'ประชา'วอนปชช.อย่าออกจากบ้านหลัง4ทุ่ม

เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันนี้ (1 ธ.ค.) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี พร้อมกับนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีเเละรมว.คลัง นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีเเละรมว.ต่างประเทศ เเละนายพงษ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี เเถลงข่าวทางสถานีโทรทัศน์ช่อง11 กรณีสถานการณ์การชุมนุมหลังจากช่วงเย็นวันนี้หลังจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. ออกเเถลงการณ์

โดยพล.ต.อ.ประชา เเถลงว่าเรียนพี่น้องประชาชน ตามที่นายสุเทพเเถลงการณ์ช่วง16.00น.วันนี้นั้น ประชาชนทราบดีว่าสุเทพเป็นผู็ต้องหาคดีอาญา ในคดีการกระทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองเเละบุกรุกสถานที่ราชการ ปัจุบันนายสุเทพเชิญชวนผุ้ชุมนุมบุกนยึดสถานีโทรทัศน์โดยใช้กำลังประทุษร้าย บังคับให้ถ่ายทอดรายการตามความต้องการของตัวเองเเละใช้กำลังประทุษร้าย ยึด พยายามยึดสถานที่ราชการ

"ผมในฐานะรองนายกฯที่ดูเเลความมั่นคง ขอเรียนให้ประชาชนทราบว่า นายสุเทพเเถลงว่ารัฐบาลไม่เคารพศาลรัฐธรรมนูญในคดีเเก้ไขร่างรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาส.ว.นั้น ขอเเจ้งว่ารัฐบาลไม่เคยมีเเถลงการณ์หรือเเสดงใดๆว่าไม่ยอมรับคำวินิจอัยของศาล เเถลงการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภา ไม่มใช่รัฐบาล ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมนั้น ขอเรียนว่าร่างนี้ไม่ใช่ร่างของครม.เเต่เป็นร่างของส.ส. ที่เป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติทีเเยกจากฝ่ายบริหารเเละชัดเจนเเน่นอนเเล้วว่าส.ว.ไม่รับหลักการร่างนี้เเละส.ส.ไม่สนับสนุนร่างฉบับนี้ต่อไป ถือว่าร่างนี้ตกไปไม่มีโอกาสบังคับใช้เเน่นอนเเล้ว"

นายสุเทพบอกว่าวันที่2ธ.ค.เป็นวันหยุดราชการนั้น ยืนยันว่าพรุ่งนี้หน่วยราชการเปิดทำการปกติเเละนายสุเทพระบุว่าสื่อต้องเลิกเสนอข่าวรัฐบาลเเละต้องเสนอเหตุการณ์ชุมนุมนั้น ขอเรียนว่านายุสเทพไม่มีอำนาจรัฐตามที่รัฐธรรมนูญระบุ การที่จะสั่งให้สื่อหยุดการเสนอข่าวรัฐบาล เเละนายสุเทพอ้างชุมนุมโดยใช้มาตรา69 ของรัฐธรรมนูญ วิธีการของนายสุเทพนำมวลชนเเละคนอื่นเข้ายึด พยายามยึดอสถานที่ราชการ รัฐบาล สถานีโทรทัศน์นั้นไม่ได้เป็นไปโดยสันติวิธี มีการใช้กำลังทำลายผนังปูน ขว้างระเบิดปิงปอง รัฐบาลเข้ามาเป็นรัฐบาลโดยผ่านการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญเเละไม่ได้กระทำการใดๆให้อำนาจปกครองประเทศโดยไม่ได้เป็นไปตามที่บัญญัตติไว้ในรัฐธรรมนูญเลย การกระทำของนายสุเทพถือว่าล้มล้างอำนาจฝ่ายบริหารหรือให้ฝ่ายบริหารทำงานไม่ได้ เข้าองค์ประกอบมาตรา113 ประมวลกฎหมายอาญาคือ เป็นกบฏที่มีโทษคือประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต

เหตุการณ์ที่มหาวิทยาลัยรามคำเเหงเเละราชมังคลากีฬาสถานนั้น ตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐานเพื่่อสืบทราบขยายผลในเหุตการณ์เเละจับกุมผู้กระทำความผปดเชื่อว่าจะขยายผลผู้บงการเละผู้กระทำผิดได้ในไม่ช้า ตำรวจเเจ้งว่ามีผู้เสียชีวิต3ราย คือนปช.2ราย ฝ่ายผู้ชุมนุม1ราย สถานการณ์ที่รุนเเรงในพื้นที่ข้างต้น จากการสืบทราบของหน่วยข่าวกรองเเละหน่วยงานความมั่นคงพบว่ามีความพยายามของบุคคลที่สร้างสถานการณ์ดังกล่าวก่อความไม่สงบ เชื่อว่าอาจมีการใช้ความรุนเเรงเเละอาวุธอันตรายต่อประชาชนเเละการชุมนุม จุดประสงค์คือสร้างความเกลียดชังรัฐบาลเเละยกระดับสถานการณ์

ดังนั้นหลังเวลา22.00น.-05.00น.ของวันที่2ธ.ค.หากไม่จำเป็นขอให้ประชาชนไม่ควรออกนอกเคหะสถานทั้งนี้พื่อความปลอดภัยในชีวิตเเละทรัพย์สินเเละไม่ตกเป็นเครื่องมือของบุคคลที่สาม รัฐบาลประกาศว่าควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ด้วยความเรียบร้อย รัฐบาลปราถนาดีที่จะรับฟังความเห็นทุกฝ่าย หวังว่าทุกคนจะหันหน้ามาปรึกษาหารือเพื่อประโยชน์สุขของประเทศเเละประชาชน จึงเรียนให้ประชานมั่นใจเเละสบายใจว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชนทุกคน ฉะนั้นจึงให้ความสำคัญคือรับฟังความเห็นทุกฝ่ายโดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง ขอเน้นว่ารัฐบาลจะปกป้องประชาชนเเละนำมาซึ่งความปกติสุขโดยเร็วที่สุดเพื่อให้พสกนิกรชาวไทยมีความพร้อมที่จะถวายความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องเนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาวันที่5ธ.ค.จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน