สแกนพื้นที่ ‘ส.สมศักดิ์’ ภารกิจนำ 'ค่ายแดง' ยึดเหนือตอนล่าง

ทั้งหมด คือขุมกำลังของ “สมศักดิ์” ในการสู้ศึกเลือกตั้งปี 2569 ที่วางเป้า ยึด“ภาคเหนือตอนล่าง” พ่วงกับสนับสนุนเครือข่ายในพื้นที่ “ภาคกลางตอนบน” เติมตัวเลข สส.ค่ายแดง ให้ได้มากที่สุด
KEY
POINTS
- สมศักดิ์ เทพสุทิน ได้รับมอบหมายจากพรรคเพื่อไทยให้เป็นแกนนำวางยุทธศาสตร์สู้ศึกเลือกตั้งปี 2569 โดยมีเป้าหมายหลักในการยึดที่นั่ง สส. ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง
- พื้นที่รับผิดชอบหลักของนายสมศักดิ์คือ 4 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์ และตาก
- กลยุทธ์สำคัญคือการกวาดที่นั่งทั้งหมดในฐานที่มั่นอย่างสุโขทัย, รักษาและรุกเพิ่มในพิษณุโลก, และดึงเครือข่าย "บ้านใหญ่" มาสู้ศึกในจังหวัดตาก
- ภารกิจของนายสมศักดิ์ยังขยายไปถึงการวางตัวผู้สมัครในพื้นที่ภาคกลางตอนบน เช่น พิจิตรและนครสวรรค์ โดยได้รับการสนับสนุนจากอนุชา นาคาศัย
ในวันที่แบรนด์ของพรรคเพื่อไทย ถูกประเมินว่า“กระแสตก” ภายหลังพลิกขั้วจัดตั้งรัฐบาลกับ “ขั้วอนุรักษ์” ต่อเนื่องด้วยการบริหารงานของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน และรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ผลงานไม่เข้าเป้าตามที่วางเอาไว้ ทำให้การวางยุทธศาสตร์สู้ศึกเลือกตั้งปี 2569 จำเป็นต้องจัดวางคนให้รอบคอบ
บทบาทของ “2 ส.” สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ หนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และ สมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรค เริ่มเด่นชัด โดยเฉพาะการจัดทัพ วางคนลงชิงเก้าอี้ สส. ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ “ค่ายแดง”
“สุริยะ” ดูแลภาพรวม โฟกัสหลักในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน โดยมี “เดือน” มนพร เจริญศรี ช่วยเสริมแกร่งในหลายพื้นที่ หวังโกย สส. อีสานตอนบนเข้าสภาให้ได้มากที่สุด หวังชดเชยพื้นที่สส.อีสานตอนล่าง ที่มีโอกาสเสียเก้าอี้ เนื่องจากอยู่ในโซนปะทะไทย-กัมพูชา
“สมศักดิ์” ดูแล สส.ภาคเหนือตอนล่าง ประกอบด้วย สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก ส่วนอุตรดิตถ์ ถูกถ่ายโอนไปให้ “กฤษณา สีหลักษณ์” เจ้าของพื้นที่ดูแลเองทั้ง 3 เขต
จ.สุโขทัย ฐานกำลังหลักของ “สมศักดิ์” ส่งผู้สมัคร ประกอบด้วย ณัคนางค์ กุลนาถศิริ เขต 1 ชูศักดิ์ คีรีมาศทอง เขต 2 ประภาพร ทองปากน้ำ เขต 3 และ จักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล เขต 4 โจทย์เดียวของ “สมศักดิ์” ต้องกวาดเก้าอี้ สส. เมืองเก่า ทั้ง 4 เขต ยึดหัวหาดเอาไว้ให้ได้
จ.พิษณุโลก มี 5 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทยยึดไว้ได้ 3 ประกอบด้วย จเด็ศ จันทรา เขต 1 (ชนะเลือกตั้งซ่อม) นพพล เหลืองทองนารา เขต 2 และพิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ เขต 4 โดย “สมศักดิ์ - เพื่อไทย” หมายมั่นจะรักษาเอาไว้ให้ได้ทั้ง 3 เขต พร้อมทั้งรุกต่ออีก 2 เขต โดยจะส่ง เจนวิทย์ จันทรา เขต 3 และเอกพงษ์ กุลเจริญ เขต 5 ลงชิง
โดยคู่แข่งหลักใน จ.พิษณุโลก คือพรรคประชาชน ที่การเลือกตั้งคว้าชัยไป 2 เขต ประกอบด้วย “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา (ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง) และ ศุภปกรณ์ กิตยาธิคุณ เขต 5 ขณะเดียวกันยังมี “จุติ ไกรฤกษ์” ที่ย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย เป็นคู่แข่งที่จะขับเคี่ยวด้วย
จ.เพชรบูรณ์ สมศักดิ์รู้ดีว่า ยากจะเข้าไปชิงเก้าอี้จากพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากมี “สันติ พร้อมพัฒน์” และ“นายก ด๊อยซ์” อัครเดช ทองใจสด แต่ขอส่ง “ตรีชฏา ศรีธาดา” เข้ามาชิงเขต 3 อย่างน้อยก็หวังส้มหล่น
จ.ตาก การเลือกตั้งปี 2566 “กระแสสีส้ม” มาแรง คว้าไปได้ 2 ที่นั่งจาก 3 แต่รอบนี้ “ค่ายแดง” วางเกมดึง “บ้านใหญ่” มาช่วยงาน ประกอบด้วย พิษณุ พลบุตร เขต 1 วราทิต ไชยนันทน์ เขต 2 ชัยณรงค์ มะเดชะ เขต 3
อย่างไรก็ตาม ภาคเหนือตอนบน ซึ่งเคยเป็นฐานเสียงหลักของพรรคเพื่อไทย อยู่ในความดูแลของ “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งรวบรวม “บิ๊กเนมค่ายแดง” กลับมาร่วมงานที่บ้านหลังเดิมได้พอสมควร แต่ต้องรับมือกับ “กระแสสีส้ม” ที่ยังร้อนแรงอยู่ในเขตเมือง โซนภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะเชียงใหม่ เชียงราย
ทว่า“สมศักดิ์” ส่งคนสนิทอย่าง “วิชัย ไชยมงคล” ลงชิง สส.พะเยา เขต 1 เหยียบถิ่น “ผู้กองมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม ว่ากันว่า “วิชัย” แม้จะลุ้นยาก แต่อย่าประมาทคนป่ามีปืน ที่อาจจะสอย “ผู้กอง” ตกบัลลังก์ได้
นอกจากนี้ สมศักดิ์ยังวางตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.ภาคกลางตอนบน โดยมีแนวโน้มจะส่งเด็กในสังกัด ลงชิง สส.พิจิตร คือ ภูดิท อินสุวรรณ์ เขต 2 และวิทยา มาลา เขต 3 พื้นที่ จ.นครสวรรค์ ส่ง ทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย เขต 2
ที่สำคัญมีแรงหนุนจาก “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย หนึ่งในสมาชิกกลุ่มสามมิตร ที่ย้ายจากพรรครวมไทยสร้างชาติ กลับมาร่วมทีม"สมศักดิ์ - สุริยะ” ที่เพื่อไทย
ทั้งหมด คือขุมกำลังของ “สมศักดิ์” ในการสู้ศึกเลือกตั้งปี 2569 ที่วางเป้า ยึด“ภาคเหนือตอนล่าง” พ่วงกับสนับสนุนเครือข่ายในพื้นที่ “ภาคกลางตอนบน” เติมตัวเลข สส.ค่ายแดง ให้ได้มากที่สุด







