'กมธ.ติดตามงบฯ' สว. สอบงบซีเกมส์ รับรองเปลี่ยนคนจัดงาน ถูกต้อง

"กมธ.ติดตามงบ" เผยงบจัดซีเกมส์ กว่า 2,800 ล้านบาท มีปัญหาเบิกงบล่าช้า รับรองการเปลี่ยนผู้จัดงาน ถูกต้องตามกฎหมาย
ที่รัฐสภา น.ส.ภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ติดตามการบริหารงบประมาณ วุฒิสภา แถลงข่าวผลการประชุมของกมธ. ซึ่งติดตามงบประมาณและการดำเนินงานของประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ร่วมกับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ว่า กมธ. ทราบยอดการใช้งบประมาณจัดงานรวมทั้งสิ้น 2,861.34 ล้านบาท ได้รับการจัดสรรครบถ้วน แบ่งเป็นงบประมาณตามมติคณะรัฐมนตรี จำนวน 2,055 ล้านบาท ครอบคลุมค่าลิขสิทธิ์และการสนับสนุนจากเอกชน เงินสิทธิประโยชน์จากภาคเอกชน 154 ล้านบาท เพื่อชดเชยส่วนต่างรายจ่าย เงินจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ 653 ล้านบาท รวมถึงการโอนงบข้ามแผนงานประมาณ 178 ล้านบาท และงบกลางที่ กกท. ขอรับการจัดสรร 459 ล้านบาท โดยได้รับจริง 434 ล้านบาท เพื่อดูแลการแข่งขันครบทั้ง 54 ชนิดกีฬา
น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าวต่อว่า กมธ.มีข้อสังเกตเกี่ยวกับความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งเกิดจากขั้นตอนทางธุรการที่ต้องผ่านหลายหน่วยงาน อาทิ สมาคมกีฬา คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย กกท. โดยเฉพาะงบจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติที่พบความล่าช้าอย่างชัดเจน ส่งผลให้ต้องมีการขอใช้งบกลางและโอนงบข้ามแผนงานมาสมทบ
"ประเทศไทยไม่ได้เป็นเจ้าภาพซีเกมส์มานานถึง 19 ปี และต้องรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพเร็วกว่ารอบปกติ จากการรับไม้ต่อจากประเทศที่ไม่พร้อม ส่งผลให้ขาดความต่อเนื่องของบุคลากรที่มีประสบการณ์ รวมถึงมีการเพิ่มชนิดกีฬาในภายหลัง ซึ่งกมธ.เห็นว่าเป็นเหตุผลที่สามารถรับฟังได้ ขณะที่ปัญหาด้านบริหารจัดการและเทคนิค ที่พบข้อผิดพลาดต้องนำไปถอดบทเรียนอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้กระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศในการจัดงานระดับนานาชาติในอนาคต" น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าว
น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าวต่อว่ากรณีการเปลี่ยนแปลงผู้ดำเนินการจัดงานระหว่างทาง กมธ.ตรวจสอบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และหลักธรรมาภิบาล







