนที่ 2 กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ตลอดเกือบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา สร้างความเดือดร้อนในด้านการเรียนการสอน และที่สำคัญมีนักศึกษาถูกทำร้ายร่างกายจากกลุ่มคนเสื้อแดง พร้อมเรียกร้องให้ผู้กำกับ สน.หัวหมาก สน.วังทองหลาง และ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) มารับเรื่องร้องเรียน เนื่องจากผู้ว่าการ กกท. รับผิดชอบให้เสื้อแดงเช่าสถานที่ และอยากให้ตำรวจส่งเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลความปลอดภัย

จากนั้น ในเวลา 16.30 น. ของวันเดียวกัน พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสติ ผู้กำกับการ สน.วังทองหลาง และ พ.ต.อ.ณรงค์ พรหมสวัสดิ์ ผู้กำกับการ สน.หัวหมาก ได้เดินทางมายังพื้นที่การชุมนุมพร้อมรับปากจะดูแลผู้ชุมนุมให้เกิดความปลอดภัย โดยมีอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงร่วมเป็นพยาน

ขณะที่เวลา 16.40 น. กลุ่มผู้ชุมนุมนักศึกษานับร้อยคน ที่อยู่บริเวณริมถนนหน้าทางเข้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ลุกฮือ ปิดถนน วิ่งทำร้ายกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นระยะๆ ที่เดินผ่านหน้ากลุ่มนักศึกษา เพื่อเข้าไปร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดง โดยมีกลุ่มการ์ดผู้ชุมนุม คล้องแขนกันเพื่อกั้นผู้ชุมนุมไม่ให้เข้าทำร้ายคนเสื้อแดงก่อนจะรีบนำตัวออกจากพื้นที่อย่างทุลักทุเล

หลังจากนั้นเวลาผ่านไปได้ไม่นาน เมื่อรถแท็กซี่คันหนึ่งรับผู้โดยสารกลุ่มคนเสื้อแดงมา 2-3 คน ผ่านมาถึงบริเวณดังกล่าว กลุ่มนักศึกษารามคำแหง ก็กรูกันเข้าไปทำร้ายจนรถเสียหายโดยคนขับต้องออกจากรถพร้อมยกมือไหว้ขอชีวิต

จากนั้นเวลา 18.00 น. ได้เกิดเหตุรุนแรงอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้กลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 10 คน ได้ว่าจ้างรถ ขสมก. โดยใช้เส้นทางผ่านหน้ามหาวิทยาลัย โดยที่ไม่รู้ว่ามีกลุ่มนักศึกษารวมตัวกันอยู่ เมื่อถึงบริเวณดังกล่าวนักศึกษาชุดเดิมก็กรูกันเข้าทำร้ายอีก ทั้งไม้ ก้อนหิน ก้อนอิฐก็กระหน่ำเข้าไปในรถเมล์คันดังกล่าว โดยที่กลุ่มคนเสื้อแดงต้องหลบซ่อนตัวในช่องทางเดินเพื่อเอาชีวิตรอดเพื่อกลับไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่ราชมังคลากีฬาสถาน

หลังจากสถานการณ์เริ่มคุกรุ่นเมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงมาปิดล้อมประตูด้านหลังของมหาวิทยาลัย ตั้งแต่เวลา 20.00 น. จนทำให้นักศึกษาต้องขับไล่ให้พ้นประตู แต่กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ยอม จึงทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บริเวณด้านหลังตึกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงแฝงตัวอยู่ด้านหลังตำรวจ

ทั้งนี้ จากการปะทะกัน ทำให้กลุ่มนักศึกษาและกลุ่มคนเสื้อแดงได้รับบาดเจ็บหลายราย โดยตลอดการปะทะกันต่างผลัดกันยึดพื้นบริเวณด้านหลังมหาวิทยาลัยรามแหง โดยอาวุธที่กลุ่มนักศึกษาใช้ปะทะมีเพียงไม้ และเสาธงชาติเท่านั้น ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงได้ใช้อาวุธปืน มีด ระเบิดปิงปอง ระเบิดเพลิง และประทัดยักษ์ โดยตลอดเกือบ 4 ชั่วโมง จะได้ยินเสียงปืน และเสียงระเบิดตลอดเวลา

การปะทะของนักศึกษา และกลุ่มคนเสื้อแดง ค่อนข้างรุนแรง โดยกลุ่มคนเสื้อแดงได้มีการวางแผนในการปะทะเป็นอย่างดี โดยมีชุดมือยิงที่แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ติดตามวีไอพี และมีคนประกบอีก 2-3 คน โดยลักษณะต้องการปิดบังอำพรางการปฏิบัติการ

นอกจากนี้ยังมีชุดในการเก็บปลอกกระสุนที่ชุดมือยิงปฏิบัติการเสร็จ ส่วนชุดปาระเบิดเพลิง ปิงปอง และประทัดยักษ์ จะปฏิบัติการเป็นระยะสลับกับการยิงปืน ทั้งนี้จากการเข้าไปดูในพื้นที่พบหลักฐานคือ ถาดบรรจุกระสุนปืน และกล่อง พร้อมปลอกกระสุนคนยิง

ทั้งนี้ เมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงยึดพื้นที่ด้านหลังประตูของมหาวิทยาลัยรามคำแหงแล้ว กลุ่มคนเสื้อแดงได้เข้าไปภายในซอยรามคำแหง 24 แยก 14 เพื่อเข้าไปเอาไม้ตีรถจักรยานยนต์ของประชาชนที่จอดไว้ในซอยดังกล่าว โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถทำอะไรได้

ขณะที่ภายในมหาวิทยาลัยก็ค่อนข้างที่จะวุ่นวายพอสมควร โดยที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้กราดกระสุนปืนยิงเข้ามาภายในด้วย ทำให้มีกลุ่มนักศึกษาได้รับบาดเจ็บ โดยกลุ่มเสื้อแดงได้กราดยิงเข้ามาในมหาวิทยาลัยตลอดทั้งคืน ขณะที่มีเฮลิคอปเตอร์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจบินวนตลอดทั้งคืน พร้อมสาดแสงไฟสแกนดูกลุ่มผู้ชุมนุมในมหาวิทยาลัย หลังจากนั้นชุดมือปืนก็จะกราดยิงอีกครั้ง

กระทั่ง ช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ (1 ธ.ค.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ได้ส่งรถเข้าไปเคลื่อนย้ายนักศึกษาออกจากมหาวิทยาลัย จำนวน 10 คัน เพื่อไปยังสถานที่ปลอดภัย ท่ามกลางการดูแลของทหาร จากกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ผบ.ร.11รอ.) แม้ว่ายังจะมีเสียงระเบิดเป็นระยะๆ