'ณัฐพงษ์' ชู '3 ไทย' ปักธงเลือกตั้ง 69 เดินหน้าพลิกโฉมประเทศใหม่

ไม่เพ้อฝัน! ‘ณัฐพงษ์’ ชู 'ไทยไม่เทา ไทยเท่ากัน ไทยทันโลก' ปักธงการเลือกตั้ง 69 เสียงประชาชนมีความหมายแท้จริง จะอยู่กับรัฐล้มเหลวเดิม หรือเดินหน้าพลิกโฉมประเทศใหม่
KEY
POINTS
- นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ชูแนวคิด "3 ไทย" เป็นธงนำในการเลือกตั้งปี 2569 เพื่อพลิกโฉมประเทศ
- แนวคิด "3 ไทย" ประกอบด้วย "ไทยไม่เทา" (รัฐบาลโปร่งใส), "ไทยเท่ากัน" (กระจายอำนาจและโอกาสอย่างเป็นธรรม), และ "ไทยทันโลก" (รัฐทันสมัย บริหารงานมีประสิทธิภาพ)
- ย้ำว่าการเลือกตั้งปี 2569 เป็นการตัดสินอนาคตของประเทศ เพื่อสร้างการเมืองใหม่ที่เสียงของประชาชนมีความหมายอย่างแท้จริง
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ อดีต สส. แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ได้รับเชิญไปบรรยายที่คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาภายใต้หัวข้อ “ดิจิทัล กระจายอำนาจ งบประมาณกับการพัฒนาประชาธิปไตย” ร่วมกับอาจารย์และนิสิต
โดยนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ได้รับเกียรติเชิญมาบรรยายที่คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ในหัวข้อ “ดิจิทัล กระจายอำนาจ งบประมาณกับการพัฒนาประชาธิปไตย” ร่วมกับอาจารย์และนิสิต โดยได้ชวนทุกคนย้อนกลับไปรำลึกถึงการเมืองไทยในอดีต และการเลือกตั้งที่ผ่านมาว่าตลอด 20 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ ครั้งสุดท้ายที่ไทยมีการเลือกตั้งและได้นายกรัฐมนตรีตามเจตนารมณ์ทางการเมืองก็คือเมื่อปี 2554 ภาพของอำนาจของประชาชนที่ได้ลงคะแนนในคูหาสามารถสะท้อนเสียงประชาชนตามความเป็นจริง และภายหลังจากการเลือกตั้งปี 2554 การเมืองไทยก็กลับสู่วงจรรัฐประหารเช่นเคย และไม่ปกติเป็นเวลากว่า 10 ปี อีกทั้งยังเกิดผลภูมิจากการทำรัฐประหารมาสู่ปัจจุบันผ่านรัฐธรรมนูญ 2560
นายณัฐพงษ์ กล่าวถึงประเด็นสำคัญของการเลือกตั้งในครั้งหน้าว่า ไม่ใช่การเลือกตั้งปกติทั่วไปแต่มันคือการตัดสินว่า ประเทศไทยจะเดินต่อไปทางไหน ตลอด 15 ปี นับตั้งแต่ปี 2554 เสียงของประชาชนไทยแทบไม่เคยเป็นผู้ตัดสินหน้าตารัฐบาลอย่างแท้จริง มีรัฐประหาร มีการสืบทอดอำนาจ มีการกำหนดกติกาที่ไม่เป็นธรรม ทำให้การเลือกตั้งหลายครั้ง กลายเป็นแค่พิธีกรรม ไม่ใช่การตัดสินอนาคตประเทศอย่างแท้จริง
หัวหน้าพรรค ปชน. กล่าวว่า เราเชื่อว่าประเทศไทยมีทางออกจากวิกฤตทุกอย่างที่ลุมล้อมประเทศอยู่ตอนนี้ แน่นอนว่าเราต้องการรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีเจตจำนงทางการเมืองในการเข้ามาบริหารประเทศเพื่อขับเคลื่อนวาระแก้ไขปัญหาเรื่องยากๆ ให้ประเทศชาติ สิ่งสำคัญและหลักคิดในการทำงานพวกเราคือรัฐบาลใหม่ปี 2569 ที่จะเข้ามาต้อง โปร่งใส มีประสิทธิภาพ และเป็นของประชาชน นี่คือเป้าหมายของ “ไทยไม่เทา ไทยเท่ากัน ไทยทันโลก”
“ไทยไม่เทา” หมายความว่ารัฐบาลต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่มีพื้นที่ให้คอร์รัปชันและทุนสีเทา ผ่านการมีส่วนร่วมของประชาชน นี่คือการตรวจสอบที่สำคัญที่สุด
“ไทยเท่ากัน” ทุกคนต้องเข้าถึงโอกาสและบริการของรัฐอย่างเป็นธรรม ไม่ว่าคุณจะเกิดที่ไหน มีฐานะอย่างไร การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นคือสิ่งที่เป็นความตั้งใจของพรรคประชาชนในการกระจายอำนาจ กระจายคน และกระจายงบประมาณเพื่อให้ท้องถิ่นสามารถบริหารจัดการตัวเองได้
และ “ไทยทันโลก” รัฐต้องทำงานทันสมัย มีเทคโนโลยีเป็นของตัวเองที่สามารถใช้งานได้จริง บริหารงบประมาณให้คุ้มค่าตอบโจทย์ชีวิตของประชาชนในทุกพื้นที่
หัวหน้าพรรค ปชน. กล่าวด้วยว่า ทั้งหมดนี้ต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงปี 2569 นี้ จะไม่ใช่แค่การเลือกพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่คือการเลือกว่าจะยอมอยู่กับรัฐที่มีการเมืองแบบเดิม บริหารประเทศล้มเหลวต่อไป หรือจะเริ่มสร้างประเทศไทยใหม่ไปด้วยกัน
"นี่ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน แต่มันคือเรื่องของ common sense ทางการเมือง และการเลือกตั้งครั้งหน้า คือโอกาสที่เราจะพาประเทศไทยกลับสู่การเมืองที่ปกติอีกครั้ง การเมืองที่เสียงของประชาชนมีความหมายจริง ๆ" หัวหน้าพรรค ปชน. กล่าว







