แนวรบ 4 จว.ยังเดือด กัมพูชา จับพิกัด พลเรือน -ที่ตั้งทหารตอนใน

ทภ.2 แจง แนวรบ 4 จว.ยังปะทะเดือด ปราสาทตาควาย-ภูมะเขือ กัมพูชา โจมตีหนัก-ฝูงโดรน พบพิกัดเล็งเป้า พลเรือน-ที่ตั้งทหารตอนใน
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 18 ธ.ค.2568 กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา ในวันที่ 17 ธ.ค. 68 ซึ่งเข้าสู่วันที่ 10 นับตั้งแต่เหตุปะทะ วันที่ 8 ธ.ค. สถานการณ์ในพื้นที่ยังมีการปะทะอยู่ในระดับรุนแรงสูง โดยมีศูนย์กลางความรุนแรงในพื้นที่ตาควาย จ.สุรินทร์ และพื้นที่ห้วยตามาเรียและภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ
ทั้งนี้ทหารกัมพูชายังคงดำเนินการปฏิบัติการทางยุทธวิธีต่อเนื่อง โดยมุ่งเข้าตียึดคืนที่หมายสำคัญในพื้นที่ดังกล่าว ด้วยการใช้จรวดหลายลำกล้อง BM-21 , เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 100 ม.ม. และโดรนโจมตี ระดมยิงเข้าสู่พื้นที่การปะทะ และพื้นที่ส่วนหลังอย่างหนาแน่น ส่งผลกระทบความเสียหายต่อพื้นที่พลเรือน และยังพบการการใช้โดรน เพื่อการโจมตีและการหาพิกัด GPS สำหรับเป้าหมายทางทหารในพื้นที่ตอนในอีกด้วย
สำหรับฝ่ายเราคุมอากาศยานไร้คนขับได้ดีขึ้น และมีการตอบโต้เชิงระบบทำให้สามารถควบคุมพื้นที่สำคัญได้หลายจุดและยังคงขยายการควบคุมตามแผนปฏิบัติการ ทำให้ภาพรวมกำลังพลฝ่ายเราขวัญกำลังใจดี และการควบคุมสถานการณ์ยังมั่นคงดี
ส่วนเหตุการณ์สำคัญในพื้นที่ ได้แก่
ชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี พื้นที่ช่องบก กำลังทั้งสองฝ่ายมีการปะทะอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีปรากฏข่าวสารทางกัมพูชาเพิ่มเติมกำลังทหารเข้ามาในพื้นที่เพิ่มเติม
พื้นที่ช่องอานม้า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติการเชิงรุกที่หมายตามแผน , ทำการเสริมความมั่นคงและจัดระเบียบใหม่ ในที่หมายซึ่งกัมพูชาไม่สามารถตอบโต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฝ่ายไทยสามารถควบคุมสถานการณ์ได้เด็ดขาด
ชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ พื้นที่ซำแต – โดนตรวล - ภูผี - สัตตะโสม - พนมประสิทธิโส - ช่องตาเฒ่า ได้มีกระสุนปืนใหญ่ของทหารกัมพูชา ตกบริเวณฐานทหารไทยหลายครั้ง ฝ่ายไทยได้ยิงตอบโต้ไปในทิศทางที่ตรวจพบจากเครื่องมือค้นหาเป้าหมาย นอกจากนี้ยังตรวจพบโดรนข้าศึกจำนวนมาก โดยมีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย จากสะเก็ดจรวด RPG ในพื้นที่ซำแต
พื้นที่บริเวณผามออีแดง - ห้วยตามาเรีย ทั้งสองฝ่ายยังมีการปะทะเป็นระยะ ด้วยปืนเล็กยาว และเครื่องยิงลูกระเบิดกันต่อเนื่อง ซึ่งพื้นที่นี้ถือว่าสงครามโดรน และการใช้อาวุธยิงระยะไกลอย่างเข้มข้น
พื้นที่ภูมะเขือ - ช่องโดนเอาว์ - พลาญยาว - พลาญหินแปดก้อน ฝ่ายกัมพูชา ได้ใช้โดรนบินทิ้งระเบิด ในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฝ่ายไทยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ โดยยังมีการปะทะกันอย่างหนาแน่น จากการพยายามเข้าตียึดคืนพื้นที่ของทหารกัมพูชาทหารไทยสามารถตรวจพบ UAV 1 ลำ และโดรน 4 ลำ บริเวณภูมะเขือ และยังคงมีกระสุนปืนใหญ่กัมพูชาตกบริเวณทางขึ้นภูมะเขือ
ชายแดนจังหวัดสุรินทร์ พื้นที่ช่องจอม - ช่องเปรอ - ช่องระยี กัมพูชา มีการยิง จรวดหลายลำกล้องBM-21 เข้ามายังประเทศเป็นห้วงๆ ฝ่ายไทยจึงได้เปิดปฏิบัติการเชิงรุกเข้าตีฐานเคลียงเมือง(ปีกขวาช่องจอม) และสามารถเข้าควบคุมและเคลียร์ที่หมายได้สมบูรณ์ โดยมีการปักธงชาติไทยตามแนวคูเลต และฝ่ายไทยเราควบคุมพื้นที่และสถาปนาความมั่นคงได้สำเร็จ
พื้นที่คนา ฝ่ายไทยสถานปนาพื้นที่ความมั่นคงในที่หมาย และตรึงกำลังตลอดแนวการวางกำลัง
พื้นที่ปราสาทตาควาย ทหารกัมพูชา มีการยิงเครื่องยิงลูกระเบิด , ปืนใหญ่ , และ BM-21 เข้ามาเป็นระยะ รวมทั้งทหารกัมพูชายังคงมีการเพิ่มเติมกำลัง
โดยฝ่ายไทยพยายามดำเนินกลยุทธ์ต่อเนิน 350 แต่ยังไม่มีความคืบหน้า
ทั้งนี้มีกำลังพลเสียชีวิต 2 นาย จากการปะทะบริเวณพื้นที่ตาควายภาพรวมเป็นพื้นที่ปะทะหนัก แต่ฝ่ายเรายังยึดพื้นที่หลักไว้ได้
พื้นที่ช่องกร่าง ตรวจพบรถถังของทหารกัมพูชาทำการยิงมายังแนวการวางกำลังของฝ่ายไทย
พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ทหารไทยยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่ตลอดแนวการวางกำลัง โดยทหารกัมพูชา ได้ยิงปืนใหญ่ และ BM-21 เป็นระยะ และตรวจพบ UAV จำนวนมาก นอกจากนี้ยังตรวจพบทหารกัมพูชาเพิ่มกำลังเข้ามาในพื้นที่ และยังคงตรวจพบรถถังทหารกัมพูชาบริเวณหน้าแนว ส่วนในช่วงเย็นมีกำลังพลบาดเจ็บและสถานการณ์เริ่มตึงเครียดและมีแนวโน้มยกระดับ
พื้นที่ช่องสายตะกู ชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์ ฝ่ายไทยใช้ปืนใหญ่และรถถังยิงตึกอาคารที่ถูกใช้เป็นฐานทหาร จุดปล่อยโดรนของกัมพูชา และสถานที่ตั้งสแกมเมอร์ อาคาร/ตึก และพื้นที่โดยรอบได้รับความเสียหายอย่างมาก
สำหรับผลกระทบในพื้นที่พลเรือน จำนวน 1 พื้นที่ ได้แก่. อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ในพื้นที่ชุมชนยังตรวจพบกระสุน BM-21 ตก 2 จุด สะเก็ดระเบิดโดนหลังคาบ้าน บ.สกลพัฒนา บ้านเรือนเสียหาย นอกจากนี่ยังมีกระสุนตกไร่มัน บ้านใหม่ดงเย็น ไม่มีผู้บาดเจ็บ ทรัพย์เสียหาย







