นปช.ทวงบุญคุณรัฐบาล โวยไม่เคยได้อะไร

นปช.ทวงบุญคุณรัฐบาล โวยไม่เคยได้อะไร

"จตุพร"ทวงบุญคุณรัฐบาล โวย 2 ปีคนเสื้อแดงไม่เคยได้อะไรจากรัฐบาล จวกเห็นแก่เงิน ดันแต่ พ.ร.บ.กู้เงิน-งบประมาณ

แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงข่าวกรณีกระแสข่าวการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งประธาน นปช. โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.กล่าวว่า ในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ผ่านมา เมื่อไม่ได้รับตำแหน่ง นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. จึงชวนให้มารับตำแหน่ง แต่ได้ปฏิเสธไป เนื่องจากสุขภาพยังไม่ดี เพราะเป็นหมอนรองกระดูกเคลื่อน เจ็บแผ่นหลัง ซึ่งเป็นมาก่อนปรับ ครม.ไม่ใช่เพิ่งมาเจ็บ และแค่หลังหัก ไม่ใช่อกหัก จึงขอให้นางธิดาทำหน้าที่ประธาน นปช.ต่อไป

"ขอสื่อสารไปยังรัฐบาล 2 ปีแห่งการได้อำนาจ โดยการแลกชีวิตประชาชน คนเสื้อแดงยังไม่เคยได้ประโยชน์จากรัฐบาลที่ตัวเองแลกชีวิตให้ แก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่กล้าโหวตวาระ 3 ไม่กล้ายอมรับอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ เสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ปล่อยประชาชนทุกฝ่าย ยกเว้นแกนนำ ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับ เราเคยสื่อสารไปยังพรรคเพื่อไทย แต่ขณะนี้ดูเหมือนว่า รัฐบาลอยากให้ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท, พ.ร.บ.งบประมาณปี 2557 และเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านไปก่อน แล้วค่อยนำเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มาพิจารณา"

"อยากถามว่า รัฐบาลจะได้ใช้เงินเหล่านั้นหรือ ถ้ามีการล้มรัฐบาลอีกครั้ง ไม่อยากให้รัฐบาลเห็นแก่เงินมากกว่าประชาชน ขอเรียกร้องรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ให้เห็นแก่ประชาชน ไม่ใช่แค่ช่วยเหลือประชาชนกว่า 20 ชีวิตที่ติดคุก แต่เป็นการให้กำลังใจคนเสื้อแดงกว่า 10 ล้านคน รวมทั้งมี 20 ล้านสายตา จับจ้องมายังรัฐบาล อยากให้รัฐบาลได้แสดงไมตรีต่อคนเสื้อแดงในเรื่องนี้ เพราะถ้ามีการโค่นล้มรัฐบาลอีกครั้ง กำลังใจเขาจะมีแรงถือตีนตบ หัวใจตบ ให้แก่คนที่ไม่มีหัวใจตอบแทนได้หรือ ผมเคยพูดในพรรคหลังเหตุการณ์สลายการชุมนุมว่า คนเสื้อแดงไม่ใช่ของตายสำหรับพรรคที่จะทำอะไรก็ได้ เราเป็นเพื่อน เป็นมิตร นางธิดาคิดทฤษฎี 2 ขา ให้เพื่อไทยและนปช.เดินไปด้วยกัน วันนี้ไม่แน่ใจพรรคเพื่อไทยจะยังนับขา นปช.ด้วยหรือไม่ หรือคิดว่าจะเดินขาข้างเดียวได้" นายจตุพรกล่าว

นายจตุพร กล่าวอีกว่า สถานการณ์วันข้างหน้า พรรคประชาธิปัตย์จัดเวทีผ่าความจริงทุกวันเสาร์ ล็อกพื้นที่ใน กทม. กลุ่มไทยสปริงนำเสนอผ่านเว็บไซต์ มีสื่อในเครือข่ายเผยแพร่การชุมนุมอย่างเป็นระบบ จึงกังวลว่าสถานการณ์จะถูกยกระดับขึ้นมา หน้ากากขาวที่ยังเคลื่อนไหว เชื่อการจัดกิจกรรมครั้งหน้าจะมีมวลชนมาร่วมมหาศาลเพื่อหาความชอบธรรมในการจัดการรัฐบาลชุดนี้

"เราพร้อมเป็นหลังพิงให้รัฐบาลชุดนี้ แต่รัฐบาลต้องปฏิบัติ 3 อย่าง 1.ไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น ถ้าเกิดแล้วบอกว่าให้คนเสื้อแดงมาช่วยปกป้องรัฐบาล ซึ่งทำไม่ได้ เชื่อว่าแม้แต่คนเสื้อแดงก็จะไม่ออกมาปกป้องรัฐบาลคอร์รัปชั่น 2.อย่าลุแก่อำนาจ เราว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์อย่างไร ต้องไม่ทำอย่างนั้น 3.รัฐบาลต้องไม่ทรยศต่อประชาชน ที่ร้องขอทั้ง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้รัฐบาลลงนามรับเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ"

นายจตุพร กล่าวอีกว่า ที่พูดคือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การแสดงความรู้สึกไม่ใช่เพราะไม่ได้เป็นรัฐมนตรี เพราะชินแล้ว ไม่ได้มีความรู้สึก แต่อยากส่งเสียงไปยังรัฐบาลว่า ให้นิรโทษกรรมเอาประชาชนออกมา ไม่ใช่เอาเรื่องเงินก่อน อย่าเห็นแก่เงิน จงเห็นหัวใจประชาชน ถ้าเห็นแก่เงินก็ไม่มีวันได้หัวใจ คนเสื้อแดงที่มาไม่ได้มาเพราะเงิน มาเพราะหัวใจ เปิดสภา 1 ส.ค.ต้องเอาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมปล่อยประชาชนทุกฝ่าย ยกเว้นแกนนำ ขึ้นมาพิจารณาเป็นวาระแรก

"หน้ากากขาว"หยุด-มวลชนไม่ยอมหยุด

ความเคลื่อนไหวของกลุ่มหน้ากากขาว V For Thailand ที่ประกาศผ่านเฟซบุ๊ก พักการชุมนุมในกทม.ที่หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ในวันอาทิตย์ที่ 7 ก.ค.2556 นี้ แต่ปรากฎว่ามวลชนที่เข้าร่วมกับกลุ่มหน้ากากขาว ไม่ต้องการให้หยุดการชุมนุมในครั้งนี้ และพร้อมเดินหน้าต่อต้านระบอบทักษิณ และขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อไป โดยขณะนี้ในโซเชียลเน็ตเวิร์กได้มีการแชร์ภาพโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ ระบุข้อความว่า "V หยุด มวลชนไม่หยุด อาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคมนี้ ที่เดิม เซ็นทรัลเวิลด์ แล้วพบกัน ใครเหนื่อย พัก ใครพร้อมสู้ ตามเรามา"

ทั้งนี้ หลังจากกลุ่ม V For Thailand ได้ออกแถลงการณ์พักการชุมนุมออกมา มีแฟนเพจ V For Thailand โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอย่างกว้างขวาง

ขณะที่ความเคลื่อนไหวกลุ่มหน้ากากขาวในต่างจังหวัด ยังยืนยันที่จะเดินหน้าขับไล่รัฐบาลและระบอบทักษิณต่อไป โดยนัดรวมตัวกันในวันอาทิตย์ที่ 7 ก.ค.เช่นเดิม
V For Thailand เผยถูกแย่งชิงมวลชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกลุ่มหน้ากากขาวได้โพสต์แถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊กของกลุ่ม V For Thailand โดยมีเนื้อหาระบุว่า พักกิจกรรม เพื่อให้เป็นการกลับไปทบทวนบทบาทของทุกกลุ่ม โดยขอให้กลุ่มหน้ากากขาวพักกิจกรรมในวันอาทิตย์ที่ 7 ก.ค.นั้น ต่อมาทางกลุ่มได้โพสต์ข้อความระบุว่า "ด้วยเกียรติของ เพจ V For Thailand เราสัญญาว่าเราจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง และเราสัญญาว่าเราจะจับมือ แล้วเดินไปด้วยกัน เราหยุด เพื่อที่จะพุ่งทะยานไปข้างหน้า อย่ากังวลว่าเราจะกลับคำมั่นสัญญา เราไม่หวังผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากการทำหน้าที่คนไทยคนหนึ่งที่จะดึงชาติไทยออกจากหลุมเพลิง หลุมนรก อย่างในทุกๆ วันนี้ แล้วเราคนไทย ชาว V ทุกคน จะร่วมพลังเป็นคลื่นสึนามิ พัดระบอบทักษิณและการคอร์รัปชันออกจากแผ่นดินไทย"

ทั้งนี้ สาเหตุกลุ่มหน้ากากขาว V For Thailand ออกแถลงการณ์พักการชุมนุมนั้น เนื่องมาจากกรณีการชุมนุมของกลุ่มหน้ากากขาวเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีกลุ่มบุคคลพยายามชักชวนกลุ่มผู้ชุมนุมของกลุ่มหน้ากากขาวให้เดินขบวนต่อ ทำให้เกิดความคิดเห็นที่ต่างกัน เพราะอาจจะนำไปสู่การเสียจุดยืน และเจตนารมณ์ของกลุ่มได้ ทางกลุ่มหน้ากากขาวจึงออกแถลงการณ์เพื่อให้มวลชนที่เข้าร่วมจากกลุ่มต่างๆ ได้ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นอีกครั้ง

ม็อบสนามหลวงปัดครอบงำหน้ากากขาว

นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำกลุ่มคนไทยรักชาติรักแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีกลุ่มหน้ากากขาวประกาศพักกิจกรรมในกทม.ชั่วคราว เนื่องจากเกิดการแย่งชิงมวลชน ว่า ไม่ทราบข้อมูลจริงๆ เพราะไม่เคยไปเข้าร่วมด้วย แต่อาจมีเจตนาของกลุ่มธรรมาธิปไตย ที่ชุมนุมที่สนามหลวง เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องครอบงำ ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการพูดเกินเลยไปหรือไม่ ทั้งนี้ จุดยืนของกลุ่มสนามหลวงยังสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มหน้ากากขาว อยากให้มีการเคลื่อนไหวเชิงปริมาณ ในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตย ถึงแม้รูปแบบของทั้งสองกลุ่มแตกต่างกัน แต่มีเป้าหมายปฏิเสธนักการเมืองเช่นเดียวกัน จึงแปลกใจว่าข่าวการเข้าไปครอบงำกลุ่มหน้ากากขาวเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะจะเป็นเรื่องผิดตั้งแต่มีแนวคิดแล้ว

ด้านเว็บเพจ "องค์การพิทักษ์สยาม" ได้แสดงความไม่เห็นด้วย และชักชวนให้มวลชนออกมาชุมนุมเหมือนเดิม โดยแอดมินของเพจองค์การพิทักษ์สยามโพสต์ข้อความว่า "ท่านผู้ใดที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การนำของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ไปเจอกันที่ CTW (สามัคคี คือ พลัง ต้านภัยทรราชย์ ขายชาติกิน)" โดยมีผู้แสดงความเห็นสนับสนุนจำนวนมาก

"สุดารัตน์"จ่อฟ้องอดีตปธ.อนุไต่สวนปปช.

วันเดียวกันนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดบ้านพักย่าน แถลงข่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยกคำร้องกรณีการยกเลิกการจัดซื้อคอมพิวเตอร์กระทรวงสาธารณสุข วงเงิน 821 ล้านบาท โดยมิชอบ สมัยดำรงตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข ว่า ขอขอบคุณ ป.ป.ช.ทั้ง 8 คน ที่ให้ความเป็นธรรม แม้จะใช้เวลานานถึง 7 ปี ซึ่งเป็นการรอที่ทุกข์ใจ แต่เรามั่นใจว่าไม่ได้ทำผิด และไม่ใช้อำนาจในทางที่ผิด

รู้สึกเสียใจที่ทำให้ข้าราชการอีกเกือบ 20 คน ต้องพลอยเป็นเหยื่อทางการเมืองไปด้วย เป็นข้อกล่าวหาที่ยากทำใจได้ ที่สำคัญตลอดการต่อสู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคณะอนุกรรมการไต่สวนของ ป.ป.ช.ที่ตั้งผู้มีส่วนได้เสีย ที่เคยเป็นประธานคณะกรรมการกำหนดทีโออาร์ในโครงการนี้ มาเป็นประธานคณะอนุกรรมการไต่สวน มีการใช้เอกสารและพยานเท็จ โดยไม่รับฟังข้อกฎหมาย และข้อต่อสู้จากอีกฝ่าย จนต้องยื่นถอดถอนกรรมการ ป.ป.ช.ผู้นั้น แม้จะถอดถอนไม่สำเร็จ แต่ป.ป.ช.ก็ยอมเปลี่ยนตัวคณะอนุกรรมการสอบสวนชุดใหม่ให้ ทำให้มีมติยกคำร้องคดีนี้

ขณะนี้กำลังฝ่ายกฎหมายหารือว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมายกับอดีตประธานคณะอนุกรรมการไต่สวน และคณะอนุกรรมการไต่สวนของป.ป.ช.ที่ไม่ให้ความเป็นธรรมแก่ตนได้อย่างไรบ้าง เพื่อให้เป็นบรรทัดฐาน คาดว่าใช้เวลา 1 สัปดาห์ จะได้ข้อสรุปเรื่องดังกล่าว หลังจากนี้จะเขียนหนังสือ 1 เล่ม เป็นกรณีศึกษา ถึงความไม่เป็นธรรมของกระบวนการยุติธรรมในช่วงที่การเมืองเปลี่ยนแปลง

"พงศ์เทพ"แถลงผลศึกษาแก้รธน.10 ก.ค.

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมหารือการบูรณาการประชาสัมพันธ์เชิงรุกนโยบายของรัฐบาล เรื่องการสร้างความปรองดองสมานฉันท์และการปฏิรูปการเมืองว่า ขณะนี้เวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทย 108 เวที ที่มีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นผู้รับผิดชอบ กำลังจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยขอให้กระทรวงมหาดไทยนำผลที่ได้จากการประชาเสวนามาเผยแพร่ให้พี่น้องประชาชนทราบในภาพรวมว่า ที่ผ่านมารัฐบาลชุดนี้ได้ดำเนินการอะไรไปบ้าง ขณะเดียวกันที่ประชุมยังเสนอแผนงานประชาสัมพันธ์ 3 ระยะ คือ ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยให้สำนักโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี และกรมประชาสัมพันธ์ ไปทำรายละเอียดเพื่อจะดำเนินการต่อไป

ส่วนกรณีรัฐบาลที่มอบหมายให้มหาวิทยาลัย 3 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยรามคำแหง ไปศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้ 2 มหาวิทยาลัยได้แจ้งมาว่ามีความคืบหน้าไปมาก โดยวันพุธที่ 10 กรกฎาคม เวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล จะมีการแถลงให้ทราบว่า ผลการศึกษาเป็นอย่างไร ทั้งนี้ ผลการศึกษาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญของมหาวิทยาลัยนั้น เราจะนำส่วนหนึ่งมาประกอบการพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพราะเราให้อิสระแก่มหาวิทยาลัยทั้ง 3 แห่งอย่างเต็มที่

"ประยุทธ์"ชี้พ.ร.บ.กลาโหมตีกันล้วงโผ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการมองว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เข้ามาควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม เพื่อจะมาล้วงลูกการปรับย้ายนายทหารว่า การปรับย้ายทุกครั้งมี พ.ร.บ.กลาโหมอยู่ คือ ต้องมีการประชุมหารือกันในระหว่างเหล่าทัพและต้องมีความเห็นชอบร่วมกัน ที่ผ่านมาไม่มีใครมาล้วงได้ ทั้งนี้ ผบ.เหล่าทัพทุกท่านมีวุฒิภาวะที่ดี เพียงพอที่จะคัดเลือกคนในกองทัพขึ้นมาและมีคณะกรรมการของแต่ละเหล่าทัพตัดสิน

"ที่ผ่านมาตั้งแต่มีการใช้ พ.ร.บ.กลาโหมยังไม่เคยมีปัญหาความขัดแย้งในส่วนของเหล่าทัพ ซึ่งมีการเสนอขึ้นมาตามลำดับชั้น ผมไม่พูดถึงส่วนอื่น หากไม่ดีหรือทำงานไม่ได้ ผู้บังคับบัญชาที่เสนอมาต้องรับผิดชอบ การแต่งตั้งทุกครั้งยังไม่เคยมีการใช้มติอะไร และยังไม่เคยพูดคำว่า มติในที่ประชุมด้วยซ้ำ ทุกครั้ง ผบ.เหล่าทัพเสนอในส่วนของเหล่าทัพตนเองขึ้นมาในที่ประชุม โดยในที่ประชุมจะสอบถามว่า คนนี้ทำงานอย่างไร โตมาจากที่ไหน ที่ผ่านมาไม่เคยขัดแย้งกัน เป็นวัฒนธรรมของกองทัพ อย่าเอาความรู้สึกตัดสินว่า ต้องเป็นอย่างนั้น ถ้าอะไรที่ไม่ชอบธรรม หรือไม่ถูกต้อง เหล่าทัพคงไม่ทำตาม เพราะมี พ.ร.บ.กลาโหมอยู่"