'กัณวีร์' ซัดการทูตแบบ 'สีหศักดิ์' ทำ ไทยตกเป็นลูกไล่ต่างชาติ

'กัณวีร์' ซัดการทูตแบบ 'สีหศักดิ์'  ทำ ไทยตกเป็นลูกไล่ต่างชาติ

"กันวีร" โพสต์ชี้การทูตแบบ "สีหศักดิ์" อ่านโจทย์ไม่แตก ห่วงไทยตกเป็นลูกไล่ต่างชาติ พร้อมไหว้ "อนุทิน" ขออย่ากลับมาเป็นนายกฯ อีก

นายกัณวีร์ สืบแสง หัวหน้าพรรคพลวัต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คแฟนเพจ ต่อกรณีที่นายสีหศักดิ์  พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ  ฐานะแคนดิเดตนายกฯพรรคภูมิใจไทย ระบุแนวทางทางการทูตหากกลับมาเป็นรมว. ว่า ประเทศไทยต้องเป็นไทในเวทีระหว่างประเทศ โดยยกระดับการต่างประเทศของไทยให้เป็นอิสระ มีบทบาทเชิงรุก ว่า ความเป็นจริงเป็นภาพสะท้อนของจุดยืนทางการทูตแบบเงียบๆ  ไม่เข้าข้างใคร คอยดูสถานการณ์ก่อนค่อยว่ากัน ขณะเดียวกันความสนใจของคนไทยเป็นสิ่งมาที่หลังจากการคิดและตกผลึกของรัฐบาลเพียงอย่างเดียว  ซึ่งตนไม่เคยเห็นรัฐบาลชุดรักษาการ รับฟังเสียงประชาชนว่าต้องการอะไร ส่วนใหญ่พูดก่อนแล้วจึงบอกว่าเป็นความต้องการของประชาชน เช่น  ผู้อพยพใน 20 อำเภอ ของ 7 จังหวัด จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

"ปัจจุบัน ไทยต้องเผชิญกับสถานการณ์โลกที่ผันผวน และยากที่ไทยจะสามารถควบคุมปัจจัยต่างๆ ได้อย่างเด็ดขาด และหากไทยไม่กล้าบอกแนวทางอย่างชัดเจนว่าต้องการสิ่งนี้ ไม่เอาสิ่งนั้น สรุปสุดท้ายไทยก็ต้องกลับไปยืนจุดยืนเดิม คือวิ่งตามสถานการณ์ และไม่กล้าตัดสินใจเหมือนเดิม หรือ เอ็มโอยูกับสหรัฐอเมริกา กรณีศึกษาแร่แรเอิร์ธในไทย ทำให้เกิดข้อกังขาจากสังคมว่า ทำไมถึงต้องรีบลงนาม โดยที่ไม่ได้ศึกษาและฟังความจากภาคประชาสังคมและผู้คนที่ได้รับผลกระทบต่อการทำเหมืองแร่แรเอิร์ธ ซึ่งในเมียนมาได้รับผลกระทบจากการปล่อยมลพิษลงแม่น้ำ และอาจกลายมลพิษข้ามพรมแดน" นายกัณวีร์ กล่าว

นายกัณวีร์ กล่าวต่อว่า ตนฟังนายสีหศักดิ์แล้วตกใจมากขึ้นเรื่อยๆ ที่บอกว่าผู้นำที่เข้มแข็งสามารถนำประเทศฝ่าวิกฤตได้ ตนมองว่านายสีหศักดิ์เป็นนักการทูตน่าจะรู้ว่าแท้จริงผู้นำที่จะพาประเทศผ่านวิกฤตที่โลกมาล้อมไทย คือ ผู้นำที่ชาญฉลาดต่างหาก จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีผู้นำที่เข้มแข็ง บอกว่าให้กัมพูชามีความจริงใจและความพร้อมถึงจะแก้ไขปัญหาไทย-กัมพูชาได้ ซึ่งตนมองว่ากัมพูชาไม่พร้อม แต่สิ่งที่จะแก้ปัญหาได้คือผู้นำที่ฉลาดและสามารถหาศิลปะการสร้างสันติภาพให้ได้

นายกัณวีร์ กล่าวต่อว่ากรณีที่นายสีหศักดิ์ พูดถึงการทูตเศรษฐกิจ ที่ต้องตอบโจทย์สถานการณ์ภายในประเทศ อาทิ เศรษฐกิจ เศรษฐกิจต้องมีเป้าหมาย ต้องเข้าหา เข้าถึง ภาคเอกชน การทูตเศรษฐกิจจะเป็นของภูมิใจไทย  สุดท้ายท่านสะดุดขาตัวเอง เพราะกลับมาหมกมุ่นอยู่กับตัวเองจนมากเกินไป การทูตศตวรรษที่ 21 คือ double-edged diplomacy ดูภายในอย่างที่ท่านว่า และที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ดูว่าภายนอกเค้ามีความคาดหวังอะไรจากไทยด้วย อันนี้ยากที่สุดถ้าตีโจทย์ไม่แตก

"การเปลี่ยนกรอบกระบวนทัศน์ทางความคิดของงานการต่างประเทศ ที่ไทยเราอยู่มานานเกินร้อยปี ให้คนที่อยู่ภายในมาทำงานที่ต้องนอกกรอบคงยาก หากทำต่อไปไทยจะอยู่กับที่ และเป็นเป้าให้ต่างชาติมาหลอกให้เป็นลูกไล่ ดังนั้นไหว้ละ อย่ากลับมาเป็นนายกฯ อีกเลย ไม่งั้นท่านพา รมว.การต่างประเทศคนนี้กลับมาอีก ประเทศบรรลัยตาย" นายกัณวีร์ กล่าว