อำนาจเจริญ ศึก‘สองนางพญา’ ภท.-พท. ‘ศักดิ์ศรี-สางแค้น’

อำนาจเจริญ ศึก‘สองนางพญา’  ภท.-พท. ‘ศักดิ์ศรี-สางแค้น’

สนามเลือกตั้งอำนาจเจริญที่ดุเดือไม่ใช่แค่“ศึกสองนางพญา” แต่หมายรวมไปถึงศึกสางแค้นระหว่าง “พรรคเพื่อไทย” และ“ภูมิใจไทย”

KEY

POINTS

  • การเมืองในจังหวัดอำนาจเจริญเป็นศึกระหว่าง “สองนางพญา” คือ สมหญิง บัวบุตร จากพรรคเพื่อไทย (พท.) และ สุขสมรวย วันทนียกุล (เจ๊รวย) จากพรรคภูมิใจไทย (ภท.)
  • ชนวนเหตุของความขัดแย้งมาจากการเลือกตั้งปี 2566 ที่สุขสมรวย (ภท.) ชนะ สมหญิง (พท.) ซึ่งนำไปสู่การร้องเรียนต่อ กกต. และการฟ้องร้องในศาลต่อ แม้คดีจะถูกยกไปแล้วก็ตาม สะท้อนถึงการ “สางแค้น” ทางการเมือง
  • การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว แต่เป็น “ศึกศักดิ์ศรี” ระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทย ที่ต้องการชิงความได้เปรียบและฐานเสียงในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ
  • พรรคภูมิใจไทยสามารถเอาชนะพรรคเพื่อไทยในพื้นที่อำนาจเจริญได้ทั้งในการเลือกตั้ง สส. และการเลือกตั้งนายก อบจ. ครั้งล่าสุด

“ศึกสองนางพญา” สนามเลือกตั้งอำนาจเจริญ ส่อแววเดือด! อีกรอบ 

ท่ามกลางสัญญาณเลือกตั้งซึ่งจะชี้ชะตากันในวันที่ 8 ก.พ.2569 สนามเลือกตั้งอำนาจเจริญถือเป็นอีกหนึ่งสนามที่ต้องจับตา หลังมีการแชร์คลิปวีดีโอนาทีเผชิญหน้ากันระหว่าง “สมหญิง บัวบุตร”อดีตสส.อำนาจเจริญ พรรคเพื่อไทย และ“เจ๊รวย” สุขสมรวย วันทนียกุล อดีตสส.อำนาจเจริญ พรรคภูมิใจไทย ภายในสนามบินอุบลราชธานี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา 

โดยฝ่าย“อดีตสส.สมหญิง”แห่งพรรคเพื่อไทย เป็นฝ่ายโพสต์คลิป พร้อมติดแคปชั่น “เคยเห็นแต่นางร้ายในละคร เพิ่งเคยเห็นนางร้ายในสภาฯ นักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่ ชื่อเสียงโด่งดังจังหวัดอำนาจเจริญ อวดอิทธิพล บารมี ข่มขู่ประชาชน สุดยอดจริงๆ”

ขณะที่ฝั่ง “เจ๊รวย”สุขสมรวย ออกมาโพสต์เฟซบุ๊คตอบโต้กรณีดังกล่าวทันควัน ไล่ไทม์ไลน์ย้อนถึงที่มาที่ไปถึงชนวนเหตุ ที่มาที่ไปเกิดจากผลการเลือกตั้งปี 2566 “สุขสมรวย” ลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.ในนามพรรคภูมิใจไทย “สมหญิง”ลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.ในนาม พรรคเพื่อไทย  

ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า “สมหญิง”แพ้ “สุขสมรวย” เกือบ 20,000 คะแนน หลังการเลือกตั้ง “สมหญิง”ได้ยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ในหลายประเด็น เกือบ 20 เรื่อง กระบวนการตรวจสอบของ กกต.

“สุขสมรวย”ได้เข้าชี้แจงต่อ กกต. ด้วยข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน และข้อมูลที่เป็นความจริงครบถ้วนทุกประเด็น กกต.ใช้ระยะเวลาไต่สวนนานกว่า 1 ปี ก่อนมีข้อสรุปว่า ทุกเรื่องที่ถูกร้องเรียนไม่เป็นความจริง และมีคำสั่งยุติเรื่องทั้งหมด

อำนาจเจริญ ศึก‘สองนางพญา’  ภท.-พท. ‘ศักดิ์ศรี-สางแค้น’

อย่างไรก็ตาม แม้กกต. จะมีคำวินิจฉัยยุติแล้ว แต่ “สมหญิง” ยังคงนำเรื่องเดิมที่เคยถูกยุติ ไปดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลอีกครั้ง 

เหตุการณ์ตามคลิปที่ถูกเผยแพร่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2568 ณ สนามบินอุบลราชธานี ขณะนั้น “สุขสมรวย” ยืนรอรับกระเป๋า และพบ “สมหญิง” เดินเข้ามา ด้วยความค้างคาใจจากการกระทำที่ผ่านมา จึงยืนรอและเข้าไปสอบถามด้วยคำพูดตรงไปตรงมา ว่า

“ทำไมถึงร้องเรียนไม่หยุด จะยุบสภาอยู่แล้ว ก็มาลงแข่งกันใหม่ แก่แล้ว จะสร้างศัตรูให้ลูกหลานทำไม แพ้เกือบ 20,000 คะแนน ยังร้องไม่หยุด”

“สมหญิง” ตอบกลับว่า “เป็นสิทธิ์” 

ข้อความส่วนหนึ่งที่  “สุขสมรวย” ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ไม่เพียงแต่จะตอกย้ำการเมืองสนามเลือกตั้งอำนาจเจริญ ที่กำลังส่อแววดุเดือด ระหว่าง “ศึกสองนางพญา” แต่ยังเป็นศึกเดิมพันศักดิ์ศรีระหว่าง “พรรคภูมิใจไทย” และ “พรรคเพื่อไทย” 

ย้อนกลับไปการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 “เจ๊รวย” ลงสมัครสส.บัญชีรายชื่อ ได้รับโจทย์ยึดอำนาจเจริญมาจาก “เนวิน ชิดชอบ” ครูใหญ่สีน้ำเงิน โดยวางตัว “วันเพ็ญ ตั้งสกุล” ลูกสาวสวัสดิ์ ตั้งสกุล นักธุรกิจร้อยล้าน ลงสส.เขต 1 และ “ต่าย”  ญาณีนาถ เข็มนาค ลงเขต 2 

แต่พ่าย “สมหญิง” และ “ดะนัย มะหิพันธ์”จากพรรคเพื่อไทยทั้ง 2 เขต

จากนั้น “เจ๊รวย” ในฐานะแม่ทัพใหญ่อำนาจเจริญ ได้รับตำแหน่งเลขานุการรมว.คมนาคม (ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการภูมิใจไทย ในเวลานั้น ) เป็นรางวัลปลอบใจ

ต่อมาปลายปี 2563 “เจ๊รวย” ส่ง “วันเพ็ญ” ในนามกลุ่มภูมิใจไทอำนาจ ลงสมัครชิงเก้าอี้นายกอบจ.อำนาจเจริญ และได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น

ขณะที่การเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2566 สนามเลือกตั้งอำนาจเจริญ มีสส.2 คน “เจ๊รวย”ลงชิงเขต 1 ขณะที่  “ต่าย”ญาณีนาถ ลงชิงเขต 2 สามารถล้ม“สมหญิง” และ“ดะนัย” แห่งพรรคเพื่อไทย ตีตั๋วเข้าสภาฯได้สำเร็จ

อำนาจเจริญ ศึก‘สองนางพญา’  ภท.-พท. ‘ศักดิ์ศรี-สางแค้น’

ต่อเนื่องมาถึงศึกเลือกตั้งนายกอบจ.เมื่อเดือนก.พ.2568 “เจ๊รวย” ส่งมือขวา “พนัส พันธุ์วรรณ”ลงสมัครนายก อบจ.อำนาจเจริญ ในนามกลุ่มภูมิใจไทอำนาจ 

ขณะที่ “สมหญิง” และพรรคเพื่อไทยสนับสนุน “ดะนัย” ที่พ่ายสนามสส.ลงล้างตา

ปรากฎว่า เป็นฝั่ง“สีน้ำเงิน” ที่คว้าแชมป์นายกอบจ.มาครอง ด้วยคะแนนท้วมท้น 80,066 คะแนนทิ้งห่าง “ดะนัย” เกือบ40,000 คะแนน

ตอกย้ำสนามเลือกตั้งอำนาจเจริญที่ดุเดือดเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ และไม่ใช่แค่“ศึกสองนางพญา” แต่หมายรวมไปถึงศึกสางแค้นระหว่าง “พรรคเพื่อไทย” และ“ภูมิใจไทย” ที่ต่อมาเปิดฉากแตกหัก ก่อนนำมาสู่การผลัก“พรรคสีน้ำเงิน” ออกจากสมการขั้วรัฐบาล  

หากยังจำกันได้หนึ่งในชนวนที่นำมาสู่จุดแตกหักในช่วงปลายรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร  “พรรคเพื่อไทย” ซึ่งคุมกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และทำคดี “ฮั้วสว.” ซึ่งเป็นองคาพยพสีน้ำเงิน เวลานั้นดีเอสไอรวมถึง “องคาพยพแดง” ล็อกเป้าไปที่จ.อำนาจเจริญ ระบุว่า เป็นฐานบัญชาการใหญ่ และเป็นต้นทางฮั้วสว.

อำนาจเจริญ ศึก‘สองนางพญา’  ภท.-พท. ‘ศักดิ์ศรี-สางแค้น’

ขณะที่ “สว.ฝั่งสีน้ำเงิน” นำโดย “พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร” ซึ่งรู้กันทั้งบางว่า เป็น“สว.สายสีน้ำเงินเข้ม” และเป็นสายตรงบ้านใหญ่บุรีรัมย์ เดินเกมเร็วโต้กลับล่าชื่อสว.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ สั่ง“ทวี สอดส่อง”รมว.ยุติธรรมเวลานั้น หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลดีเอสไอ ขยี้ซ้ำไปที่ประเด็นบังคับพยานที่ จ.อำนาจเจริญ

กระทั่งการเมืองดำเนินมาสู่ “จุดพลิกสมการ” ภูมิใจไทยชิงเกมจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ขณะที่พรรคเพื่อไทยแปรสภาพไปอยู่ในสถานะฝ่ายค้าน 

ปรากฎการณ์เหล่านี้ เป็นการตอกย้ำ “เกมการเมือง” สนามเมืองอำนาจเจริญ ที่ไม่ใช่แค่ศึกชิงพื้นที่แต่ยังหมายถึง “ศึกศักดิ์ศรี” และเป็นเกม“สางแค้น” ระหว่างพรรคน้ำเงิน และพรรคแดง 

เชื่อได้เลยว่า ยิ่งใกล้วันชี้ชะตามากเท่าไหร่ ความ “ดุเดือด”และ“ร้อนแรง”จะยิ่งทวีความเข้มข้นมากขึ้นเท่านั้น!