ภรรยา'เจริญ'ลั่นศาลยกฟ้องเป็นไปตามคาด

ภรรยา'เจริญ'ลั่นศาลยกฟ้องเป็นไปตามคาด

ภรรยา"เจริญ วัดอักษร" ถามกลับ จะต้องให้คนบงการไปสารภาพต่อหน้าศาลหรือถึงจะเอาผิดได้ ลั่นหวังขบวนการยุติธรรมไม่ได้

นางกรณ์อุมา พงษ์น้อย อายุ 43 ปี ภรรยานายเจริญ วัดอักษร แกนนำต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์และประธานกลุ่มอนุรักษ์ท้องถิ่นบ่อนอกซึ่งถูกยิงเสียชีวิตในปี 2547 เปิดเผยว่า การที่ศาลอุทรณ์ มีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง และนายธนู หินแก้ว ทนายความ , นายมาโนช หินแก้ว สจ.ประจวบคีรีขันธ์ และนายเจือ หินแก้ว อดีตกำนัน ต.บ่อนอก บิดาจำเลยที่ 3 และ 4 ร่วมกันเป็นจำเลยที่3-5ในความผิดฐานร่วมกันใช้จ้างวานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน

โดยส่วนตัวแล้ว ยอมรับว่า ไม่ได้ผิดความคาดการณ์ตั้งแต่ต้น เพราะการที่มีอปืนในคดีนี้เสียชีวิตก่อนขึ้นศาลก็เท่ากับว่าเป็นการตัดตอนทางคดี ทั้งที่มือปืนล้วนแต่มีความเกี่ยวข้องกับจำเลยที่ 3 ,4, และ 5 " ในชั้นพนักงานสอบสวน มีการรับสารภาพไว้ว่าได้ร่วมกันวางแผนกับจำเลยในคดีดังกล่าว โดยมีการพานายประจวบ หินแก้ว มาจากบ้านของนายธนู หินแก้ว มาเจอกับนายเสน่ห์ เหล็กล้วน ที่ปั้ม ปตท.สี่แยกบ่อนอก ของกำนันเจือ หินแห้วในสมัยนั้น ในการรับสารภาพของชั้นพนักงานสอบสวนกระทำต่อหน้านายอุมพร คชหิรัญ(นาท ภูวนัย) รอง.ผวจ.ประจวบฯ ในสมัยนั้น ถามว่าหลักฐานเท่านั้นยังไม่เพียงพอที่จะอาผิดกันอีก หรือจะต้องให้ผู้กระทำความผิดไปยืนสารภาพต่อหน้าศาลว่า เป็นผู้บงการจึงจะสามารถเอาผิดได้"

นางกรณ์อุมา กล่าวว่านับตั้งแต่นายเจริญ เสียชีวิต ได้ติดตามคดีตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวนจนถึงศาลชั้นต้นจนมีคำพิพากษาออกมา และก็มีบทสรุปว่ากันว่า คงไม่สามารถหวังขบวนการยุติธรรมได้ ดังนั้นโจทย์ร่วมจึงไม่ไปร่วมลงชื่อเป็นโจทย์ร่วม คงต้องเป็นหน้าที่ของฝ่ายขบวนการยุติธรรม ที่อัยการต้องทำหน้าที่พิสูจน์ตัวเองในการที่จะดำเนินคดีให้กับครอบครัว แต่วันนี้ผลจากศาลอุทรณ์ที่ออกมา ก็มีบทสรุปแล้วว่าศาลฏีกาคงคาดหวังไม่ได้เช่นกัน

"ตั้งแต่สามีถูกยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2547 เป็นเวลา 9 ปี จนถึงวันนี้ทั้งตัวเอง และชาวบ้านยังคงจัดงานทำบุญ อยู่ทุกปี เพราะศพก็ยังอยู่ที่วัดสี่แยกบ่อนอก ส่วนจะทำการฌาปนกิจวันไหน ยังไม่มีกำหนดเพราะต้องการที่จะให้กระบวนการยุติธรรมมีการตัดสินคดีนี้ออกมา" ภรรยานายเจริญ กล่าว