นพดลยันรัฐบาล'สมัคร'ปกป้องพื้นที่ทับซ้อน

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ วิพากษ์วิจารณ์เรื่องคำแถลงการณ์ร่วม ว่า ตนไม่ให้ราคานายชวนนท์ ทั้งนี้ กรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงว่า รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้เจรจาให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนได้เฉพาะตัวปราสาทพระวิหาร และไม่ยอมให้กัมพูชานำพื้นที่ทับซ้อนขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย เป็นการปกป้องดินแดนไทยนั้น ความเห็นของนายสุรพงษ์ถูกต้องแล้ว เพราะนายสุรพงษ์คงจะพูดจากเอกสารและความเห็นของข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ เรื่องนี้มีเอกสารเป็นขั้นเป็นตอน ไม่ใช่เรื่องลี้ลับ และคนไทยทั้งประเทศรู้กันหมดแล้วว่าปราสาทพระวิหาร ศาลโลกตัดสินให้เป็นของกัมพูชาเมื่อ 51 ปีที่แล้ว สมัยที่อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไปว่าความแล้วไทยแพ้คดีในศาลโลก

อย่างไรก็ตาม ในปี 2549 กัมพูชาจะนำตัวปราสาทบวกพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม.ไปขึ้นทะเบียนมรดกโลก หากเปรียบตัวปราสาทเหมือนศาลพระภูมิ พื้นที่ทับซ้อนก็เปรียบเป็นสนามหญ้า กัมพูชาจะเอาทั้งศาลพระภูมิและสนามหญ้าไปขึ้นทะเบียนมรดกโลก แต่รัฐบาลนายสมัครได้เจรจาให้ตัดสนามหญ้าออก ให้ขึ้นได้เฉพาะศาลพระภูมิซึ่งเป็นของกัมพูชาตามคำตัดสินศาลโลกเมื่อ 51 ปีที่แล้ว สรุปคือรัฐบาลนายสมัครและตนคัดค้านไม่ให้กัมพูชานำพื้นที่ทับซ้อนไปขึ้นทะเบียนมรดกโลก จึงเป็นที่มาของคำแถลงการณ์ร่วมที่ระบุว่า กัมพูชาจะขึ้นทะเบียนได้เฉพาะตัวปราสาทที่เป็นของกัมพูชา ส่วนพื้นที่ทับซ้อนต้องตัดออก ไม่ให้นำไปขึ้นทะเบียน ดังนั้นรัฐบาลนายสมัครจึงเป็นผู้ปกป้องดินแดนตามที่นายสุรพงษ์กล่าว