ไม่หยุดยิง กัมพูชา โจมตีหลายจุด ทภ.2 BM-21 ตกพื้นที่พลเรือน 4 ลูก

กัมพูชา ระดมกำลัง-อาวุธหนัก โจมตีหลายพื้นที่ ทภ.2 หวังยึดคืน ส่วน ทหารไทยค้ำยันโต้กลับ ส่วนช่องสายตะกู วางกำลังเผชิญหน้า พบ BM-21 ตกพื้นที่พลเรือน 4 ลูก
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 22 ธันวาคม 2568 กองทัพภาคที่ 2(ทภ.2) รายงาน สรุปสถานการณ์ความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ประจำวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา ระบุว่า ตลอดทั้งวันยังคงเกิดการปะทะด้วยอาวุธหนัก โดยเฉพาะการใช้ปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิดอย่างหนาแน่น ในพื้นที่ผามออีแดงและภูมะเขือ
รายงานระบุว่า ฝ่ายไทยยังสามารถคุมจังหวะการยิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความแม่นยำสูง และมีการรวมอำนาจการยิงเข้าสู่พื้นที่เป้าหมายหลายครั้ง รวมถึงการใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีที่ตั้งฝ่ายตรงข้ามจนเกิดความเสียหายอย่างหนัก ขณะที่ฝ่ายกัมพูชามีการใช้รถถังยิงตอบโต้ในช่วงค่ำ แต่ยังไม่สามารถผลักดันแนวรบได้สำเร็จ โดยสถานการณ์ในพื้นที่ช่องอานม้า–ช่องบกยังคงปกติ สะท้อนถึงข้อจำกัดในการขยายสมรภูมิในหลายแนวพร้อมกันของฝ่ายตรงข้าม
อุบลราชธานี
พื้นที่ช่องบกพบการยิงอาวุธประจำกายเป็นระยะ ลักษณะยิงตรวจแนว ขณะที่พื้นที่ช่องอานม้า ฝ่ายกัมพูชาถอนกำลังไปตั้งแนวรับที่สอง ห่างจากพื้นที่สู้รบราว 10 กิโลเมตร และใช้โดรนบินตรวจการณ์ฝ่ายไทย
ศรีสะเกษ
พื้นที่ซำแต–โดนตรวล–ภูผี–สัตตะโสม–พนมประสิทธิโส–ช่องตาเฒ่า ถือเป็นพื้นที่ที่มีการยิงปืนใหญ่และปืนครกตอบโต้กันรุนแรงที่สุด ฝ่ายกัมพูชายิงกดดันเป็นระยะ โดยเฉพาะบริเวณเขาสัตตะโสมและภูผี ขณะที่ฝ่ายไทยยิงตอบโต้ไปยังจุดตรวจพบการยิงหลายครั้ง พร้อมใช้โดรนทิ้งระเบิดทำลายที่ตั้งฝ่ายตรงข้ามจนได้รับความเสียหายหนัก
ผามออีแดง–ห้วยตามาเรีย ทั้งสองฝ่ายปะทะกันตลอดทั้งวันด้วยอาวุธประจำกายและปืนค. ส่วนพื้นที่ภูมะเขือ–ช่องโดนเอาว์–พลาญยาว–พลาญหินแปดก้อน มีการยิงประปราย โดยฝ่ายกัมพูชายังคงเฝ้าตรวจและยิงกดดันเป็นระยะ
สุรินทร์
พื้นที่ช่องจอม–ช่องเปรอ–ช่องระยี รวมถึงพื้นที่คนา ฝ่ายไทยสถาปนาที่หมายและตรึงกำลังอย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่คนา ฝ่ายกัมพูชาใช้รถถังยิงเข้ามาในฝั่งไทย แต่ไม่เกิดความสูญเสีย
พื้นที่ตาควาย ฝ่ายไทยสามารถยึดที่หมายเนิน 350 และตั้งฐานที่มั่นได้สำเร็จ ระหว่างการใช้รถ JCB เคลียร์พื้นที่ รถเหยียบกับระเบิดทำให้ยางล้อหน้าเสียหาย แต่กำลังพลปลอดภัย ต่อมาพบการยิงจากฝ่ายกัมพูชามายังยอดเนิน และในช่วงเย็นตรวจพบการเคลื่อนยานรบ จึงใช้ปืนยิงสกัดไว้
ขณะที่พื้นที่ช่องกร่าง และตาเมือนธม ฝ่ายไทยตรึงกำลังตลอดแนว โดยพื้นที่ตาเมือนธม ฝ่ายกัมพูชายิงจรวด BM-21 มายังด้านทิศใต้ของปราสาทตาเมือน
บุรีรัมย์
พื้นที่ช่องสายตะกู ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังเผชิญหน้ากันตลอดแนว
นอกจากนี้ ในพื้นที่ส่วนหลัง จังหวัดสุรินทร์ ตรวจพบจรวด BM-21 จำนวน 4 ลูก ตกในพื้นที่ทิศใต้บ้านหนองจูบ หมู่ 2 ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก เบื้องต้นยังไม่พบรายงานความเสียหายหรือการสูญเสีย
กองทัพภาคที่ 2 เน้นย้ำว่า โบราณสถานไม่ใช่สนามรบ การนำพื้นที่โบราณสถานไปใช้ติดตั้งอาวุธ กล้องตรวจการณ์ หรือระบบต่อต้านโดรน ถือเป็นการละเมิดหลักสากลที่ทุกประเทศต้องเคารพ
ฝ่ายไทยยืนยันสิทธิในการป้องกันตนเองตามกฎหมายระหว่างประเทศ โดยการปฏิบัติการทั้งหมดเป็นไปเพื่อการป้องกันตนเองโดยชอบ หลังมีหลักฐานชัดเจนว่ามีการใช้พื้นที่โบราณสถานเป็นฐานปฏิบัติการทางทหารและเป็นจุดโจมตีเข้ามาในฝั่งไทย พร้อมย้ำยึดหลักความจำเป็น ความได้สัดส่วน และมุ่งรักษาสันติภาพตามแนวชายแดน







