ป.ป.ช.ถกปลัด ยธ.อัปเดตปม จนท.ราชทัณฑ์ เอื้อประโยชน์ 'จีนเทา'

ป.ป.ช.หารือปลัดกระทรวงยุติธรรม ติดตามข้อเท็จจริง อัปเดตปม จนท.ราชทัณฑ์ เอื้อประโยชน์ให้ผู้ต้องขัง 'จีนเทา' - นำแนวทางปกป้องผู้แจ้งเบาะแสจากการแจ้งทุจริต
KEY
POINTS
- ป.ป.ช. ประชุมร่วมกับปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เอื้อประโยชน์ให้ผู้ต้องขังกลุ่ม "จีนเทา"
- ทั้งสองหน่วยงานได้หารือถึงแนวทางความร่วมมือเพื่อหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีกในอนาคต
- มีการหารือถึงการนำกลไกคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส (Whistleblower) และกฎหมายป้องกันการฟ้องปิดปาก (Anti-SLAPP) มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินคดีทุจริต
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2568 นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการฯ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มอบหมายให้ นายพัฒนพงศ์ จันทร์เพ็ชรพูล ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. นายจรงค์เกราะเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ นายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2เข้าร่วมหารือกับ นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม และคณะ
โดยมีการหารือกับปลัดกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวกับการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามความคืบหน้ากรณีปรากฏข่าวสารเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งปฏิบัติหน้าที่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กรมราชทัณฑ์ เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ต้องขังบางกลุ่มเป็นพิเศษ (กลุ่มจีนเทา) ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
โดยสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ ณ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ต่อไป
นอกจากนี้ยังหารือแนวทางประสานความร่วมมือระหว่างสำนักงาน ป.ป.ช. และกระทรวงยุติธรรมเพื่อหามาตรการป้องกันมิให้มีการฝ่าฝืนกฎหมาย กฎ หรือระเบียบดังกล่าวขึ้นอีกในอนาคต รวมทั้งหารือแนวทางการดำเนินคดีอาญาให้มีประสิทธิภาพโดยการนำกลไกการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส (Whistleblower) มาใช้เพื่อมิให้ผู้แจ้งเบาะแสได้รับผลกระทบจากการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริต และการนำกฎหมายป้องกันการฟ้องปิดปาก (Anti - SLAPP Law) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 มาเป็นกลไกในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิดที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งสามารถให้ความคุ้มครองได้ทั้งทางแพ่ง ทางอาญา และทางวินัย
รวมถึงหารือแนวทางการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและสร้างสังคมที่เคารพกฎหมาย







