'สุรเดช' ทิ้ง พปชร. หลัง 'บิ๊กป้อม' วางมือ ชี้ หากไร้พรรคอุดมการณ์ตรงกัน ขอเว้นวรรค

“สุรเดช” ทิ้ง พปชร. หลัง “บิ๊กป้อม” วางมือ บอก ไม่ขอเป็นรองหัวหน้าพรรคให้คนอื่น ระบุ อนาคตยังไม่แน่นอน หากไม่มีพรรคอุดมการณ์ตรงกัน ขอเว้นวรรคไปก่อน
เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ตนได้ยื่นลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค พปชร. เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคได้วางมือแล้ว ซึ่งตนก็ไม่รู้จะช่วยใคร ตอนที่เข้ามาต้องการที่จะเข้ามาช่วย พล.อ.ประวิตร เห็นว่าเป็นผู้ใหญ่ที่มีอุดมการณ์เหมือนกับตน นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตรมีความสัมพันธ์ที่ดีกับบิดาตน เคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของบิดาตน และเป็นผู้ใหญ่ที่ตนเคารพนับถือ ตอนที่มาอยู่ก็มีความสบายใจที่มาอยู่กับท่าน แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอาจจะเนื่องด้วยปัญหาสุขภาพและอายุของท่านที่ 81 ปีแล้ว ท่านเลยขอถอนตัว เมื่อ พล.อ.ประวิตรถอนตัว ตนก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องอยู่แล้ว ถือโอกาสถอนตัวตามท่าน
“เมื่อรับปากกับ พล.อ.ประวิตรไว้ต้องรักษาคำพูด ซึ่งเคยพูดไว้ว่า ถ้า พล.อ.ประวิตรถอนตัวผมจะถอนด้วย เพราะผมคงไม่ไปเป็นรองหัวหน้าพรรคที่หัวหน้าพรรคไม่ใช่ พล.อ.ประวิตร ถ้าเปลี่ยนหัวหน้าพรรคใหม่ผมก็อยู่ไม่ได้ จะอยู่ได้ต่อเมื่อมี พล.อ.ประวิตรเป็นหัวหน้าพรรคเท่านั้น ตอนนี้ยังไม่ได้คิดอะไร และยืนยันที่ออกมาไม่ได้มีปัญหาอะไร แยกกันด้วยดี”นายสุรเดช กล่าว
นายสุรเดช กล่าวอีกว่า ตั้งแต่เข้ามาช่วย พล.อ.ประวิตรจนถึงวันนี้ใช้เงินส่วนตัวมาตลอด ไม่เคยเบิกเงินสักบาท ใช้กำลังทรัพย์ตัวเองมาตลอดไม่เคยขอกำลังทรัพย์จาก พล.อ.ประวิตร หรือ พรรคเลย เป็นการทำด้วยความเต็มใจ โดยใช้ทั้งคอนเนกชั่น สรรพกำลัง ความตั้งใจ และเวลา
นายสุรเดช กล่าวว่า ส่วนอนาคตทางการเมืองต่อจากนี้ส่วนตัวยังไม่แน่ใจ ยอมรับว่าที่ผ่านมามีหลายพรรคมาติดต่อ เนื่องจากรู้จักเกือบทุกพรรค ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจจะไปพรรคไหน อนาคตทางการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน ถ้ามีพรรคที่น่าสนใจและมีอุดมการณ์ที่ตนจะทำงานร่วมด้วยได้ ก็ไม่แน่อาจจะตัดสินใจไป แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนเวลาด้วย ถ้าในครั้งนี้เวลาไม่ทันก็ไม่เป็นไร ขอพักไปก่อน เว้นวรรคไปก่อน ไม่มีปัญหา เพราะการเมืองจะเล่นอายุเท่าไหร่ก็ได้ เอาเป็นว่าไปอยู่พรรคไหนต้องมีความสบายใจ







