นายกฯลั่นสู้คดีเขาพระวิหาร ปกป้องอธิปไตย

"ยิ่งลักษณ์"ระบุพร้อมสู้คดีเขาพระวิหาร ปกป้องอธิปไตยอย่างเต็มที่ ย้ำไม่กระทบความสัมพันธ์"ไทย-กัมพูชา"
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือกรณีศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ตัดสินคดีพิพาทเขาพระวิหารในวันที่ 11 พ.ย. ว่า ในเบื้องต้นเรามีกลไกที่เป็นคณะกรรมาธิการร่วมระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชาอยู่แล้ว ก็จะใช้กลไกนี้ในการหารือกัน เพื่อให้บรรยากาศตามแนวชายแดนเป็นไปอย่างสงบราบรื่น ซึ่งเมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศหารือนัดหมายในการพูดคุยกันและในส่วนอื่นๆนั้นจะให้ฝ่ายความมั่นคงดูแลความสงบในพื้นที่ด้วย แต่เราก็คงต้องติดตามสถานการณ์ก่อนในส่วนการวิเคราะห์นั้นเราก็จะมีทีมซึ่งนำโดยปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ และทีมงานฝ่ายกฎหมายที่ปรึกษากฎหมายเป็นทีมงานที่จะวิเคราะห์รายละเอียดทั้งหมดรวมถึงข้อกฎหมายขั้นตอนต่างๆด้วย ส่วนการเตรียมความพร้อมในวันตัดสินคดีก็จะมีการถ่ายทอดสด ซึ่งจะมีการแปลคำตัดสินทั้งภาษาไทยและภาษอังกฤษเพื่อให้ประชาชนได้ฟังพร้อมกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้มองว่าคำตัดสินจะออกมาแนวทางไหน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะอย่างที่กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งว่ามีแนวทางคำตัดสินออกมาทั้งหมด 4 แนวทาง ซึ่งก็คงต้องแล้วแต่คำตัดสินของศาลโลกที่จะออกมาอีกครั้ง ส่วนการทำความเข้าใจกับประชาชนนั้น เรียนว่าอยากให้นึกถึงกรณีที่หลายประเทศเมื่อมีผลตัดสินออกมาเขาก็สามารถที่จะรักษาบรรยากาศในเรื่องของความร่วมมือระหว่างประเทศได้ เพราะว่าความร่วมมือระหว่างประเทศนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญที่เราต้องรักษาสันติภาพในภูมิภาค โดยเฉพาะอาเซียน ซึ่งในปีหน้าเป็นปีสำคัญที่เราจะประกาศการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ดังนั้นเราต้องพยายามหาแนวทางในการอยู่ร่วมกันให้ได้ อย่างไรก็ตามในส่วนของรัฐบาลเราทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ในเรื่องของข้อกฎหมายและการต่อสู้ในเชิงของการรักษาอธิปไตยของประเทศและทีมงานทุกคนก็ทำอย่างเต็มความสามารถ ซึ่งการสู้คดีเราก็สู้ทุกประเด็นอยู่แล้ว โดยในช่วงการตัดสินคดีเราก็พยายามมีข้อมูลข่าวสารในการชี้แจงให้กับประชาชนเป็นระยะร่วมถึงแนวทางต่างๆที่เราคิดว่าพอจะอธิบายได้ ซึ่งเมื่อผลออกมาแล้วก็จะมีคณะที่จะศึกษาผลคำตัดสินและชี้แจงเป็นขั้นตอนให้เกิดความเข้าใจโดยเร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่าสถานการณ์จะบานปลายหรือไม่ เพราะมีกลุ่มที่ยังยืนยันคัดค้านไม่เห็นด้วยกับศาลโลก น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เรียนว่าเราต่อสู้ทุกประเด็นอยู่แล้วเมื่อผลออกมาอย่างไรเราก็จะต้องมีคณะกรรมการที่จะฟังผลก่อนว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไร ซึ่งจริงๆแล้วจะต้องมีรายละเอียดยังมีขั้นตอนอีกเยอะ
เมื่อถามต่อว่าห่วงความขัดแย้งในพื้นที่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องเรียนว่าขอความร่วมมือ เพราะว่าเป็นจุดที่อ่อนไหวจริงๆ ซึ่งเราเองก็ต้องทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ในการปกป้องอธิปไตยและการต่อสู้ในข้อกฎหมายต่างๆ ขณะเดียวกันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเราก็อยากขอให้ความสัมพันธ์นี้คงอยู่ และเราสามารถที่จะบริหารจัดการร่วมกันได้ ดังนั้นในส่วนของกลไกลกรรมาธิการระหว่างไทยกับกัมพูชาก็เป็นกลไกสำคัญที่เราหวังว่ากลไกนี้จะหารือถึงแนวทางร่วมกันต่อไป







