'อภิสิทธิ์'อัดกลับ'ฮุนเซน'2หน้า'ตัวเองมีเอี่ยว'

'อภิสิทธิ์'อัดกลับ'ฮุนเซน'2หน้า'ตัวเองมีเอี่ยว'

"อภิสิทธิ์"ตอกกลับ"ฮุนเซน"ตี2หน้า ต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่าง แจงกลับไปดู3เรื่อง"คำพูดทักษิณ-วิกิลีกส์-แถลงการณ์ของตัวเอง"

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวพาดพิงเรื่องปราสาทพระวิหารว่า ตนเป็นคนที่พูดความจริงเสมอ และไม่เคยพูดต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่าง แนะให้ไปดูหลักฐาน 3 ข้อ 1.คำพูดทักษิณ 2. วิกิลีกส์ และแถลงการณ์ของตัวเอง แต่ก็ไม่แปลกใจการพูดจาของผู้นำกัมพูชา เมื่อครั้งเจอกับตนก็พูดคุยกันดี ไม่ได้ว่าหรือด่าทออะไร แต่กลับไปพูดข้างนอกแล้วมีผลประโยชน์ก็ออกมาตอบโต้ตน ซึ่งคนจำนวนมากก็รู้ดีถึงความความเชื่อถือของนายกฯฮุนเซน ทั้งนี้สิ่งที่ขออธิบายคือ สมเด็จฮุนเซน จะสับสนเรื่องของกรอบเวลา เรื่องของข้อเท็จจริง หรือแกล้งสับสนนั้นไม่ทราบ โดยประเด็นแรกในกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ของไทย ว่ามีผลประโยชน์ในเรื่องของทรัพยากรในทะเล เรื่องแก๊ส เรื่องน้ำมัน เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณเองเคยแสดงความสนใจในการทำธุรกิจนี้ ข้อที่ 2หลักฐาน ถ้าเกิดสมเด็จฮุนเซน สนใจ ไปดูในวิกิลีกส์ ที่มีการเขียนถึงความสนใจของพ.ต.ท.ทักษิณที่จะเข้ามาทำในเรื่องนี้ และ 3 ในแถลงการณ์ของทางกัมพูชาเองวันนี้ ก็ยอมรับว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯและรัฐบาลไปเจรจาในเรื่องนี้ ทั้งๆที่ขณะนี้ MOU ในเรื่องนี้ถูกแขวนอยู่ ดังนั้นอย่ามาเรียกหาหลักฐานให้ไปดู 3 เรื่องนี้ก่อน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในสัปดาห์ที่แล้วพรรคประชาธิปัตย์ได้ถามกระทู้สดนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ว่า กระทรวงการต่างประเทศได้มีการตอบโต้กัมพูชาเกี่ยวกับปราสาทพระวิหาร ที่อาจมีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเล และขอท้ารัฐบาลชุดนี้ไล่ตั้งแต่นายกฯลงมา กล้ายืนยันว่า ไม่มีคนไปคุยเรื่องผลประโยชน์ทางทะเล ทั้งๆ ที่ MOU แขวนอยู่ แต่นายสุรพงษ์ก็ตอบว่าขออย่าพูดเรื่องนี้เลย และไม่กล้ายืนยัน นี่ก็แสดงว่า ชัดเจน ทั้งนี้ยอมรับว่า สมัยรัฐบาลมีการไปคุยในเรื่องนี้ แต่ก็โปร่งใส ทั้งเรื่องของปราสาทพระวิหาร และเขตแดน รวมถึงการต่อสู้ในทุกเวทีโลก ส่วนกรอบความร่วมมือต่างๆไม่เคยยกเลิกแต่ต้องทำตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 โดยเฉพาะการทำเอ็มโอยูเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเลที่รัฐบาลตนได้มีมติยกเลิก เอ็มโอยู ฉบับนี้ เรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรลึกลับซับซ้อน ไม่ได้มีการโกหกประชาชน

"เรื่องนี้ก็ไม่รู้ว่าจะมีใครเชื่อสมเด็จ ฮุนเซน บ้างแต่ก็เชื่อว่ารัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยก็คงจะเชื่อ เพราะพูดจาสอดคล้องกัน การที่รัฐบาลซึ่งเป็นคู่กรณีกับเรา พยายามกล่าวหาฝ่ายค้าน เพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งที่รัฐบาลไทยกำลังพยายามจะหยิบมาเป็นเงื่อนไขในการตอบโต้ฝ่ายค้าน มันบ่งบอกว่า สมเด็จฮุนเซนไม่พอใจรัฐบาลที่แล้ว เพราะเขาไม่ได้อย่างที่เขาต้องการ จึงต้องหยิบเรื่องมาด่าตนอยู่ตลอดเวลา"นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลควรแสดงความชัดเจนในเรื่องของการทำ เอ็มโอยู เกี่ยวกับกรอบข้อตกลงพื้นที่ผลประโยชน์ทางทะเล ไทย - กัมพูชา ว่า ตกลงจะเดินไปตามกรอบ MOU เดิมหรือไม่ หากรัฐบาลที่แล้วเห็นว่ามันเสียเปรียบ หรือจะมาตั้งต้นหา MOU หรือกรอบใหม่ แล้วก็จะต้องดำเนินการตามมาตรา 190 ก็สามารถทำได้ ส่วนตนคิดว่าเรื่องจังหวะเวลานั้นรัฐบาลต้องไปพิจารณาเอาเอง เพราะว่าการหยิบประเด็นเรื่องนี้มันก็จะไปสัมพันธ์กับอำนาจการต่อรองที่รัฐบาลไทยจะมีกับกัมพูชาในเรื่องอื่นๆ

"สรุปง่ายๆ ถ้าจะมีการเจรจาต้องพิจารณาว่า ทรัพยากรใต้ทะเล ค่อนมาอยู่ทางฝั่งเรา แต่ว่าทางกัมพูชาเขาก็พยายามจะบอกว่า ถ้าแบ่งก็แบ่ง 50 : 50 เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็จะเป็นจุดหนึ่ง ซึ่งมันจะมีการต้องมาเจรจาในรายละเอียดว่า ตกลงจะ 70 : 30 ในส่วนที่ใกล้เรา 70 : 30 ส่วนใกล้เขา 50 : 50 ตรงไหนอะไร มันก็เป็นเรื่องที่จะต้องมีการมาตกลงกันอีกทีหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดนี้เราก็ต้องการให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ ซึ่งผมก็ถึงอยากจะย้อนกลับไปถามนายกฯ ฮุนเซน ว่า นายกฯ ฮุนเซน ที่ว่าผมนั้น มีผลประโยชน์อะไรเกี่ยวข้องกับบริษัทางพลังงานบ้าง แล้วพ.ต.ท.ทักษิณมีหรือไม่ แล้วความจริงนายกฯ ฮุนเซน ตอบคนกัมพูชาด้วยตัวนายกฯ ฮุนเซน มีหรือไม่"นายอภิสิทธิ์ กล่าว