ลุ้น 25 ธ.ค.ชี้ชะตา '44 สส.ส้ม' วิบากการเมือง คดีแก้ ม.112

ลุ้น 25 ธ.ค.ชี้ชะตา '44 สส.ส้ม' วิบากการเมือง คดีแก้ ม.112

หาก ป.ป.ช. ชี้มูล และศาลฎีการับฟ้อง แม้ผู้ถูกกล่าวหายังสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ แต่หากศาลมีคำพิพากษาว่าผิดในภายหลัง ต้องพ้นจากตำแหน่ง ถูกตัดสิทธิทางการเมือง

KEY

POINTS

  • คณะกรรมการ ป.ป.ช. คาดว่าจะชี้มูลคดี 44 อดีต สส. พรรคก้าวไกล ในวันที่ 25 ธ.ค.68 กรณีเสนอแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
  • ผู้ถูกกล่าวหาประกอบด้วยแกนนำคนสำคัญของพรรคประชาชน (ปชน.) หลายราย รวมถึงหัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
  • หาก ป.ป.ช. ชี้มูล และศาลฎีการับฟ้อง แม้ผู้ถูกกล่าวหายังสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ แต่หากศาลมีคำพิพากษาว่าผิดในภายหลัง อาจทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง และถูกตัดสิทธิทางการเมือง

 

 

วันที่ 25 ธ.ค.2568 นี้ นับเป็นอีกวันสำคัญที่น่าจับตาอย่างยิ่ง เพราะ 1.พรรคประชาชน (ปชน.) 1 ใน 3 “ก๊กหลัก” ของสมรภูมิการเมือง 3 ก๊กในปัจจุบัน นัดเปิดตัว “นโยบายหลัก” ของพรรค ภายหลังมีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคไปแล้ว 3 คน คือ “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค “ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ และ “ต้น” วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร ผู้อยู่เบื้องหลังการร่างนโยบายให้พรรค และหนึ่งใน “วงใน” กลุ่ม “เพื่อนเอก”

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.68 ที่ผ่านมา ปชน.เปิดตัว “ว่าที่รองนายกฯ” หาก ปชน.ชนะการเลือกตั้งได้จัดตั้ง “รัฐบาลพรรคเดียว” สำเร็จ จำนวน 4 คน ได้แก่ 1.พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ อดีต สส.พรรคประชาชน ดูแลเรื่องประชาธิปไตย และความมั่นคงใหม่ 2.เดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการ Think Forward center และอดีตที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน ดูแลเรื่องคุณภาพชีวิตใหม่ 3.วีระยุทธ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ดูแลเรื่องเศรษฐกิจใหม่ 4. ศิริกัญญา อดีต สส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ดูแลเรื่องการปฏิรูปรัฐบริหารราชการแผ่นดินใหม่ ภายใต้แคมเปญหาเสียงเลือกตั้ง “3 ไทย” ประกอบด้วย “ไทยไม่เทา ไทยเท่ากัน ไทยทันโลก”

2.วันดังกล่าวถูกคาดหมายว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะมีมติอย่างหนึ่งอย่างใด ในคดีกล่าวหา 44 อดีต สส.พรรคก้าวไกล กรณีร่วมกันลงชื่อ ยื่นเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา โดยหนึ่งในนั้นมีการยื่นแก้ไข “มาตรา 112” โดยถูกกล่าวหาว่า ฝ่าฝืนหรือละเมิดมาตรฐานทางจริยธรรมฯ อย่างร้ายแรง

คดีดังกล่าวถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนมาแล้วเกือบ 1 ปี ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยเป็นเอกฉันท์ “ยุบพรรคก้าวไกล” กรณีกล่าวหาว่าใช้นโยบายหาเสียงในการแก้ไขมาตรา 112 และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ส่งผลให้ต้องหอบหิ้ว สส.มาสู่ยานพาหนะคันที่ 3 อย่าง ปชน.ในปัจจุบัน

ที่น่าสนใจในการไต่สวนเรื่องนี้มี 2 ประเด็นด้วยกัน 1.คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้แต่งตั้งคณะไต่สวนขึ้นมา โดยว่ากันว่ามีการแบ่งแยกพฤติการณ์ออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก คือ กลุ่มไอเดียต้นคิดที่นำเสนอร่างกฎหมายดังกล่าว กลุ่มสอง คือ กลุ่มผู้นำที่ริเริ่มชักชวนให้ สส.ร่วมลงชื่อ เพื่อยื่นร่างกฎหมาย และกลุ่มสุดท้ายคือ กลุ่ม สส.ที่ร่วมลงชื่อในร่างกฎหมายฉบับนี้ โดยกล่าวหาว่า ใช้ตำแหน่ง หรืออำนาจหน้าที่ในตำแหน่ง ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย เสียหาย ทำลายเกียรติภูมิ ตามมาตรฐานจริยธรรมฯ

สำหรับร่างกฎหมายฉบับนี้ ดำเนินการยื่นเมื่อปี 2564 ในยุค “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ “ชัยธวัช ตุลาธน” เป็นเลขาธิการพรรค พร้อมด้วย สส.รวม 44 คน อย่างไรก็ดีผ่านมาถึงปัจจุบัน ปรากฏชื่อ สส.ที่ย้ายไปสังกัดพรรค ปชน.รวม 25 คน แบ่งเป็น

สส.บัญชีรายชื่อ 17 คน ส่วนใหญ่เป็นคีย์แมนแกนนำของพรรค 1.ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค 2.ศิริกัญญา ตันสกุล 3.สุรวาท ทองบุ 4.นิติพล ผิวเหมาะ 5.ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล 6.รังสิมันต์ โรม 7.วาโย อัศวรุ่งเรือง 8.วรรณวิภา ไม้สน 9.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร 10.สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ 11.ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ 12.ณัฐวุฒิ บัวประทุม 13.วรภพ วิริยะโรจน์ 14.คำพอง เทพาคำ 15.ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ 16.องค์การ ชัยบุตร 17. มานพ คีรีภูวดล

สส.เขตอีก 8 คน 18.วุฒินันท์ บุญชู สส.สมุทรปราการ เขต 4 ,19.เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม.เขต 24 , 20.ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. เขต 27, 21.ศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด เขต1 , 22.จรัส คุ้มไข่น้ำ สส.ชลบุรี เขต 8 , 23.ธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กทม. เขต18 , 24.ญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี เขต 3 และ 25.จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา เขต 4

2.แม้ว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.จะมีมติอย่างหนึ่งอย่างใดเกี่ยวกับคดีนี้ หากมีการส่งเรื่องไปถึงศาลฎีกาประทับรับฟ้อง ซึ่งตามกฎหมาย หากศาลไม่มีคำสั่งอย่างหนึ่งอย่างใด ให้ถือว่ามีคำสั่งให้ สส.คนดังกล่าวยุติการปฏิบัติหน้าที่ในทันที อย่างไรก็ดีขณะนี้มีการ “ยุบสภาฯ” ส่งผลให้ สส.ทั้งหมดพ้นจากตำแหน่ง ดังนั้นหากศาลฎีกา ประทับรับฟ้องแล้ว บรรดาอดีต สส.ดังกล่าว ยังสามารถเคลื่อนไหวทางการเมือง หรือลงสมัครรับเลือกตั้งได้ตามปกติ ไม่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด

นอกจากนี้ สส.ที่โดนประทับรับฟ้องคดีดังกล่าว ยังสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ใหม่ รวมถึงถูกเสนอชื่อในบัญชีแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคได้ เนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สุด ส่งผลให้ 25 สส.ปชน. ที่ตอนนี้ไปต่อราว 14 คน ในจำนวนนี้มี 12 คน ถูกส่งลงปาร์ตี้ลิสต์ ได้แก่ ณัฐพงษ์ ในฐานะหัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯ ศิริกัญญา รองหัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯ นิติพล ปกรณ์วุฒิ รังสิมันต์ วาโย วิโรจน์ สุรเชษฐ์ ณัฐวุฒิ วรภพ คำพอง ณัฐชา (เดิมเป็น สส.กทม.) และมี 2 คนถูกส่งลง สส.เขตเช่นเดิมคือ ธีรัจชัย พันธุมาศ สมัคร สส.กทม. และจรัส คุ้มไข่น้ำ สมัคร สส.ชลบุรี

ที่น่าสนใจ ปชน.ประเมินฉากทัศน์ดังกล่าวเอาไว้แล้ว จึงใช้หลักคิดในการ “เลี่ยงบาลี” บรรดาอดีต สส.ที่โดนคดี 44 สส.ก้าวไกล และคดีเกี่ยวกับมาตรา 112-พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เอาไว้แล้ว จึงโยกอดีต สส.เขตที่ต้องคดี ขึ้นมาเป็น สส.ปาร์ตี้ลิสต์ เช่น ณัฐชา อดีต สส.กทม. “ไอซ์” รักชนก ศรีนอก อดีต สส.กทม. “โตโต้” ปิยรัฐ จงเทพ อดีต สส.กทม. “ลูกเกด” ชลธิชา แจ้งเร็ว อดีต สส.ปทุมธานี เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนผู้สมัคร สส.เขตหลายคน บางคนให้ “ครอบครัว-เครือญาติ” มาลงแทน เช่น กรณี “จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์” อดีต สส.ฉะเชิงเทรา เขต 4 ถูกศาลสั่งจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา คดีใบ สด.43 ปลอม ได้ตัดสินใจส่ง “แพรวนภัศร์ ทองสุวรรณ์” ภริยา ลงสมัคร สส.แทน ส่วน “ญาณธิชา บัวเผื่อน” อดีต สส.จันทบุรี เขต 3 มี “ไพโรจน์ บัวเผื่อน” ลงสมัคร สส.แทน เป็นต้น

ดังนั้นต่อให้มีคดี 44 สส. “ค้ำคอ” บรรดา “บิ๊กเนมสีส้ม” แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งการลงสมัครรับเลือกตั้ง และหาเสียงเลือกตั้ง เพื่อหวังปูทางจัดตั้ง “รัฐบาลพรรคเดียว” ลงได้ ทว่าฉากทัศน์ที่ต้องมองต่อไปหากบรรดา 14 อดีต สส.ที่ตัดสินใจไปต่อกับ ปชน.หากศาลมีคำพิพากษา “ทางลบ” ขึ้นมา จะทำให้พรรคเหลือแคนดิเดตนายกฯ เพียงแค่คนเดียวคือ “ต้น วีระยุทธ” จะเพียงพอกับ “โจทย์ยาก” ในการจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวหรือไม่ ขณะที่บรรดา “แกนนำ” หลายคนนอกจากพ้นตำแหน่ง สส.แล้วยังพ้นตำแหน่งในการบริหารพรรคด้วย ทำให้ต้องปรับโครงสร้างพรรคขึ้นใหม่

นับเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับฉากทัศน์คดี “44 สส.ก้าวไกล” ที่ปัจจุบันงวดลงไปทุกขณะ และมีการคาดหมายว่าภายในวันที่ 25 ธ.ค.68 นี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.อาจมีมติอย่างหนึ่งอย่างใด หรืออย่างช้าที่สุดอาจทอดเวลายาวออกไปในช่วงเดือนม.ค. และมีแนวโน้มสูงจะมีมติเกิดขึ้นช่วงก่อนวันเลือกตั้ง

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์