'ภูมิธรรม' โล่งใจ ให้ถ้อยคำศาล รธน.คดีฮั้ว สว. ยันทำตามหน้าที่

'ภูมิธรรม' ยอมรับโล่งใจ หลังให้ถ้อยคำศาล รธน.ไต่สวนพยาน ย้ำทำทุกอย่างในคดีฮั้ว สว.ตามหน้าที่ เป็นดุลพินิจศาลวินิจฉัย ด้าน 'ฉัตรวรรษ' ลั่นคนดีต้องอยู่ในสังคม
KEY
POINTS
- นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เข้าให้ถ้อยคำต่อศาลรัฐธรรมนูญในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าแทรกแซงการสอบสวนเรื่องการฮั้วเลือกตั้ง สว.
- นายภูมิธรรมยืนยันว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบาทของตนเอง และได้ชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดต่อศาลแล้ว
- เจ้าตัวกล่าวว่ารู้สึกโล่งใจหลังให้การ เพราะได้ทำตามหน้าที่ และจากนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล
- ศาลรัฐธรรมนูญได้ไต่สวนพยานในคดีนี้เสร็จสิ้นแล้ว และนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 21 มกราคม 2569
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ ไต่สวนพยาน 6 ปากเสร็จสิ้น คดีกล่าวหานายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีต รมว.ยุติธรรม ใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซงการสอบสวน คดีฮั้ว สว. โดยศาลนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 21 ม.ค. 2569 นั้น
นายภูมิธรรม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวีสอดส่อง ได้ลงมาจากห้องพิจารณาพร้อมกัน จากนั้นทั้งคู่เดินมาให้สัมภาษณ์สื่อ โดยนายภูมิธรรม กล่าวว่า ในการชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่มีอะไร เพราะเราได้บันทึกเอกสารส่งครบถ้วน เรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้เป็นการสอบถามเพิ่มเติม ตนได้ชี้แจงว่าบทบาทหน้าที่ของเราอยู่ตรงไหน และพูดถึงข้อเท็จจริงในการปฏิบัติ
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการเปลี่ยนแปลงวาระการประชุมครั้งที่สอง และมีการพิจารณามาตรา 21 (1) และ (2) นั้น ได้ชี้แจงว่าในการประชุมครั้งที่สอง มีการพูดคุยและเห็นว่าเพื่อให้มีความรอบคอบมากขึ้น จึงให้ส่งไปที่อนุกรรมการฯ พิจารณา ทั้งนี้ตนไม่ได้เห็นรายละเอียดแต่อยู่ในเอกสารที่รายงานไปแล้ว
“ผมสบายใจตั้งแต่ก่อนที่จะมาให้ถ้อยคำแล้ว เพราะมันไม่มีอะไร เราก็ทำหน้าที่ของเรา จากนี้ก็อยู่ที่ศาลท่านจะวินิจฉัย” นายภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า คดีเลือก สว. ยังเป็นอำนาจที่ดีเอสไอจะดำเนินการได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นอำนาจหน้าที่ของแต่ละฝ่ายโดยที่ไม่ไปก้าวก่ายอำนาจของกันและกัน
ภายหลังการให้สัมภาษณ์นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ "ทนายอั๋นบุรีรัมย์" และประชาชน 2-3 คนได้นำดอกไม้มามอบ เพื่อให้กำลังใจกับ นายภูมิธรรม และพ.ต.อ.ทวี ด้วย
ด้าน พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. ให้สัมภาษณ์สั้น ๆ ภายหลังการไต่สวนพยาน ในประเด็นสบายใจขึ้นหรือไม่ ว่า คนดีต้องอยู่ในสังคม ส่วนหลักฐานที่ ดีเอสไอ กล่าวอ้างนั้น เป็นเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณา ใครมีอำนาจอะไรก็ทำไป เนื่องจากคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ชุดที่ 26 กกต. เคยแจ้งข้อกล่าวหาตนมาแล้ว เคยได้ชี้แจงไปหลายครั้งแล้ว ดังนั้นความคืบหน้าคดีนั้นต้องไปถาม กกต.







