จาก ‘ศัตรู’ สู่ ‘มิตร’(เทียม) ‘แจ๊ส-ชาญ’ เสือ 2 ตัวถ้ำเดียวกัน

จาก ‘ศัตรู’ สู่ ‘มิตร’(เทียม) ‘แจ๊ส-ชาญ’ เสือ 2 ตัวถ้ำเดียวกัน

การเมืองไม่มีมิตรแท้ และศัตรูถาวร “ชาญ” และ “นายกเบี้ยว” แท็กทีมรีเทิร์นบ้านหลังเก่า ส่วน “นายกแจ๊ส” อาจจะมีดีลลับ-ดีลลึก ช่วยเคลียร์ปัญหาหลังบ้าน เพราะแว่วมาว่า “ฟลุ๊ค มนัสนันท์” ต้องหลบฉากให้กับ “ลูกหม้อสีน้ำเงิน”

สมกับเป็น “พรรคพลังดูด” ในสมรภูมิเลือกตั้ง 2569 หลัง “พรรคภูมิใจไทย” ทยอยเปิดตัว “นักเลือกตั้ง” ทั้งหน้าใหม่หน้าเก่าหลั่งไหลไปที่พรรคย่านเกษตรฯ

เนื่องจากบางพื้นที่บางจังหวัด มีปรากฏการณ์ “เสือสองตัว” ที่เคยเดินกันคนละเส้นทาง เสมือนศัตรูคู่อาฆาต แต่ “ครูใหญ่” เนวิน ชิดชอบ จับ “ชาญ พวงเพ็ชร์” กับ “พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง” สองผู้ยิ่งใหญ่เมืองปทุมมาอยู่ในถ้ำเดียว

“ชาญ” อดีตนายก อบจ.ปทุมธานี พาลูกสาว “ชิดชนก พวงเพ็ชร์” และ “นายกเบี้ยว” กฤษดา หลีนวรัตน์ พร้อมลูกชาย “ฟลุ๊ค” มนัสนันท์ หลีนวรัตน์ อดีต สส.ปทุมธานี เขต 5 มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย

ก่อนหน้านี้ คนปทุมธานีรู้ดีว่า “นายกแจ๊ส” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี มีความใกล้ชิดกับ “นายกฯหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ “เนวิน”

ว่ากันว่า ผู้มากบารมีค่ายน้ำเงินได้มอบให้ “นายกแจ๊ส” และสมทรง พันธุ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกันดูแลพื้นที่ จ.ปทุมธานี

หากย้อนหลังไปดูการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี 2 รอบ ก็เห็นภาพการต่อสู้อันดุเดือดระหว่าง “ลุงชาญ” ที่มี 8 บ้านใหญ่เป็นกองหนุน และ “นายกแจ๊ส”

วันที่ 30 มิ.ย.2567 “ชาญ” ในนามเพื่อไทย เฉือนชนะ “คำรณวิทย์” กลุ่มคนรักปทุม หลังจากนั้น กกต.แจกใบเหลืองชาญ จึงมีการเลือกตั้งใหม่

วันที่ 22 ก.ย.2567 “คำรณวิทย์” ชนะ “ชาญ” ขาดลอย ซึ่งรอบหลังนี้ ดูเหมือนลุงชาญสู้เพียงลำพัง โดยพรรคเพื่อไทยไม่ได้หนุนช่วย

การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี 11 พ.ค.2568 ก็เป็นการเมืองสองขั้ว “น้ำอ้อย” ยุพเยาว์ หลีนวรัตน์ ภรรยา “นายกเบี้ยว” เอาชนะสมชาติ ค้าทันเจริญ ที่มี “นายก แจ๊ส” สนับสนุน

ดังนั้น คนเมืองปทุมฯ จึงรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นภาพ “ชาญ” และ “นายกเบี้ยว” ทิ้งพรรคเพื่อไทยมุดรั้วเข้าพรรคภูมิใจไทย ทั้งที่ “เนวิน-อนุทิน”จะเลือกใช้บริการ “บิ๊กแจ๊ส” เป็นแม่ทัพเมืองปทุมฯ ในการเลือกตั้งใหญ่ปี 2569

ภาพ “นายก แจ๊ส - เนวิน” สวมกอดกัน เมื่อวันที่ 4 เม.ย.2568 ในวันประชุมนายก อบจ.ทั่วประเทศของมหาดไทย ย่อมสะท้อนความสัมพันธ์อันแนบแน่นของบุรีรัมย์-ปทุมธานี ได้เป็นอย่างดี

ย้อนไปปี 2567 “คำรณวิทย์” จับมือ พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายก อบจ.นครสวรรค์ และ สุรเชษ นิ่มกุล นายก อบจ.อ่างทอง ลาออกก่อนครบวาระ ตามที่ตกลงกับ “ชาดา ไทยเศรษฐ์” อดีต รมช.มหาดไทย ก็บ่งบอกความเป็น “ท้องถิ่นสีน้ำเงิน”

การเลือกตั้งปี 2554 “เนวิน” แยกตัวจาก “นายใหญ่” มาตั้งพรรคภูมิใจไทย โดยรวบรวม “นายก อบจ.” ภาคกลางมาสังกัดค่ายสีน้ำเงิน รวมถึง “ชาญ” นายก อบจ.ปทุมธานี สมัยนั้น

“ชาญ” จึงจัดทีมผู้สมัคร สส.ปทุมธานี ภูมิใจไทย ลงชนเพื่อไทยทุกเขต โดย “นายก เบี้ยว” กฤษฎา หลีนวรัตน์ เพื่อนลุงชาญ ก็สวมเสื้อสีน้ำเงิน ลงสนาม สส.ปทุมธานี เขต 5 แต่พ่ายแพ้กระแสเสื้อแดง

ปี 2555 “ชาญ” ลงป้องกันแชมป์เจอ “สุเมธ ฤทธาคนี” อดีต สส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย ตอนนั้น แกนนำ นปช.แห่มาเสียงช่วยสุเมธ แต่ชาญก็เอาชนะไปได้ เป็นนายก อบจ.ปทุมธานี สมัยที่ 3

เบื้องหลังชัยชนะของ “ชาญ” คือ มีบ้านใหญ่ ป.นำโชค สุทิน นพขำ สส.ปทุมธานี และ สุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล 2 สส.ปทุมธานี เพื่อไทย สมัยนั้นเป็นกองหนุน

การเลือกตั้งปี 2562 “ชาญ” ยังเป็นแม่ทัพภูมิใจไทย จัดทีมผู้สมัคร สส.ทั้ง 6 เขต แต่ก็ได้ สส.มาแค่คนเดียวคือ “พิษณุ พลธี” หลังจากนั้น บ้านใหญ่บุรีรัมย์จึงแยกทางกับ “ชาญ”

การเมืองไม่มีมิตรแท้ และศัตรูถาวร “ชาญ” และ “นายกเบี้ยว” แท็กทีมรีเทิร์นบ้านหลังเก่า ส่วน “นายกแจ๊ส” อาจจะมีดีลลับ-ดีลลึก ช่วยเคลียร์ปัญหาหลังบ้าน เพราะแว่วมาว่า “ฟลุ๊ค มนัสนันท์” ต้องหลบฉากให้กับ “ลูกหม้อสีน้ำเงิน”

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์