'วันนอร์' ปลุกเลือกตั้ง คนแดนใต้ อย่าขายตัว แลกเงินเทา-เงินกัญชา

'วันนอร์' ปลุกเลือกตั้ง คนแดนใต้ อย่าขายตัว แลกเงินเทา-เงินกัญชา

“ปธ.พรรคประชาชาติ” ปลุกใจ คนชายแดนใต้ รักษาศรัทธา สู้เงินสีเทา เชื่อเงินเทาจากสแกมเมอร์-กัญชา รุกหนักในพื้นที่ พร้อมเปิดตัว 15 ว่าที่ผู้สมัคร สส.ชายแดนใต้-สงขลา

ที่หอประชุมมะทา จ.ยะลา  ในการประชุมใหญ่วิสามัญ ของพรรคประชาชาติ  เพื่อประกาศว่าที่ผู้สมัคร สส.ของพรรคและเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่หลังจากที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค

โดย 'วันนอร์'นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานพรรคประชาชาติ กล่าวตอนหนึ่ง ว่า อย่าวิตกว่าพรรคประชาชาติเป็นพรรคการเมืองขนาดเล็ก หรือใหญ่ เพราะความยิ่งใหญ่ของพรรคการเมืองไม่อยู่ที่จำนวนสมาชิกที่มากเสมอไป ที่เห็นคือ พรรคการเมืองบางพรรคมี สส.มาก แต่ไม่สามารถทำประโยชน์และผลงานให้ประชาชนได้ประโยชน์เต็มที่เพราะมีปัญหา

"รัฐบาลอยู่สั้นๆ และเปลี่ยนนายกฯ ถึง 4 คนจะมีผลงานได้อย่างไร ดังนั้นความใหญ่ที่ไม่มีคุณภาพไม่มีประโยชน์กับประชาชน และท้ายสุดเปลี่ยนรัฐบาลที่พรรคไม่ใหญ่ เป็นพรรคกลางๆ ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย บริหารประเทศไม่ถึง 2 เดือน ยุบสภา ถือว่าเป็นปัญหาพรรคขนาดกลางและขนาดใหญ่ ทั้งนี้พรรคที่ทำประโยชน์ให้ประชาชนจริงไม่ใช่พรรคเล็ก  พรรคกลาง หรือ พรรคใหญ่ แต่ขึ้นว่าพรรคนั้นมีคนดี คนเก่ง มีจริยธรรม มีความซื่อสัตย์กับประชาชน พรรคประชาชาติไม่ต้องการปริมาณ แต่ต้องการคุณภาพของสส. เพื่อสร้างระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้อง" นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวต่อว่า พรรคประชาชาติไม่ใช่พรรคของคนสีใด หรือกลุ่มใด แต่ให้เกียรติและเคารพกับทุกสีทุกกลุ่ม แต่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่สีใด หรือ กลุ่มใดทำขัดกับหลักศาสนา หลักคุณธรรมและหลักศีลธรรม กับปัญหาสแกมเมอร์ ตนมองว่าประเทศไทยกำลังจะเสียเอกราชให้กับสแกมเมอร์ มีคนถูกหลอกลวงทั่วโลกมาอยู่ในประเทศไทย ถูกใช้เพื่อประโยชน์ให้กับคนทำไม่ดี

“สิ่งนี้น่าเป็นห่วง เพราะความไม่ดี เช่น ยาเสพติด แต่เอาเงินยาเสพติด สแกมเมอร์ กัญชา หลายอยางที่ไม่ถูกต้องมาใช้ในการเลือกตั้งคราวนี้ ปี2569 เราเคยชนะทหาร แต่บทพิสูจน์รอบนี้ จะชนะเงินจากสแกมเมอร์ เงินจากยาเสพติด เงินจากกัญชาได้หรือไม่ คือการพิสูจน์ความศรัทธา โดยพรรคประชาชาติต้องสู้เรื่องนี้ หากไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนความชั่วร้ายจะเอาชนะความศรัทธาได้” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว

ประธานพรรคประชาชาติ กล่าวโดยเชื่อว่า ในสังคมทุกหมู่ ทุกเหล่า ทุกชาติต้องมีคนที่ดีมากกว่าคนไม่ดี และเป็นธรรมดาที่จะมีคนไม่ดีในสังคม มาหลอกให้เอาเงิน แต่ตนเชื่อว่าคนดีจะเอาเงินก็ไม่เลือก เงินสีเทา เงินสีกัญชา ที่คาดว่าจะมาเยอะมากในพื้นที่นี้ เพราะเขาคิดว่าคนมาลายูซื้อได้ คนมุสลิมซื้อได้

“เราจะขายความเป็นมาลายู ขายความเป็นุมสลิมให้คนที่หลั่งไหลมาหรือไม่ เราจะขายตัวเราได้ แต่ขายบรรพบุรุษมาลายูได้ไหม เราอาจขายตัวเราได้ชั่วคราวว อาจมีความสุขกับเงินนั้น แต่อย่าขายความเป็นมาลายู และมุสลิมให้ใครก็แล้วแต่ในการเลือกตั้ง ไม่จำเป็นต้องเลือกประชาชาติ แต่อย่าเลือกคนมาซื้อด้วยเงินสีเทา สีกัญชา สแกมเมอร์ ประเทศจีนเคยเสียเอกราชให้ยุโรปครึ่งประเทศ แต่สู้กลับคืนมาได้ ผมหวั่นๆ ว่าเราจะเสียอะไร บังเอิญว่าวันที่ 8 ก.พ.69 จะพิสูจน์ว่าใครซื้อใครได้ ใครขายใครได้”ประธานพรรคประชาชาติ กล่าว

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวต่อว่า อดีตสส. ที่ไปอยู่พรรคสีอื่น จะเอากี่สิบล้านเขาก็ให้แต่พวกเราไม่ไป เพราะคิดว่าประชาชาติให้อะไรกับประชาชนมากกว่า พรรคประชาชาติคือพื้นฐานคววามคิดประชาธิปไตยที่ถูกต้อง สำหรับผู้สมัครสส.ของพรรคประชาชาติ ที่กรรมการบริหารพรรคเลือกนั้นได้ผสมผสานคนรุ่นใหม่ที่ลงตัว  ส่วนการเลือกหัวหน้าพรรคคนต่อไป ตนสนับสนุนให้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หากถามว่าทำไมตนไม่รับตำแหน่งเพราะไม่เป็นประธานสภาฯ แล้ว เพราะพรรคประชาชาติไม่ได้ผูกขาดว่าเป็นคนของบ้านไหน หรือศาสนาไหน ขอให้รักและทำประโยชน์ให้ประชาชน เปลี่ยนแปลงจากรุ่นสู่รุ่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร สส. เขต จำนวน 15  คน ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จ.นราธิวาส จ.ปัตตานี และ  จ.ยะลา รวมถึง จ.สงขลา  ได้แก่

ผู้สมัคร สส. นราธิวาส เขต1 คือ อับดุลการีม อัสมะแอ เขต2 นายมูฮัมหมัดรุสดี เชคฮารูณ เขต3 สูเด็ง ตอเฮ  เขต4 นายกูเฮง ยาวอหะซัน เขต5 นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ

จ.ปัตตานี เขต1 นายวรวิทย์ บารู เขต2 นายอรุณ เบ็ญจลักษณ์ เขต 3 นายสมมุติ เบญจลักษณ์ เขต4 นายอับดุลกอฮาร์ อาแวปูเตะ และ เขต5 นายบัณฑิต อับดุลบุตร

จ.ยะลา เขต1 นายสุไลมาน บือแนปีแน เขต 2 นายซูการ์โน มะทา เขต3 นายอับดุลอายี สาแม็ง

จ.สงขลา  เขต7 นายดุลยรัตน์ บุญยูโส๊ะ เขต8 นายปรีชา แดงหลี

ทั้งนี้ ในวันที่ 29 ธ.ค. นี้ พรรคประชาชาติมีกำหนดเปิดตัว ว่าที่ ผู้สมัคร สส.แบบแบ่งเขต ทั้ง 15 คน และ สส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่คาดว่าจะส่ง 50 คนพร้อมกับเปิดตัวนโยบายอย่างเป็นทางการ