แจงสภา'ภูมะเขือ'ไม่อยู่ในบริเวณพระวิหาร

"ทูตวีรชัย"ขึ้นชี้แจงสภา ระบุชัดศาลโลกเห็นว่า"ภูมะเขือ"ในพื้นที่ทับซ้อน4.6ตร.กม.ไม่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงปราสาทพระวิหาร
นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ ในฐานะหัวหน้าคณะการดำเนินการทางกฏหมายฝ่ายไทยคดีปราสาทพระวิหาร ได้ขึ้นชี้แจงต่อที่ประชุมรัฐสภาว่า ในคำพิพากษาของศาลโลก ได้ระบุว่า ศาลมีอำนาจในการรับตีความตามคำร้องของกัมพูชา แต่ไม่มีอำนาจชี้ชัดเส้นเขตแดน ซึ่งศาลตีความสิ่งที่เคยได้พิพากษาไปแล้วเท่านั้น นั่นหมายถึง ศาลได้ตีความในขอบข่ายของบทปฎิบัติการในคดีเดิมคืออำนาจอธิปไตยเหนือยอดเขา (promontory) พระวิหารเท่านั้น เนื่องจากศาลโลกเห็นว่า ไทย - กัมพูชามีความเห็นที่แตกต่างต่อคำตัดสินศาลโลก ปี 2505 ซึ่งคำว่า "Promontory" เป็นภาษาฝรั่งเศส ทางฝ่ายไทยได้นิยามความหมายว่า ยอดเขา
ภายหลังที่ศาลโลกมีคำตัดสินเมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา สื่อมวลชนไทยใช้คำว่า "ชะง่อนผา" โดยตนจะรับไปพิจารณา ทั้งนี้ "Promontory" ได้กลายเป็นข้อถกเถียงกันว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวมีขนาดเท่าไร แม้ว่า ศาลโลกจะเห็นว่า บริเวณใกล้เคียงปราสาทหรือพื้นที่ในคดีเดิม มีขนาดเล็กที่เห็นได้โดยชัดเจนตามลักษณะภูมิศาสตร์อย่างที่กัมพูชาได้กล่าวเป็นข้อสนับสนุนในการยื่นขอตีความ แต่ในคำตัดสินของศาลโลกครั้งนี้ เห็นว่า ภูมะเขือที่เป็นพื้นที่ใน 4.6 ตร.กม. ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงอาณาบริเวณปราสาทพระวิหาร และศาลก็ไม่ได้รับตีความพื้นที่ประมาณ 4.6 ตารางกิโลเมตร เนื่องจากไม่ใช่พื้นที่พิพาทในคดีเดิม
นายวีรชัย ชี้แจงต่อว่า ในคำตัดสินศาลโลกครั้งนี้ ยอมรับว่าการถ่ายทอดเส้นบนแผนที่ 1:200000 ลงบนภูมิประเทศจริงนั้นเป็นไปได้ยากหรืออาจจะกล่าวได้ว่าเป็นไปไม่ได้ ยังไม่นับว่าแผนที่ภาคผนวก 1 นอกจากนี้เส้นเขตแดนบนแผนที่ 1:200000 ไม่ผูกพันไทยกับกัมพูชาของผลคำพิพากษาในส่วนที่เกี่ยวกับพื้นที่นอกบริเวณใกล้เคียงปราสาท แต่อย่างใด







