'ธีรภัทร'ให้เวลา3เดือนปฏิรูปเป็นรูปธรรม

'ธีรภัทร'ให้เวลา3เดือนปฏิรูปเป็นรูปธรรม

"ธีรภัทร"ให้เวลา 3 เดือนรัฐบาลต้องเคลื่อนงานปฏิรูปให้เป็นรูปธรรม ชี้จะทำสำเร็จได้ผู้นำต้องกล้าหาญ

นายธีรภัทร เสรีรังสรรค์ ประธานสภาพัฒนาการเมือง เปิดเผยหลังร่วมประชุมเวทีปฏิรูปในส่วนของคณะทำงานด้านเศรษฐกิจและสังคมว่า หลังจากประชุมว่า หลังจากการประชุมมีความคืบหน้าในเรื่องได้ประมวลความเห็นของหลายๆฝ่าย ว่า ที่ประชุมมีความคิดเห็นสอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่าในปัญหาใหญ่ๆ ว่ามีอย่างไรบ้าง ประการที่สองหลังจากได้ความเห็นดังกล่าวแล้วรัฐบาลคงจะไปบูรณาการทั้ง 3 ด้าน เพื่อให้เป็นโรดแมพอันหนึ่งอันเดียวกัน และได้คำตอบว่ารัฐบาลจะเดินหน้าโรดแมพอย่างไร อย่างเช่น เรื่องที่รัฐบาลสามารถเดินหน้าได้ทันทีไปปฏิบัติ และอาจจะกำหนดเป็นโรดแมพระยะสั้นและระยะยาวต่อไป ประการที่สามจากการได้แสดงความคิดเห็นอย่างทั่วถึงไปดำเนินการแก้ปัญหาต่อไปในอนาคต

นายธีรภัทร กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันภายนอกเวทีนี้ก็ควรต้องเสริมซึ่งอยู่นอกเวที ถึงแม้ว่าจะทำโดยวิธีประมวลผลการศึกษามาแล้ว แต่ว่าก็ควรจะได้นำข้อสรุปดังกล่าวไปสู่สังคมภายนอก โดยเฉพาะไปพูดคุยกับองค์กรหรือว่าคณะบุคคลที่ได้ดำเนินการเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง เช่น คณะนพ.ประเวศ ที่มีการเสนอร่างกฎหมาย 4 ฉบับ อาทิ กฎหมายเกี่ยวกับที่ดิน โดยนำผลกรศึกษาของภาคประชาสังคมที่ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาสู่การปฏิบัติได้เลย โดยเข้าสู่การพิจารณาของสภาได้เลย ซึ่งหากสามารถทำได้เลยรัฐบาลก็จะสร้างความน่าเชื่อถือได้มากขึ้นว่าได้ทำเรื่องนี้อย่างจริงจังและจริงใจ ซึ่งตนเป็นห่วงว่าเมื่อศึกษาแล้วจะไม่มีการนำไปปฏิบัติ

เมื่อถามว่าบุคคลภายนอกที่ไม่เข้าร่วมประชุมจะเป็นอุปสรรคหรือไม่ นายธีรภัทร กล่าวว่า ไม่ถือว่าเป็นอุปสรรค เพราะถึงแม้ว่าจะมีบุคคลอีกหลายฝ่ายจะไม่เข้าร่วมก็ตาม แต่ผลการศึกษาของคณะต่างๆ ได้นำมาประมวลไว้แล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่ต้องมีผู้มาเข้าร่วมทั้งหมด แต่ปัญหาคือการผลักดันให้เป็นรูปธรรมหรือไม่มากกว่า

นายธีรภัทร กล่าวต่ออีกว่า เรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลสามารถนำไปปฏิบัติได้ทันที คือ เรื่องการศึกษาภาคพลเรือน เพราะเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันทุกคน และไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งกับใครเลย ดังนั้นเป็นเรื่องที่รัฐบาลสามารถปฏิบัติได้ทันที และเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะเอาจริงหรือไม่ และมีผู้ที่มีความรู้ความสามารถมาช่วยทำให้เกิดผลสำเร็จได้จริงหรือไม่ ซึ่งต้องมีกลยุทธในการบริหารจัดการ เพราะที่ผ่านมาเราขาดผู้นำที่กล้าหาญในการตัดสินใจ ที่จะทำหรือไม่ทำ ถ้าเราได้ผู้นำทางการเมืองที่มีวิสัยทัศน์ ชัดเจนและลงมือทำอย่างจริงจังตนเชื่อว่าจะสำเร็จ ส่วนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกล้าตัดสินใจหรือไม่ตนไม่ขอวิจารณ์แต่ขอให้โอกาสก่อน

เมื่อถามว่าหลังจากมาร่วมเวทีครั้งนี้เห็นความจริงใจของรัฐบาลมากน้อยแค่ไหน นายธีรภัทร กล่าวว่า ตนขอเวลาอีก 3 เดือน หากภายใน 3 เดือนนี้รัฐบาลควรจะทำอะไรให้มีผลเป็นรูปธรรมอย่างน้อย 1 หรือ 2 เรื่อง หลังจากจบการหารือรอบนี้แล้ว รัฐบาลตัดสินใจอะไรแล้วต้องทำให้มีรูปธรรมให้เห็น ไม่เช่นนั้นแล้วสังคมจะไม่เชื่อถือ เพราะไม่รู้ว่ารัฐบาลจะมีเสถียรภาพครบเทอมหรือไม่ ประการที่สองไม่รู้ว่ารัฐบาลเอาจริงกับเรื่องนี้หรือไม่ ประการที่สามทุกคนที่มีความหวังอยากจะเห็นเพราะถ้ามันช้าออกไปคนก็ลืมก็เบื่อแล้ว เพราะฉะนั้นรัฐบาลต้องรีบฉวยโอกาสตรงนี้ ว่าหลังจากประชุมรอบนี้แล้วอีก 2 เดือนต้องตัดสินใจว่ารัฐบาลจะทำอย่างไรใน 3 กลุ่มย่อยที่มีการหารือกัน