ม็อบยางปิดถนนเอเชียสลายแล้ว

ม็อบยางปิดถนนข้ามคืนยอมสลาย หลัง"วิทยา"เจรจากับผู้ชุุมนุมรับปากข้อเรียกร้องให้ราคายางพาราแผ่นอยู่ที่กิโลกรัมละ120บาท
ความคืบหน้าจากเหตุการณ์ชาวสวนยางในอ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช จำนวนมากทยอยมารวมตัวบริเวณแยกควนหนองหงส์ ม.2 ต.ควนหนองหงส์ อ.ชะอวด และลุกลามไปถึงขั้นปิดถนนทั้ง 4 ช่องจราจร ส่งผลให้การจราจรติดขัด ทั้งขาขึ้นและขาล่องใต้ตอนล่างไม่สามารถใช้การได้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดเส้นทางการเดินรถไปในตัวอำเภอชั้นใน เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่เย็นวันศุกร์ที่ 2 ส.ค. ทั้งนี้ผู้ชุมนุมเรียกร้องให้มีการประกันราคายางโดยเฉพาะน้ำยางสดในราคากิโลกรัมละ 100 บาท ยางก้นถ้วย 50 บาทต่อกิโลกรัม พร้อมทั้งเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งนายกรัฐมนตรีมาพบเพื่อหาทางแก้ไขปัญหา
วันที่ 3 ส.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ชุมประท้วงในพื้นที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ยังคงปักหลักปิดเส้นทางการจราจรบริเวณแยกควนหนองหงส์ ถนนสายเอเชีย 41 ม.2 ต.ควนหนองหงส์ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเจรจาเปิดการจราจรได้ ขณะที่ผู้ชุมนุมยืนยันที่จะให้รัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีลงมาเจรจาแก้ไขปัญหาในเรื่องราคายางพาราด้วยตนเอง
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดกองร้อยควบคุมฝูงชน กว่า 500 นาย ถูกเรียกเข้ามาจากท้องที่ต่างๆมาปักหลักอยู่ที่วัดควนหนองหงส์ เพื่อเตรียมพร้อมรับคำสั่งทันที หากมีการสั่งให้เข้าสลายการชุมนุมและเปิดการจราจร ส่วนการแก้ไขปัญหาการจราจรนั้น เจ้าหน้าที่ได้ประจำในเส้นทางเลี่ยงหลายจุดใน 4 อำเภอใกล้เคียงเบี่ยงเส้นทางรถที่จะขึ้นไปยังภาคใต้ตอนบนและภาคใต้ตอนล่างไกลไปอีกหลายกิโลเมตร
ต่อมา นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เข้าเจรจากับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม โดยตัวแทนผู้ชุมนุมย้ำข้อเรียกร้องให้ราคายางพาราแผ่นอยู่ที่กิโลกรัมละ 120 บาทน้ำยางสด 100 บาทต่อกิโลกรัม ยางก้นถ้วยกิโลกรัมละ 50 บาท ราคาปาล์มน้ำมันที่ 4.50 บาทโดยให้มีผลภายใน 15 วัน และไม่เอาผิดกับผู้ชุมนุมที่ปิดกั้นการจราจร ต่อมานายวิโรจน์ได้เข้าเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและน้ำตาคลอเบ้า เพื่อให้ผู้ชุมนุมยอมสลายการชุมนุมและเปิดการจราจร แต่ผลประกฎว่าหลังจากที่นายวิโรจน์ได้เจรจา กลุ่มผู้ชุมนุมได้ถามกลับมาว่าหากภายใน 15 วันไม่ประสบความสำเร็จผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมที่จะมาร่วมชุมนุมกับประชาชนหรือไม่ ปรากฏว่านายวิโรจน์ตอบว่าสามารถเดินทางมาที่ อ.ชะอวดได้ตลอดเวลา ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจสถานการณ์จึงพลิกกลับและยืนยันว่าจะเดินหน้าในการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่านายวิทยา แก้วภราดัย สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ได้เดินทางมาร่วมประชุมกับตัวแทนผู้ชุมนุม และรับปากว่าจะร่วมกับประชาชนในการติดตามข้อเรียกร้องทั้ง 5 ข้อประกอบด้วย 1.ประกันราคายางพารากิโลกรัมละ 120 บาท ปาล์มน้ำมันกิโลละ 6 บาท รัฐบาลต้องมีคำตอบภายใน 15 วัน หากไม่เป็นไปตามข้อตกลงจะยกระดับการชุมนุมให้สูงขึ้น และไม่เอาผิดกับผู้ชุมนุมในทุกกรณี หลังจากนั้นปรากฏว่ากลุ่มผู้ชุมนุมแสดงความพอใจที่นายวิทยาขึ้นรับปากด้วยตัวเอง โดยข้อเรียกร้องทั้งหมดผู้ว่าราชการจังหวัดได้รับที่จะส่งต่อไปให้รัฐบาล อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันว่าหากวันที่ 19 สิงหาคม ข้อเรียกร้องทั้งหมดไม่ประสบผลสำเร็จจะมีการชุมนุมอีกครั้งโดยจะทำการปิดการจราจรที่บริเวณแยกสวนผัก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช




