‘ธนาธร’ รับประกัน ปัดคอนโทรล ปชน. ชี้ ‘โปลิตบูโร’ คือ กก.บห.

‘ธนาธร’ รับประกัน ปัดคอนโทรล ปชน. ชี้ ‘โปลิตบูโร’ คือ กก.บห.

‘ธนาธร’ ปฏิเสธชัด รับประกันไม่มีส่วนคอนโทรลพรรค ปชน. เผย ‘โปลิตบูโร’ คือ กก.บห. เผยถ้าเลือกตั้งครั้งหน้าส้มอดเป็นรัฐบาล แล้วมีคนใหม่เหมาะสมกว่า พร้อมถอย

KEY

POINTS

  • ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ยืนยันว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการควบคุมหรือบริหารพรรคประชาชน (ปชน.)
  • ชี้แจงว่าคำว่า “โปลิตบูโร” ที่ถูกกล่าวถึงนั้นหมายถึงคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.)
  • รับประกันว่าไม่เคยแทรกแซงหรือชี้นำกระบวนการคัดเลือกผู้สมัคร สส. ของพรรค

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2568 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการครอบงำพรรค ผ่าน “โปลิตบูโร” ในพรรค ผ่านรายการ “กรรมกรข่าว คุยนอกจอ” ดำเนินรายการโดย นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ตอนหนึ่งว่า เห็นข่าวที่บางคนโวยวายว่าพรรคส้มเผด็จการบ้าง แต่ต้องบอกเพื่อให้ทุกคนหายสงสัย ตนไม่มีส่วนร่วมใดๆ 

เมื่อถามว่าพรรคมีโปลิตบูโรภายในหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ก็กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ไง แต่ยืนยันตนไม่ได้มีส่วนร่วมใดๆ กับการคัดเลือก สส.ดังนั้นข้อกล่าวหาว่า คนนี้คนของธนาธร ไม่มีจริง แน่นอน รับประกัน พรรคมีกระบวนการของเขา ไม่เคยยุ่ง แทรกแซง หรือบอกว่าเขตนี้เอานาย ก.ลงนะ เขตนี้เอานาย ข.ลงนะ ไม่มี 

ถามย้ำว่าเลขาธิการพรรค ปชน.เป็นเพื่อนคุณไง นายธนาธร กล่าวว่า ถูกต้อง เอาอย่างนี้การมาเป็น สส.พรรคนี้ มันไม่ได้เดินมาคุยกับหัวหน้า ไม่เหมือนพรรคอื่น ที่คุยกับหัวหน้าจบๆ การเป็นผู้สมัคร สส.พรรคนี้ ใครอยากสมัคร ให้เข้าระบบแข่งขันกัน เขตหนึ่งอาจมี 2-3 คน เขตเยอะๆ อาจมี 7-8 คน ก็เป็นไปได้ คนที่ไม่ได้ตำแหน่งอาจรู้สึกไม่เป็นธรรม

ซักอีกว่ากรณีคนที่เคยเป็น สส.อยู่แล้วแต่มีการเปลี่ยนคน นายธนาธร กล่าว อาจมีเหตุ อาจเป็นเพราะพรรคบริหารความรู้สึกไม่ดี แต่ตนเชื่อว่าพรรคมีมาตรฐานว่า สส.คนไหน ที่ไม่มีผลงาน สส.คนไหนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไม่ควรได้ลงต่อ วันนี้ก็เห็นอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าพรรคน้ำเงิน กับพรรคแดง มองพรรคไหนเป็นคู่แข่งกว่า นายธนาธร กล่าวว่า เราไม่ได้ คิดว่าคู่แข่งของเราคือ เราเอง ต้องทำตัวเองให้ดี ทำงานให้หนัก ทำให้ดีที่สุดในช่วง 50 กว่าวันที่เหลือ เราทำงานเต็มที่แน่นอน ฝากบอกประชาชนว่า พรรคนี้จะไปต่อไม่ได้เลย ถ้าไม่มีการสนับสนุนจากประชาชน เหตุผลเดียวที่ทำให้ตนยังสู้อยู่ ยังทำงานอยู่ 8 ปีที่ผ่านมา โดนล็อกคอ โดนขว้างขวดน้ำ โดนกล่าวหาว่าล้มเจ้า โดนสบประมาทเยอะแยะไปหมด โดนคำขู่ โดนตัดสิทธิทางการเมือง โดนคดีความ เหตุผลที่พวกเรายังยืนอยู่ เพราะเชื่อว่าประเทศไทยดีกว่านี้ได้ เชื่อว่าพวกเราทำได้ ดังนั้นขอโอกาสจริงๆ รอบนี้เป็นโอกาส ถ้าหากว่าประชาชนให้ความเป็นธรรมกับเราบ้าง ก็จะรู้ดีว่าสิ่งที่บอกว่าพรรคนี้ตั้งใจแก้ ม.112 อย่างเดียว ตั้งใจแก้รัฐธรรมนูญอย่างเดียว เรื่องพวกนี้ไม่เป็นความจริง ไปดูสิ่งที่เราทำจะรู้ว่าสิ่งพวกนี้ไม่เป็นความจริง

“เหลืออีก 50 กว่าวัน ทำให้ดีที่สุด ไม่ต้องสนใจคนอื่น ไม่ต้องแคร์ว่าเพื่อไทย ภูมิใจไทยจะทำอะไร พรรคนู้นพรรคนี้จะทำอะไร เราทำของเราให้ดีที่สุดในรอบ 50 กว่าวันที่เหลือ” นายธนาธร กล่าว

เมื่อถามว่า เมื่อครั้งหลังเลือกตั้งปี 2566 คุณน้ำตาคลอเมื่อก้าวไกลไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่บอกว่าอีกครั้งหนึ่งมันถึงแน่ นายธนาธร กล่าวว่า เสียดายโอกาส เสียดายจริงๆ ความมั่นคงใจอย่างนั้นยังอยู่ รอบนี้เป็นรัฐบาลแน่ 

ถามอีกว่า ถ้ายังไม่ได้อีกจะยอมแพ้หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า พูดยาก คือ ตอนตั้งพรรค คิดกับตัวเองเอาไว้ว่า 3 เลือกตั้งต้องเป็นรัฐบาลได้แน่ ตั้งแต่ตั้งพรรคแรกๆ แล้ว 3 เลือกตั้งเป็นรัฐบาลได้ นี่การเลือกตั้งครั้งที่ 3 แล้ว ถ้าเกิดว่าหลังการเลือกตั้งแล้ว ผลไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวัง และมีคนใหม่ที่เหมาะสมกว่า ตนไม่กระเหี้ยนกระหือรือที่อยากดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ เลย ยืนยันอีกครั้งว่า ถ้ามีคนที่เหมาะสมกว่า ประเทศไทยไปได้โดยไม่มีตน ตนไม่อยากมาทำงานการเมืองแต่แรก

“จุดตั้งต้นไม่ได้ตั้งใจมาทำงานการเมืองเพราะอยากเป็น สส. ไม่ได้ตั้งใจอยากเป็นนายกฯ อยากเป็นรัฐมนตรี ไม่ใช่ กระสันอยากมีอำนาจ อยากเป็นอำมาตย์ มีสายสะพาย ไม่ใช่ จนถึงวันนี้ก็ยืนยัน ดังนั้นถ้าพรรคเข้มแข็งแล้ว วันใดวันหนึ่งมีผู้นำเหมาะสม ผมพร้อมสนับสนุนพรรค สนับสนุนผู้นำทุกคน จะกลับไปทำธุรกิจ ปีนเขา อ่านหนังสือ เดี๋ยวว่ากัน มีหลายสิ่งที่อยากทำในชีวิต พูดอีกครั้งว่า ถ้าถึงเวลา ไปก็ไป ถ้าพรรคเข้มแข็งอยู่ได้โดยไม่มีเรา พอแล้ว ไม่ได้กระสันอยากเป็นนายกฯ เป็น สส.” นายธนาธร กล่าว

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์