ศึกปทุมฯ ภูมิใจหญ้าหวาน ‘บิ๊กแจ๊ส’ ผนึก พท. ‘บ้านใหญ่นพขำ’

รอบนี้ เพื่อไทย และภูมิใจไทย แข่งกันสะสมขุมกำลัง แกนหลักฐานเสียงที่สำคัญ เพื่อสู้กันอย่างเต็มที่ อีกแนวรบ 2 พรรคยังต้องสู้กับค่ายส้ม พรรคประชาชน ที่ยังเป็นตัวเต็ง ปี 66 ปั่นกระแสจนกวาดไป 6 จากทั้งหมด 7 ที่นั่ง
KEY
POINTS
- ตระกูล “หลีนวรัตน์” หรือบ้านใหญ่หญ้าหวาน ย้ายจากพรรคเพื่อไทยไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย เพื่อเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า
- เหมือน “บิ๊กแจ๊ส” ถูกบีบให้ต้องเปลี่ยนขั้วการเมือง โดยหันกลับไปร่วมมือกับพรรคเพื่อไทยและ “บ้านใหญ่นพขำ”
- การสลับขั้วครั้งสำคัญนี้ ทำให้สนามเลือกตั้ง จ.ปทุมธานี กลายเป็นการต่อสู้ 3 เส้า ระหว่างพรรคภูมิใจไทย, พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชน
ศึกชายแดนไทย-กัมพูชา ยิ่งรบ ยิ่งยืดเยื้อ ประชาชนเริ่มรู้สึกไม่มั่นคง ภัยคุกคามใกล้ตัวขึ้นทุกที หลังตรวจพบโดรนบินเข้ามาในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ ในช่วงใกล้ปีใหม่ที่การเดินทางเข้าออกประเทศคับคั่ง ดูแล้วน่าเสียวไส้ หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน รัฐบาลที่โหนชาตินิยมก็คงรับผิดชอบไม่ไหว
จังหวะที่การเมืองเดินคู่ขนานไปกับการทหาร รบไปเลือกตั้งไป การจัดทัพครั้งสำคัญในพื้นที่ยุทธศาสตร์ของค่ายแดงและน้ำเงิน เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง หนึ่งในนั้น คือ ปทุมธานี ที่มีการเปลี่ยนตัวแกนหลักในพื้นที่แบบพลิกฝ่ามือ
การเข้าสังกัดภูมิใจไทยของบ้านใหญ่หญ้าหวาน แห่งธัญบุรี นำโดยนายกฯ เบี้ยว กฤษฎา หลีนวรัตน์ อดีตนายกเทศมนตรีธัญบุรี พาลูกชายสุดเลิฟ ฟลุ๊ค มนัสนันท์ หลีนวรัตน์ อดีต สส.ปทุมธานี เขต 5 เพื่อไทย เปลี่ยนสีเสื้อ เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในสมรภูมินี้
รวมถึง ชาญ พวงเพ็ชร์ เด็กเก่าค่ายน้ำเงิน ก็กลับบ้านหลังเก่า จากรอบที่แล้วสังกัดค่ายนายใหญ่ทักษิณ ชินวัตร เพื่อไทย ลงสู้ศึกนายก อบจ.ปทุมฯ ปีที่แล้ว พร้อมการสนับสนุนจากเครือข่ายบ้านใหญ่แทบทั้งหมดในพื้นที่ แต่ก็แพ้ให้กับบิ๊กแจ๊ส คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ที่ได้รับแรงหนุนจากภูมิใจไทยเต็มตัว
กระทั่งการเลือกตั้งใหญ่ ปี 69 กำลังมาถึง สีน้ำเงินเขย่าขวดครั้งใหญ่ในพื้นที่เมืองปทุมฯ ชั่วโมงนี้ น่าจะรับรู้กันแล้วว่า บิ๊กแจ๊ส ไม่ใช่ผู้เล่นหลักของครูใหญ่สีน้ำเงินอีกต่อไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
การที่ภูมิใจไทย ดึงศัตรูคู่อาฆาตในทางการเมืองของบิ๊กแจ๊ส ทั้งชาญ และนายกฯ เบี้ยว นั่นเท่ากับว่า บิ๊กแจ๊ส หมดบทบาทในสนามการเมืองใหญ่ปทุมธานีของค่ายสีน้ำเงินไปโดยปริยาย
กลายเป็นไฟต์บังคับให้บิ๊กแจ๊ส ที่อาจกำลังแค้นเต็มอก ต้องขยับขยายอีกครั้ง จากที่ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบกับแกนนำเพื่อไทยในพื้นที่ ตอนนี้ว่ากันว่า บิ๊กแจ๊ส หวนไปช่วยเพื่อไทยอีกครั้ง โดยเฉพาะกับบ้านใหญ่นพขำ ก็ทำให้ค่ายแดงได้ลุ้นทวงที่นั่งคืนไม่น้อย
ขณะที่ตัวเลือกอื่นของบิ๊กแจ๊ส จะให้ไปพลังประชารัฐ ก็วางตัวจัดทีมครบแล้ว หรือจะโยกไปกล้าธรรม ก็ดันเป็นพันธมิตรเหนียวแน่นกับภูมิใจไทย ดูได้จากการรับผู้สมัคร สส. อกหักที่ไม่ได้ลงเขตกับสีน้ำเงิน ด้วยเหตุพื้นที่ทับซ้อนเอาไว้เพียบ
การวางตัวผู้สมัครของภูมิใจไทย รอบนี้ถือว่าน่าสนใจมาก โดยเฉพาะ เขต 5 ปทุมธานี คนเดิมค่ายน้ำเงิน คือ เอ้ พิษณุ พลธี รอบก่อนแพ้ ฟลุ๊ค มนัสนันท์ แชมป์เก่าแบบสูสี 33,885 ต่อ 35,078 ห่างกันแค่ 1,193 คะแนนเท่านั้น
เอ้ พิษณุ ที่ทำผลงานดี คะแนนสูงสุดในศึกเลือกตั้งรอบก่อน จากบรรดาผู้สมัคร สส. ทั้งหมด7เขต ของภูมิใจไทย มารอบนี้แว่วๆ ว่าก็ยังมีโอกาสได้รับความไว้วางใจให้ลงล้างตาเขต5 เหมือนเดิม
ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องจับตาในส่วนของฟลุ๊ค มนัสนันท์ ค่ายน้ำเงิน จะจัดวางที่ทางอย่างไร หลังปิดดีลภูมิใจไทย โดยผู้ใหญ่คนหนึ่งของพรรคยอมถอย พร้อมยื่นโควตาบัญชีรายชื่อ ลำดับ 3 ให้ ทุกอย่างจึงลงตัว และค่อนข้างการันตีได้เข้าสภาแน่
ที่เหลือก็อยุ่ที่นายกฯเบี้ยว หรือฟลุ๊ค มนัสนันท์ พ่อลุกใครจะลงปาร์ตี้ลิสต์กันแน่ ถ้าเป็นสูตรที่นายกฯ เบี้ยว ลงเอง ฟลุ๊ค จะอยู่ที่เดิม หรือถูกโยกไปเขตอื่นหรือไม่ หรือจะเป็น เอ้ พิษณุ ต้องขยับเขต อาจต้องลุ้นจนนาทีสุดท้ายก่อนเปิดรับสมัคร
รอบนี้ เพื่อไทย และภูมิใจไทย แข่งกันสะสมขุมกำลัง แกนหลักฐานเสียงที่สำคัญ เพื่อสู้กันอย่างเต็มที่ อีกแนวรบ 2 พรรคยังต้องสู้กับค่ายส้ม พรรคประชาชน ที่ยังเป็นตัวเต็ง ปี 66 ปั่นกระแสจนกวาดไป 6 จากทั้งหมด 7 ที่นั่ง
สะท้อนศึก 3 เส้า แห่งเมืองปทุมฯ อย่างชัดเจน ดุเดือดไม่ต่างจากการเมืองใหญ่ 3 ก๊ก







