หมอพรทิพย์เชื่อฆาตกรรมอำพราง'เอกยุทธ'

"หมอพรทิพย์"เชื่อฆาตกรรมอำพราง"เอกยุทธ" พี่ชายไม่เชื่อหวังแค่เงิน พบจ้องลงมือตั้งแต่ต้นปีแต่เหลว ตร.ปูพรมหาตัว"สุทธิพงศ์"ทั่วพัทลุง
หลังพบศพนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดังและเจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ ถูกฆ่ารัดคอแล้วนำศพไปฝังไว้ที่ จ.พัทลุง โดยตำรวจตั้งปมฆ่าชิงเงิน 5 ล้านบาท พร้อมทั้งจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้แล้ว 3 คน ประกอบด้วย นายสันติภาพ หรือบอล เพ็งด้วง อายุ 23 ปี คนขับรถของนายเอกยุทธ นายชวลิต หรือเชา วุ่นชุม อายุ 23 ปี และนายทิวากร เกื้อทอง อายุ 19 ปี ส่วนนายสุทธิพงศ์ หรือเบิ้ม พิมพิสาร อายุ 27 ปี อยู่ระหว่างหลบหนีนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 09.15 น.วานนี้(13 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่นำศพนายเอกยุทธ มาชันสูตรอัตลักษณ์ ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ โดยมี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ร่วมเดินทางมาด้วย
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องผ่าศพนายเอกยุทธเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตให้ชัดเจน ทั้งการตรวจอาหาร ร่องรอยการกระแทกบริเวณหัวเข่า และตรวจหาสารพิษในร่างกาย ส่วนนายสุทธิพงศ์ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัว ซึ่งมีเบาะแสพอสมควร เชื่อว่ายังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย
ต่อมา พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา กล่าวถึงผลการผ่าพิสูจน์ศพนายเอกยุทธว่า เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ มาประมาณ 5-6 วัน เนื่องจากศพมีสภาพเปลี่ยนแปลงไป และแพทย์พบรอยบาดแผลที่บริเวณใบหน้า แต่ไม่สามารถชี้ได้ว่าเกิดจากการทำร้ายหรือไม่
นอกจากนี้ยังพบบาดแผลเล็กน้อยที่หัวเข่าและปลายมือทั้งสองข้าง และมีรอยแผลที่บริเวณข้อมือ แต่ยืนยันไม่ได้ว่า เกิดจากการถูกรัดหรือไม่ ส่วนสภาพอวัยวะภายในปกติ ไม่พบเศษอาหารในช่องท้อง แพทย์ได้เก็บตัวอย่างอวัยวะภายในไปตรวจสอบเพื่อหาสารพิษในร่างกายอย่างละเอียด ส่วนผลการชันสูตร แพทย์จะส่งความเห็นไปให้พนักงานสอบสวนพิจารณาประกอบสำนวนคดีต่อไป
"จรัมพร"ชี้ลายนิ้วมือตรงกับเอกยุทธ
พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า จากการตรวจสอบเปรียบเทียบลายนิ้วมือของนายเอกยุทธ กับศพเพื่อยืนยันตัวบุคคล สรุปผลออกมาแล้วว่า ตรงกับลายนิ้วมือของนายเอกยุทธทั้ง 10 นิ้ว ประกอบกับหลักฐานที่ตรวจพบในรถตู้ คือ กระดุม และแหวนที่สวมใส่สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจน ส่วนผลตรวจดีเอ็นเอของศพก็ตรงกับดีเอ็นเอของญาติ
"การตรวจลายนิ้วมือจะรู้ได้ทันทีว่าเป็นนายเอกยุทธหรือไม่ ซึ่งนิ้วมือด้านขวาและซ้ายของนายเอกยุทธนั้น สามารถพิมพ์ลายได้ มีเพียงนิ้วด้านซ้ายมีผิวหนังชั้นนอกหลุดออกไปบ้าง แต่ผิวหนังชั้นในยังพอเก็บได้อยู่ ซึ่งความจริงการตรวจเพียงนิ้วเดียว ก็สามารถยืนยันเอกลักษณ์ตัวบุคคลได้แล้ว เพราะตำรวจมีประวัติเดิมอยู่"
"พี่ชายเอกยุทธ"ไม่เชื่อหวังแค่เงิน
นายอัครนันท์ เรืองนันทวงษ์ พี่ชายนายเอกยุทธ กล่าวว่า ในเรื่องคดีขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ แต่ส่วนตัวไม่เชื่อว่าการเสียชีวิตของนายเอกยุทธ จะมีแค่นายสันติภาพ และพวกเท่านั้นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสาเหตุที่นายสันติภาพ อ้างว่าสังหารนายเอกยุทธเพราะมีแรงจูงใจประสงค์ต่อทรัพย์ ตนเชื่อว่าคดีนี้ตำรวจสามารถดำเนินการต่อไปได้ หากมีข้อมูลเบาะแสใหม่ พร้อมขอขอบคุณตำรวจที่สืบสวนสอบสวนคดีนี้จนสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็วด้วย
ส่วนศพของนายเอกยุทธ ทางครอบครัวจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดลาดพร้าว เป็นเวลา 7 วัน ก่อนจะฌาปนกิจศพต่อไป ขณะที่ธุรกิจและทรัพย์สินทุกอย่างของนายเอกยุทธ รวมทั้งเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ ทางครอบครัวจะดำเนินการต่อไป แต่ขอหารือรายละเอียดภายในครอบครัวก่อน
"อดุลย์"ปักใจประสงค์ต่อทรัพย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.20 น. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ประชุมสรุปการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีฆาตกรรมนายเอกยุทธ หลังการจับกุมผู้ต้องหา 3 คน คือ นายสันติภาพ นายชวลิต และนายทิวากร ซึ่งช่วยกันขุดหลุมอำพรางศพ ขณะที่ผู้ต้องหาตามหมายจับอีกรายอยู่ระหว่างหลบหนีคือ นายสุทธิพงศ์ ซึ่งเป็นคนใช้
เชือกรัดคอนายเอกยุทธจนถึงแก่ความตาย
นอกจากนี้ที่ประชุมยังร่วมกันวิเคราะห์มูลเหตุของการก่อคดีและพิจารณาพยานหลักฐานต่างๆ โดยยังให้น้ำหนักประเด็นฆ่าชิงทรัพย์เงินสด 5 ล้านบาท ส่วนประเด็นอื่นๆ ตามที่เป็นข่าวนั้น ผบ.ตร.สั่งการให้สอบสวนขยายผลและสืบสวนหาพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หากพาดพิงหรือเกี่ยวโยงถึงบุคคลใดให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที
ตร.เค้น"สันติภาพ-พ่อแม่"5ชม.
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 01.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่นำตัวนายสันติภาพ นายชวลิต และนายทิวากร พร้อมด้วย จ.ส.อ.อิทธิพล เพ็งด้วง และนางจิตรอำไพ เพ็งด้วง พ่อและแม่ของนายสันติภาพ ไปที่ สน.วังทองหลาง เพื่อแยกสอบปากคำใน 5 ห้อง ใช้เวลาเกือบ 5 ชั่วโมง
ในช่วงต้นของการสอบปากคำนายสันติภาพขอพูดคุยกับพ่อ เจ้าหน้าที่อนุญาตให้เจอกัน 30 นาที ก่อนนำตัว จ.ส.อ.อิทธิพลไปแยกสอบ โดยมีนายทหารพระธรรมนูญร่วมสอบปากคำด้วย กระทั่งเวลา 06.00 น. การสอบปากคำจึงแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายสันติภาพ จ.ส.อ.อิทธิพล และนางจิตรอำไพ เข้าห้องคุมขังของ สน.วังทองหลาง ส่วนนายชวลิต และนายทิวากร เจ้าหน้าที่นำตัวแยกไปฝากขังที่ สน.หัวหมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสอบปากคำพบว่ากลุ่มคนร้ายสังหารนายเอกยุทธ ที่บริเวณสะพานใกล้กับหมู่บ้านย่านลาดกระบัง นายสันติภาพ และนายสุทธิพงศ์ ซึ่งยังหลบหนีได้พูดคุยปรึกษาแผนการอยู่ในรถโฟล์ค หลังจากได้เงินสดมา 5 ล้านบาท ระหว่างนั้นนายเอกยุทธ สบช่องหนีออกจากรถทางประตูหลังและกระโดดสะพาน แต่ไปไม่รอด เพราะถูกใส่กุญแจมือ ประกอบกับกระโดดลงมาทำให้ได้รับบาดเจ็บ จึงถูกลากตัวกลับเข้าไปในรถ ก่อนที่นายสุทธิพงศ์จะใช้เชือกผูกรองเท้ารัดคอจนสิ้นใจ
พบจ้องลงมือช่วงต้นปีแต่ล้มเหลว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วย กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดยอมรับว่ามีการวางแผนกัน โดยเคยคิดจะก่อเหตุตั้งแต่ต้นปีแล้ว ระหว่างที่นายเอกยุทธ จะเดินทางไปต่างประเทศ แต่เผอิญช่วงนั้นนายเอกยุทธ ไปกับเพื่อนจึงต้องล้มเลิกแผนการ ทั้งนี้กลุ่มผู้ต้องหามีการวางแผนเป็นอย่างดี เลือกเวลาเดินทางค่อนข้างจะดึก เพื่อป้องกันการเจอด่านเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สำหรับนายสันติภาพ นายชวลิต และนายทิวากร ถูกตั้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์และประทุษร้ายเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน กักขังหน่วงเหนี่ยว อำพรางศพ ส่วน จ.ส.อ.อิทธิพล และนางจิตรอำไพ ถูกตั้งข้อหาร่วมกันรับของโจร
ปูพรมหาตัว"สุทธิพงศ์"ทั่วพัทลุง
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พัทลุง ว่า ตำรวจชุดสืบสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ได้เข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 206 หมู่ 9 ต.นาขยาด อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นบ้านของนายสุทธิพงศ์ แต่ไม่พบตัว ที่บ้านมีเพียงนายสุพจน์ พิมพิสาร อายุ 60 ปี ผู้เป็นบิดา เท่านั้น
นายสุพจน์ ให้การว่า นางชลกร พิมพิสาร ภรรยากำลังเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อติดตามตัวนายสุทธิพงศ์ ขอให้เข้ามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้นตนไม่ทราบเรื่อง ที่ผ่านมาบุตรชายไม่เคยติดต่อมาที่บ้าน ทราบเพียงว่าไปประกอบอาชีพทำกรงนกขายอยู่ที่กรุงเทพฯ
จากนั้นตำรวจชุดเดียวกันได้เข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 6 ต.พนมวังก์ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นบ้านของนายพีรกานต์ สงขาว อายุ 26 ปี ผู้ต้องสงสัยอีกคน แต่ไม่มีใครอยู่บ้าน
ฝากขัง"พ่อ-แม่"คนขับรถ
วันเดียวกัน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ควบคุมตัว จ.ส.อ.อิทธิพล และนางจิตรอำไพ ผู้ต้องหาที่ 1-2 คดีรับของโจร ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกแล้ว ต่อมาญาติของผู้ต้องหาทั้งสอง ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดเพื่อขอปล่อยชั่วคราวรายละ 1 แสนบาท
ทั้งนี้ศาลพิเคราะห์แล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งสองไปโดยตีราคาประกันรายละ 1 แสนบาท ภายหลังศาลให้ปล่อยชั่วคราวแล้ว ผู้ต้องหาทั้งสองได้เดินทางกลับทันที
"หมอพรทิพย์"เชื่อฆาตกรรมอำพราง
วันเดียวกัน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้ตรวจราชการสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม และอดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมบลูสกายว่า คดีฆาตกรรมนายเอกยุทธ ไม่ได้แตกต่างจากคดีของนายสมชาย นีละไพจิตร อดีตประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม และนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน เพราะยังไม่รู้ประเด็นว่า คืออะไร และผู้ตายไม่ใช่ประชาชนธรรมดา ที่ไม่เคยมีเรื่องกับอำนาจรัฐ
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า หลักการในต่างประเทศซึ่งเคารพในหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเต็มที่ จะไม่มีการผูกขาดอำนาจอย่างในประเทศไทยเช่นปัจจุบัน โดยผู้ตรวจเก็บพยานหลักฐาน ผู้ตรวจพิสูจน์ และผู้ทำสำนวนต้องไม่เป็นหน่วยงานเดียวกัน ปัจจุบันผู้ดำเนินการเกี่ยวกับคดีดังกล่าวเกี่ยวพันกับตำรวจ และผู้ถืออำนาจรัฐทั้งหมด ทำให้ประชาชนครหาได้ว่าปัจจุบันรัฐไทยเป็นรัฐตำรวจ
"เท่าที่เห็นจากสื่อทำให้เกิดความเป็นห่วง เพราะคดีนี้ถือเป็นฆาตกรรมอำพราง ตำรวจไม่ควรสืบทางโทรทัศน์ ซึ่งตำรวจจับผู้ต้องหามาแถลงทีนึง เมื่อมีผู้ต้องสงสัยก็กลับไปหาหลักฐานมาเพิ่มอีกที ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ ประเด็นต่อมาคือ ข้อมูลและหลักฐานอื่นๆ เช่น ข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของผู้ต้องหา ทางเจ้าหน้าที่กลับไม่ทำให้ปรากฏออกมา แม้ว่าญาติของผู้เสียชีวิตอยากให้ดิฉันเข้าไปตรวจสอบคดีนี้เพิ่มเติมเหมือนในอดีต ก็คงทำไม่ได้เนื่องจากบทบาทของดิฉันในปัจจุบัน"
นายอัครนันท์ กล่าวด้วยว่า ในการจัดพิธีสวดอภิธรรมศพนั้นจะต้องปรึกษากับกลุ่มพี่น้องก่อนว่า จะสวด กี่คืน เนื่องจาก บรรดาพี่น้อง และเพื่อนสนิทของนายเอกยุทธ ส่วนมากอยู่ในต่างประเทศ และขณะนี้ทราบเรื่องแล้วเตรียมที่จะเดินทางมา แต่ในส่วนของการฌาปนกิจคงจะไม่ดำเนินการในทันที เพราะต้องเก็บศพไว้เพื่อตรวจพิสูจน์ในทางคดีเพิ่มเติม
"พี่สาว"เชื่อฆ่าชิงทรัพย์ไม่เกี่ยวการเมือง
เมื่อเวลา 16.45 น. ศพของนายเอกยุทธ ถูกเคลื่อนจากสถาบันนิติเวชมาถึงวัดลาดพร้าว เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาที่ศาลา 6 บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
นางสุภากรณ์ แหวนหล่อ พี่สาวของนายเอกยุทธ ให้สัมภาษณ์ว่า ญาติเชื่อว่านายสันติภาพ ร่วมกับพวกก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์นายเอกยุทธจริง โดยไม่ติดใจว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมือง ตามที่นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ ตั้งข้อสงสัย เนื่องจากนายสันติภาพ มีพฤติกรรมติดการพนัน และคนที่ติดการพนันสามารถทำได้ทุกวิถีทางเพื่อต้องการนำเงินไปใช้หนี้
ทั้งนี้ นางสุภากรณ์ กล่าวแสดงความขอบคุณ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ และตำรวจชุดจับกุมทั้งหมด ที่ทำงานด้วยความรวดเร็ว จนสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ และสามารถติดตามนำศพของนายเอกยุทธกลับมาได้ อีกทั้งไม่คิดโกรธแค้นนายสันติภาพ เพราะใครทำอย่างไรไว้ก็ต้องได้รับกรรมเอง







