ฐานทุน-ประวัติ ‘แบงค์ บุญฤทธิ์’ อดีตผู้สมัคร สส.ส้ม พันคดีฟอกเงิน

นายบุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ หรือ แบงค์ อดีตผู้สมัคร สส. พรรคประชาชน ถูกจับกุมในคดีพัวพันเครือข่ายยาเสพติดและฟอกเงิน
KEY
POINTS
- นายบุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ หรือ แบงค์ อดีตผู้สมัคร สส. พรรคประชาชน ถูกจับกุมในคดีพัวพันเครือข่ายยาเสพติดและฟอกเงิน
- มีประวัติการศึกษาดีและเคยทำงานการเมืองกับพรรคส้มมาตั้งแต่สมัยพรรคก้าวไกลในหลายตำแหน่ง เช่น ผู้เชี่ยวชาญประจำตัว สส. และเลขานุการคณะกรรมาธิการ
- เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ใน 2 บริษัท คือ บริษัท เอ็มคอน อินเตอร์เทรด จำกัด และ บริษัท เอ็มทีซี ปิโตร แอนด์ ทรานส์ จำกัด โดยมีหุ้นส่วนเป็นชาวลาว
กลายเป็นเรื่อง “โอละพ่อ” ขึ้นมาทันที พลันที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้ปล่อยแถวกำลังพลเปิดปฏิบัติการ Black Mirror TKP ตรวจค้นและทลายเครือข่ายค้ายาเสพติด 22 เป้าหมาย 7 หมายจับ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี จ.ลพบุรี และ จ.ตรัง โดยพบว่า 1 ในเป้าหมายที่ถูกจับคือ “แบงค์ บุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์” 1 ในผู้สมัคร สส.กทม.เขต 33 บางพลัด-บางกอกน้อย (ยกเว้นแขวงศิริราช) สังกัดพรรคประชาชน (ปชน.)
ทำเอาม็อตโต้หลักของพรรคอย่าง “กาส้ม ล้มเทา” ถูกตั้งคำถามอย่างหนักว่า ในเมื่อมีเป้าหมายต้องการกวาดล้าง “ทุนเทา” แต่ไฉนปล่อยให้ผู้สมัคร สส.ของพรรค ซึ่งดำเนินการส่งลงสมัครกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไปแล้วด้วยเมื่อ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา พัวพันกับ “ธุรกิจสีเทา” ได้
เบื้องต้น “พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์” รองหัวหน้าพรรค ปชน.และหนึ่งในผู้คัดคนลงสมัคร สส.ของพรรค ได้แถลงข่าวด่วนเพื่อชี้แจงเรื่องนี้ทันที โดยยืนยันว่าพรรคได้ตรวจประวัติผู้สมัครทุกคนเสร็จสิ้นไปแล้ว พรรคจึงไม่ทราบเรื่อง พร้อมกราบขอโทษประชาชนอย่างสูง ยืนยันว่าพรรคได้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้สมัครทุกคนอย่างละเอียด แต่ในกรณีของบุญฤทธิ์ ไม่มีการออกหมายเรียก ออกมาเป็นหมายจับเลย
“พรรคประชาชนยืนยันเรื่อง “มีส้มไม่มีเทา” ไม่มีการปกป้องใครแม้เป็นผู้สมัครของตัวเอง โดยพิจารณ์ยืนยันว่าการที่ตำรวจออกหมายจับ ก็แสดงว่ามีพยานหลักฐานหนักแน่นพอสมควร ก็ต้องให้กระบวนการยุติธรรมทำงานไปตามปกติกรณีของบุญฤทธิ์ ไม่มีการออกหมายเรียก ออกมาเป็นหมายจับเลย” พิจารณ์ ยืนยัน
“ประวัติส่วนตัว แบงค์ บุญฤทธิ์” จบชั้นมัธยมศึกษาจาก ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา ปริญญาตรีรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง ประกาศนียบัตรบัณฑิต ประเมินราคาทรัพย์สิน ม.ธรรมศาสตร์ ปริญญาโท พาณิชยศาสตร์และการบัญชี (อสังหาริมทรัพย์) ม.ธรรมศาสตร์
ประวัติการทำงาน เคยเป็น Project Coordinator N.CC.C. Image Co.,Ltd เคยเป็น Sales Executive Bangkok Gems&Jewelry Fair เคยเป็นผู้จัดการฝ่าย Renovate บริษัท บางกอกแอสเซส จำกัด และเคยเป็นผู้ช่วย ผอ.ฝ่าย REIT Innotech Asset Management Co.,Ltd
ประเด็นที่น่าสนใจ “แบงค์ บุญฤทธิ์” มิใช่ “ผู้สมัครหน้าใหม่” แต่คลุกคลีตีโมงอยู่ภายในพรรคส้มมาตั้งแต่ยุค “ก้าวไกล” ก่อนหน้านี้เคยเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัว สส. เคยเป็นเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา เคยเป็นที่ปรึกษา อนุ กมธ.พิจารณาศึกษาการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นและส่งเสริมประกอบธุรกิจสีเขียว และเคยเป็นที่ปรึกษา กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า
นั่นยิ่งทำให้หลายคน "กังขา" ว่าพรรคปล่อยให้คนที่ถูกกล่าวหาว่าพัวพัน "ทุนเทา" มาอยู่ในพรรคที่มีนโยบาย "กวาดล้างทุนเทา" ได้อย่างไร?
ในมุมธุรกิจ พบว่าเขาเป็นผู้ถือหุ้นใน 3 บริษัท ได้แก่
บริษัท เซซูแป เอเจนซี จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 16 ก.พ. 2550 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 63 ซอยอุดมเกียรติ ถนนสุทธิสาร แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ รับจัดงานแสดงสินค้า, ประสานงานในกิจกรรมต่างๆ ปรากฏชื่อ อรรถพล อัครพุทธิพร เป็นกรรมการรายเดียว โดยบริษัทแห่งนี้มี “แบงค์ บุญฤทธิ์” ร่วมถือหุ้น 3.04% นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2567 สินทรัพย์รวม 57,870,516 บาท รายได้รวม 128,459,622 บาท กำไรสุทธิ 6,341,049 บาท
บริษัท เอ็มคอน อินเตอร์เทรด จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 20 ก.ค. 2553 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 41 ซอยเจริญนคร 33 ถนนเจริญนคร บางลำภูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ การขายส่งอุปกรณ์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ปรากฏชื่อ บุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ (ถือหุ้น 51%) และสุภาภรณ์ ลีเพ็ง สัญชาติลาว (ถือหุ้น 49%) เป็นกรรมการ นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2567 สินทรัพย์รวม 3,103,902 บาท รายได้รวม 3,187,970 บาท ขาดทุนสุทธิ 37,877 บาท
บริษัท เอ็มทีซี ปิโตร แอนด์ ทรานส์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 15 พ.ย. 2566 ทุนปัจจุบัน 2 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 106/1 ซอยสตรีวิทยา 2 ซอย 29 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ปรากฏชื่อ บุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ (ถือหุ้น 51%) สุภาภรณ์ ลีเพ็ง สัญชาติลาว (ถือหุ้น 49%) เป็นกรรมการ นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2567 สินทรัพย์รวม 1,760,526 บาท รายได้รวม 54,552,519 บาท ขาดทุนสุทธิ 1,838,209 บาท







