ปชน. จัดเวทีชักธงรบ เตรียมพร้อมเลือกตั้ง​ ไม่หวั่นผลโพลความนิยมลด

ปชน. จัดเวทีชักธงรบ เตรียมพร้อมเลือกตั้ง​ ไม่หวั่นผลโพลความนิยมลด

"ปชน." จัดเวทีชักธงรบ เตรียมพร้อมเลือกตั้ง​ ประกาศ​ กทม.ต้องชนะ​ ​ ขณะ"เลขาพรรค" ยังมั่นใจคว้าชัย​ได้ แม้ผลโพลความนิยมลดลง​ ขอเพียงประชาชนตื่นตัว​ ไปได้ไกลกว่าเดิมแน่นอน​ 

20 ธ.ค. พรรคประชาชน (ปชน.) จัดกิจกรรมพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนมุมมองการทำงานการเมือง พร้อมกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ในบรรยากาศเป็นกันเอง และร่วมวางพลังอนาคตไปด้วยกัน ภายใต้แคมเปญ​ ชักธงรบ เตรียมความพร้อม กรุงเทพมหานคร​ ต้องชนะ พรรคประชาชน​ ซึ่งเชิญ นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน​ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ อดีตสส.บางขุนเทียน​ และว่าที่ผู้สมัคร​ สส.กทม.ฝั่งธนบุรี​ พรรคประชาชน​ มา​ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับประชาชน​ในพื้นที่

โดย นายศรายุทธิ์​ กล่าวว่า​ ตั้งแต่​พรรคอนาคตใหม่​ มีเป้าหมายสำคัญคือการสร้างประเทศไทย​ ที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน และมั่นใจว่าคนที่เข้ามาอยู่กับพรรคมีเป้าหมายเดียวกัน เวลาเปลี่ยนไปหลายปี วันนี้เติบโตขึ้น​ ยอมรับหลายคนอาจจะกังวลกับ ผลโพล ต่างๆที่ คะแนนนิยมพรรคประชาชน ลดลง แต่สำหรับตนเอง ที่รู้จักพรรคมานานยังคงมั่นใจ​ จะไปได้ไกลกว่าเดิม​ และแข็งแกร่งกว่าเดิม​ ด้วยตัวเลขต่างที่เป็นเครื่องชี้วัด​ ทั้งจำนวนสมาชิดที่เพิ่มขึ้น​ 30 % เงินบริจาค 96 ล้านบาท​ จากคนหลักแสนคน​ ความนิยมที่ขยับจาก​ 10 % เป็น​ 20-30 % 

"ดังนั้น​ พูดกับความเป็นไปได้ ว่าจะชนะการเลือกตั้ง ไม่ใช่สิ่งที่ไปเป็นไปไม่ได้​ หากดูจากตัวเลขเหล่านี้​ เป็นไปได้​ แต่ความเป็นไปได้​ จะทำสำเร็จหรือไม่​ ต้องเกิดจากพวกเราทุกคนที่มาช่วย การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ไม่ใช่แกนนำไม่กี่คน แต่การเปลี่ยนแปลงและชัยชนะต้องมาจากพวกเราทุกคนและตนมั่นใจว่าสิ่งที่ผมพูดไปแล้วตัวเลขสมาชิกมากกว่าแสนคน​ ตัวเลขผู้บริจาคมากกว่าแสนคน​ สิ่งเหล่านี้เป็นพลังสำคัญที่ทำให้ 250 เป็นจริงได้อย่างแน่นอน"

นายศรายุทธิ์​ ยังกล่าวต่อด้วยว่า​ ปัญหาเรื่องสแกมเมอร์และทุนสีเทา​ เบียดบังคนไทยทุกมิติทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ตกต่ำมาก ได้ข่าวแม่​ สส.ก็ยังโดนหลอกลวงไปนับล้านบาท คิดว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้​ มาถึงจุดที่ตกต่ำมาก ซึ่งมีรากฐานเดียวกันคืออำนาจที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชนเข้ามากำหนดความเป็นไปของประเทศ มีระบบเส้นสายที่ทำให้คนเหล่านั้นเข้ามาได้​ ดังนั้น เลือกตั้งครั้งนี้​ จึงสำคัญ​ เพราะคือโอกาสในรอบ 15 ปี ที่จะทำให้ประชาชน​ เป็นผู้กำหนดว่า​ ใครจะมาเป็นรัฐบาล​ และขออย่ากังวลเรื่องคะแนนนิยม​ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือการตื่นตัวของประชาชน​ จึงมั่นใจรอบนี้ได้มากกว่าเดิมแน่นอน​ แต่จะไปได้ไกลแค่ไหน​ ขึ้นอยู่กับประชาชนทุกคน

เมื่อไหร่เข้าสู่การเลือกตั้งนั่นคือโอกาสในการสร้างการเปลี่ยนแปลงจริงๆ​ เพราะโอกาสเลือกตั้งจะมีส่วนร่วมที่จะผลักดันเพื่อความสุข

ขณะนายณัฐชา​ ​กล่าวว่า​ การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา​ พรรคอนาคตใหม่จนมาเป็นพรรคก้าวไกล​ ประสบความสำเร็จ มีความใฝ่ฝันว่าจะเป็นทั้งอันดับ 1 ซึ่งทำได้แล้ว​ นำ​ สส.เข้าสู่สภา 151 ที่นั่ง​ แต่มีอุปสรรคมาฉุดรั้งให้พรรคอันดับ 1 ไม่ได้เป็นรัฐบาล​ แต่ครั้งนี้​ จึงมีเป้าหมายใหม่​จะจัดตั้งรัฐบาลประชาชนให้ได้ เพราะฉะนั้นก้าวแรก​ที่เริ่มจากตรงนี้​ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน​ มาร่วมกันทำภารกิจให้สำเร็จ​ เพราะการการเลือกตั้ง​ เป็นการเปลี่ยนแปลงอนาคต​ ที่ลงทุนน้อยที่สุด​ ขอให้ออกมาเป็นหัวคะแนนธรรมชาติ​อีกครั้ง​ 

จากนั้น​ได้ให้ว่าที่ผู้สมัคร​ สส.ฝั่งธน​ แนะนำตัวร่วมไปถึงความมุ่งมั่น​ ตั้งใจจะเข้าไปเป็นผู้แทนราษฎร​ พร้อมบางช่วงบางที่แนะ​ว่าที่ผู้สมัคร​ สส.เขตจอมทอง​-บางขุนเทียน​ นายณัฐชา​ ได้ถือโอกาส​ ขอโทษประชาชนและขอโอกาสอีกครั้ง​ เนื่องจากว่าเขตนี้มีปัญหาทั้ง​สมัยพรรคอนาคตใหม่​ ที่เป็น​งูเห่า​ และสมัยพรรคก้าวไกล​ ก็ถูกร้องเรียน​คุกคามทางเพศ​