'สาทิตย์' เย้ย ธรรมนัส ไม่กล้าเคลียร์ข้อครหา ยันปชป.พูดเรื่องดี

"สาทิตย์" ปัดสร้างขัดแย้ง หลังประกาศไม่ร่วมงาน "พรรคกล้าธรรม" เย้ย "ธรรมนัส" ไม่กล้าเคลียร์ปมเทาของตัวเอง เมินถูกฟ้องหมิ่นประมาทกลับ
ที่ พรรคประชาธิปัตย์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ตอบกลับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศไม่จับมือกับพรรคกล้าธรรมว่าดีแต่พูดทั้งที่ตอนเป็นรัฐบาลก็ไม่ได้ทำอะไรให้กับประเทศ ว่า การเสนอจุดยืนทางการเมืองเป็นเรื่องที่ทุกพรรคการเมืองจะต้องมี และในสถานการณ์การเมืองที่ความเชื่อมั่นต่อการเมืองของประชาชนตกต่ำลง เพราะกังวลเรื่องการเมืองสีเทา ทุกพรรคการเมืองจำเป็นต้องมีจุดยืน ซึ่งนายอภิสิทธิ์ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จึงเป็นพรรคแรกที่ประกาศจุดยืนทางการเมืองว่าไม่สามารถทำงานกับพรรคกล้าธรรมได้ ไม่ได้มีประสงค์จะสร้างความขัดแย้งหรือแตกแยก และไม่ใช่เรื่องที่จะไปเปิดวิวาทะกันพรรคกล้าธรรม
“การประกาศจุดยืนทางการเมืองเป็นเรื่องธรรมดา และไม่ใช่เป็นเรื่องที่ต้องโกรธกัน ดังนั้นที่คุณธรรมนัสตั้งโต๊ะแถลงยืดยาว จริงๆแล้วสิ่งที่ผมอยากฟังที่สุดคือจะเคลียร์ตัวเอง เรื่องที่หลายฝ่ายเกิดความสงสัยในความคลุมเครือไม่โปร่งใส ในเรื่องการมีสีเทาๆ เข้ามาเกี่ยวข้องได้อย่างไรบ้าง ในประเด็นใดบ้าง แต่ยังได้ยินไม่ชัด มีแต่คำวิพากษ์วิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์ เช่นเรื่องดีแต่พูด ซึ่งเราพูดแต่เรื่องดี ไม่ใช่ดีแต่พูด”นายสาทิตย์ กล่าว
นายสาทิตย์ กล่าวย้ำว่าตนยังยืนยันว่าจุดยืนของการไม่ร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมของนายอภิสิทธิ์เป็นมติพรรคประชาธิปัตย์แล้ว และจะเป็นจุดยืนที่ท้าทายเกมอำนาจทางการเมืองในการเลือกตั้งว่าไม่ใช่คลุมเครือ อ้ำอึ้งหรือกั๊ก เพื่อจะรอร่วมรัฐบาล แต่จุดยืนของพรรคการเมืองที่จะยืนหยัดอยู่ในการเมืองที่สุจริตจำเป็นต้องประกาศว่เป็นอย่างไร
“ก็ดีที่พรรคประชาชน ที่อ้ำอึ้งในตอนแรก ก็ออกมาพูดชัดเจนขึ้นว่าจะไม่ร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมเช่นเดียวกัน และเห็นคุณธรรมนัสอ้างถึงคุณอนุทินว่า สมมุติว่าไม่มีใครเอาก็ไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย อันนี้ก็อยากฟังเหมือนกันว่าภูมิใจไทยจะตอบอย่างไร”นายสาทิตย์ กล่าว
เมื่อถามว่า ร.อ.ธรรมนัส ออกมาระบุว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาพูดว่าจะไม่จับมือกับพรรคกล้าธรรมเป็นการเสียมารยาททางการเมือง นายสาทิตย์กล่าวว่า ต้องแยกระหว่างจุดยืนทางการเมืองกับมารยาททางการเมืองออกจากกัน การไปบลูลี่คนอื่นว่าฟันน้ำนมยังไม่หัก นี่คือมารยาททางการเมือง
ต่อข้อถามว่าร.อ.ธรรมนัสระบุว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์ประกาศอย่างนี้เพราะไม่พอใจที่สส.ของพรรคประชาธิปัตย์ย้ายไปอยู่พรรคกล้าธรรมจำนวนมาก รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เป็นประเด็นเลย เพราะสส.เก่าของพรรคประชาธิปัตย์ย้ายไปหลายพรรค และเราไม่ได้พูดถึงพรรคอื่นเลย ดังนั้นในความคิดของนายอภิสิทธิ์กับพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจจุดยืนเรื่องนี้โดยไม่มีเรื่องการเมืองใดๆ และความแค้น เข้ามาเกี่ยวข้อง
“จากวันนี้ไปผมขอเรียกร้องประชาชนว่าขอให้ติดตามถ้อยแถลงทางการเมืองกับจุดยืนของแต่ละพรรคผ่านช่องทางต่างๆ เพราะการเมืองเราจะสร้างภาพหรือนโยบายอย่างใดก็ได้ แต่จุดยืนทางการเมืองและอุดรการณ์ต่างหากที่จะชี้ว่าพรรคการเมืองนั้น ฟังเสียง และเคารพความคิดเห็นประชาชนแค่ไหน“นายสาทิตย์ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส เตรียมจะฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทนั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า การฟ้องกันทางการเมืองเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่เรามั่นใจในจุดยืนที่ประกาศ ว่าไม่ใช่เรื่องที่จะหมิ่นประมาทหรือใส่ร้ายใคร เพราะไม่ได้บอกว่าผิดในเรื่องใด แต่เป็นเพราะความไม่โปร่งใส ความคลุมเครือ เทาๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในเจตนารมณ์ของจริยธรรมทางการเมืองในรัฐธรรมนูญ







