ทภ.2 ยังปะทะหนักหลายจุด ศรีสะเกษ–สุรินทร์ ตึงเครียดBM-21 ยิงเป้าหมายพลเรือน

ทภ.2 ยังปะทะหนักหลายจุด ศรีสะเกษ–สุรินทร์ ตึงเครียด ฝ่ายไทยคุมสถานการณ์ได้ ชี้ กัมพูชายังคง ใช้จรวดไร้ทิศทาง หลายลำกล้อง BM-21 ยิงเป้าหมายพลเรือนไทยต่อเนื่อง
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 23 ธ.ค. 2568 กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2 ) สรุปสถานการณ์แนวชายแดนไทย–กัมพูชา ในหลายพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 2 โดยภาพรวม ยังคงมีการประทะ กันในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และสุรินทร์ ขณะที่ฝ่ายไทยยังสามารถควบคุมสถานการณ์ในสนามรบไว้ได้
โดยทางฝ่ายกัมพูชายังคงใช้ จรวดหลายลำกล้อง BM-21 ยิงเป็นชุดเข้ามาฝั่งไทย เพื่อหวังกดดันและสร้างผลกระทบทางจิตวิทยา
ขณะที่ฝ่ายไทยตอบโต้ด้วยการรวมอำนาจการยิงอย่างเป็นระบบ และใช้โดรนโจมตีเป้าหมายสำคัญ รวมถึงระบบการสื่อสารของฝ่ายตรงข้าม ทำให้ยังสามารถรักษาฐานที่มั่นไว้ได้ ทั้งนี่กำลังพลได้รับบาดเจ็บบางนาย
ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี จุดผ่านแดนช่องบกไม่มีการปะทะ แต่มีการเตรียมกำลังและเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนพื้นที่ช่องอานม้าไม่พบความเคลื่อนไหวฝ่ายกัมพูชาที่มีนัยสำคัญ
ชายแดนศรีสะเกษ เป็นพื้นที่ที่เกิดการปะทะอย่างต่อเนื่องหลายจุด โดยแนว พื้นที่ซำแต–โดนตรวล–ภูผี–สัตตะโสม–พนมประสิทธิโส–ช่องตาเฒ่า ฝ่ายไทยวางกำลังเตรียมพร้อมตลอดแนว และยิงตอบโต้การใช้อาวุธ จรวดหลายลำกล้อง BM-21 ของฝ่ายกัมพูชา เป็นระยะตลอดทั้งวัน โดยการตอบโต้เป็นไปอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว
ขณะที่บริเวณ ผามออีแดง–ห้วยตามาเรีย เกิดการปะทะอย่างหนาแน่นด้วยปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิด ฝ่ายกัมพูชายิง ตรวจหลายลำกล้อง BM-21 มาตกในพื้นที่ดังกล่าว ส่งผลให้กำลังพลฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ก่อนที่ฝ่ายไทยจะยิง ตอบโต้กลับแบบได้สัดส่วน ด้วยปืนใหญ่ ปืนครก และรถถัง ตอบโต้ไปมากกว่า 19 เป้าหมายทางทหารกัมพูชา
ส่วนพื้นที่ภูมะเขือ–ช่องโดนเอาว์–พลาญยาว–พลาญหินแปดก้อน ฝ่ายกัมพูชายิง จรวดหลายลำกล้อง BM-21 หลายชุดเข้าใส่ยอดภูมะเขือ และตรวจพบการใช้โดรนโจมตีแบบ FPV หลายลำ ฝ่ายไทยจึงใช้ปืนใหญ่เข้าควบคุมพื้นที่ ด้านทิศใต้ของภูมะเขือ และยิงกระสุนส่องสว่างในจุดที่ตรวจพบความเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชา
ชายแดนสุรินทร์ พื้นที่ช่องจอม–ช่องเปรอ–ช่องระยี ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธหนักยิงเข้ามา ฝ่ายไทยยิงตอบโต้โดยไม่มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ พื้นที่คนา มีการเสริมความมั่นคงและจัดระเบียบกำลังใหม่ พร้อมเพิ่มเติมอาวุธ กระสุน และระบบสื่อสาร
พื้นที่ตาควายและเนิน 350 ฝ่ายกัมพูชา ยังคงยิง จรวดหลายลำกล้อง BM-21 ปืนใหญ่ และใช้รถถังโจมตีจากระยะไกล กระสุนตกในพื้นที่และบนถนน แต่ยังไม่มีการรุกเข้าประชิด ไฟไทยจึงได้ตอบโต้ในหลักป้องกันตนเองอย่างมีสัดส่วน ขณะที่พื้นที่ช่องกร่างไม่พบความเคลื่อนไหวสำคัญ
ส่วนพื้นที่ตาเมือน เกิดการปะทะอย่างต่อเนื่องด้วยอาวุธปืนเล็กและอาวุธยิงสนับสนุน ฝ่ายกัมพูชาใช้รถถังและ จรวดหลายลำกล้อง BM-21 ยิงเข้ามาในพื้นที่ปราสาทหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม กำลังพลฝ่ายไทยปลอดภัย
ชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์ พื้นที่ช่องสายตะกู ตรวจพบกระสุน ของจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ตกในพื้นที่ และมีการยิงปืนใหญ่จากฝ่ายกัมพูชา โดยพบว่ารถถังของฝ่ายกัมพูชาในพื้นที่ชำรุด 1 คัน ยังไม่มีรายงานการสูญเสียเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ส่วนหลังของจังหวัดสุรินทร์ โดยเฉพาะหมู่บ้านหนองคันนา ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก มีกระสุน จรวดหลายลำกล้อง BM-21 ตกจำนวน 9 ลูก รวมถึงพื้นที่ซับหัวช้างและจุ๊บตาโมกที่ได้รับผลกระทบจากกระสุน แต่กำลังพลและประชาชนในบริเวณใกล้เคียงปลอดภัย







