‘ไทย-กัมพูชา’สมรภูมิค้าอาวุธ แกะรอย‘ขีปนาวุธ’ยุค 5 จี

สมรภูมิไทย-กัมพูชา อาวุธชาติใดทำลายอาวุธของอีกชาติหนึ่งได้ ย่อมส่งผลยอดอุปสงค์ อุปทาน จึงมีประเทศที่สาม รวยแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
KEY
POINTS
- ในห้วง 10 ปี กัมพูชา สะสมอาวุธจำนวนมากเสริมแกร่งกองทัพ จนมั่นใจว่า มีศักยภาพจะต่อกรกับชาติใดก็ได้ที่มีพรมแดนติดกับประเทศตัวเอง
- ทหารไทยยึด“ระบบขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำวิถี” ยุคที่ 5 รุ่น GAM-102LR สัญชาติจีน บนเนิน 500 ได้เป็นจำนวนมาก
- “เดอะ นิวยอร์กไทม์ส” เคยเผยแพร่บทความ 2 ต.ค. 2568 จีขนอาวุธล็อตใหญ่ให้กัมพูชา ก่อนปะทะชายแดนกับไทย
ในทุกๆ ปี “กองทัพจีน” ได้ร่วมซ้อมรบกับกองทัพกัมพูชาหลายครั้ง โดยเฉพาะการซ้อมรบใหญ่ ภายใต้รหัส “Golden Dragon” ซึ่งจะเกิดขึ้นห้วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี
นอกจากนี้ ยังมีการฝึกซ้อมทั้งทางบกและทางทะเล เน้นการต่อต้านการก่อการร้ายและรักษาความมั่นคง รวมถึงมีเรือรบจีนมาจอดที่ฐานทัพเรือเรียมเพื่อร่วมฝึกซ้อมยิงกระสุนจริงในทะเล
โดยการฝึกซ้อมรบแต่ละครั้ง กองทัพจีน นำอาวุธ-ยุทโธปกรณ์ มากมายมามอบให้ กึ่งตอบแทนที่กัมพูชาเปิดพื้นที่ให้กองทัพจีน ใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะท่าเรือเรียม เพื่อขยายอิทธิพลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในห้วง 10 ปี กัมพูชา สะสมอาวุธเป็นจำนวนมาก 90% ได้จากจีน อีก 10% กลุ่มประเทศโซเวียต เสริมแกร่งกองทัพ จนเกิดความมั่นใจว่า มีศักยภาพมากพอจะต่อกรกับชาติใดก็ได้ที่มีพรมแดนติดกับประเทศตัวเอง
อาทิ ปืนใหญ่อัตตาจร SH-1 ระยะยิง 30-53 กิโลเมตร และสามารถยิงกระสุนนำวิถีด้วยเลเซอร์
จรวดหลายลำกล้อง Type 90B/RM-70/BM-21 มีระยะยิง 20-40 กิโลเมตร ที่กัมพูชาใช้โจมตีทั้งเป้าหมายทหารไทย และพลเรือนไทย โดยเฉพาะ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ในการปะทะปัจจุบัน
นอกจากนี้ ยังมีจรวดหลายลำกล้อง PHL-03 ระยะยิง 70-130 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่หลายจังหวัดของไทย และเฝ้าจับความเคลื่อนไหวของกองทัพไทย
มีจรวดต่อสู้อากาศยาน KS-1C ระยะยิง 70 กิโลเมตร ใช้จับพิกัดล็อกเป้าเครื่องบินรบ F-16 และกริพเพน ของไทยในห้วงออกปฏิบัติภารกิจตามที่กองทัพบก และกองทัพเรือร้องขอ
ความไม่ปกติที่ทำให้กองทัพไทยตกอยู่ในความกังวล คือเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ทหารไทยสามารถยึด “ระบบขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำวิถี” ยุคที่ 5 รุ่น GAM-102LR สัญชาติจีน จากทหารกัมพูชาบนเนิน 500 ได้เป็นจำนวนมาก
สำหรับขีปนาวุธ เป็นระบบนำวิถีที่มีความสามารถทันสมัย และตอบสนองทั้งงานต่อต้านรถถัง และการโจมตีเป้าหมายยุทโธปกรณ์อื่น ๆ ระบบรุ่นใหม่ ที่มีฟีเจอร์ครบ ทั้งความแม่นยำสูง และความยืดหยุ่นในการใช้งาน ระยะยิงมาตรฐาน 6-10 กิโลเมตร
โดยขีปนาวุธชนิดนี้ เพิ่งเปิดตัวเมื่อช่วงต้นปีนี้ ผลิตโดยประเทศจีน บริษัทหลัก Poly Defence (สาย GAM/Bolas)ใช้ได้ทั้งการบุกทางยุทธวิธีของทหาร และติดตั้งบนยานพาหนะ
ย้อนกลับไปช่วงเจรจาหยุดยิงในการสู้รบรอบแรก เมื่อ 24-28 ก.ค.2568 สื่อยักษ์ใหญ่สหรัฐอเมริกา “เดอะ นิวยอร์กไทม์ส” ได้เผยแพร่บทความเมื่อ 2 ต.ค. 2568 ระบุว่า จีนนำอาวุธล็อตใหญ่ จรวด-กระสุนปืนใหญ่-ปืนครก ใส่เครื่องบินทหารจีน 6 เที่ยวบิน ส่งให้กัมพูชา เมื่อ มิ.ย.2568 ก่อนไทย-กัมพูชา เปิดการปะทะบริเวณชายแดน
สอดคล้องกับไทม์ไลน์การฝึกซ้อมรบระหว่างกองทัพจีน กับกองทัพกัมพูชาปี 2568 การฝึกภาคพื้นดินรหัส Golden Dragon ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่14-28 พ.ค.2568 ที่ จ.กำปงฉนัง เพื่อเน้นย้ำความร่วมมือทางทหาร
การซ้อมรบทางทะเลด้วยกระสุนจริงวันที่ 11-13 มิ.ย.2568 ระหว่างกองทัพเรือกัมพูชาและจีน ซ้อมยิงกระสุนจริงที่บริเวณเกาะปูลูไวและเกาะตัง บริเวณใกล้เคียงเกาะกูด จ.ตราดของไทย
ทว่า จีนได้ยกเลิกการซ้อมยิงกระสุนจริงที่บริเวณเกาะปูลูไวและเกาะตัง เนื่องจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มคุกรุ่น ขณะที่เรือรบของกองทัพไทยมีการเคลื่อนไหวเฝ้าระวังการฝึกดังกล่าว
การนำเสนอข่าวของ “เดอะ นิวยอร์กไทม์ส” เรื่องจีนส่งอาวุธให้กัมพูชา ในขณะนั้น พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) มอบหมายให้ พล.อ.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการกองทัพบก เดินทางไปจีน เพื่อพบกับผู้นำทหารระดับสูงในกองทัพจีน เพื่อสอบถามถึงประเด็นดังกล่าว
โดยทางจีน ยืนยันว่า นับตั้งแต่ไทย-กัมพูชา มีการปะทะชายแดน ปลายเดือน ก.ค.2568 จีนไม่เคยส่งมอบอาวุธ-ยุทโธปกรณ์ใดๆ ไปให้กัมพูชาอีกเลย ส่วนที่มีอยู่ กัมพูชาได้รับในห้วงการฝึกซ้อมรบ ก่อนจะมีการปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา
ทั้งนี้ ในระหว่างการสอบถาม จีนได้นำรายการอาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งหมดที่มอบให้กัมพูชา โดยระบุเป็นชนิด ประเภท วัน เดือน ปี ในการส่งมอบ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันกับฝ่ายไทย
ตัดกลับมาปัจจุบัน โฟกัสไปที่ระบบขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำวิถียุคที่ 5 รุ่น GAM-102LR สัญชาติจีน ทันสมัยที่สุด ที่ทหารกัมพูชาทิ้งไว้บนเนิน 500 หลังทหารไทยยึดพื้นที่ได้
กองทัพไทย ไม่สามารถยืนยันได้ว่า ขีปนาวุธ อาวุธล้ำสมัย กัมพูชาได้มาในห้วงเวลาใด อาจเป็นไปได้ทั้งสองกรณี โดยกรณีแรก ได้จากกองทัพจีน ในช่วงฝึกซ้อมรบที่ผ่านมา
เนื่องจากการสั่งซื้ออาวุธ จะแตกต่างกับสินค้าทั่วไป เพราะไม่ได้ผลิตเก็บไว้ในสต็อก ต้องรอคำสั่งซื้อ แล้วผลิตตามออเดอร์ ซึ่งอาจใช้เวลาในการส่ง-มอบ
อย่างไรก็ตาม กองทัพไทย ไม่ตัดแนวทางการสั่งซื้อจากใต้ดิน โดยไม่ผ่านกระบวนการขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างปกติทั่วไป โดยได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มจีนเทา
ส่วนการขนส่งเป็นไปได้ทั้งทางอากาศและทางทะเล ตัวชี้วัด คือ ทหารกัมพูชา ไม่มีความชำนาญในการใช้อาวุธ เพราะอาวุธเหล่านี้ต้องใช้เวลาหลายเดือนในการฝึกฝน ถึงจะใช้งานได้มีประสิทธิภาพมาก
“สำหรับ ขีปนาวุธต่อต้านรถถังที่ยึดได้นั้น เป็นไปตามขั้นตอน ยังอยู่ในการครอบครองของเรา แม้ว่าในแง่ของทหาร เรามีความกังวล เพราะเป็นอาวุธทันสมัย และพบว่ามีการใช้ในบางส่วน แต่จากการรายงานของหน่วยในพื้นที่ ไม่มียานรบทุกชนิดของไทยได้รับความเสียหายหรือถูกโจมตี จึงเป็นสิ่งบ่งชี้ แม้จะมีการใช้จรวดที่ทันสมัยเข้าโจมตีฝ่ายไทย ก็ไม่ได้รับรายงานความเสียหาย ซึ่งสามารถสันนิษฐานได้หลายประการ ความเชี่ยวชาญของคนใช้ หรือยุทธวิธีฝ่ายเรา ที่ี่ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบ” พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุ
หากเป้าหมายหลักของจีนในการส่งมอบอาวุธ-ยุทโธปกรณ์ให้กัมพูชาใช้ป้องกันประเทศ ก็อาจไม่คาดคิดว่าจะเกิดกรณีชายแดนไทย-กัมพูชา จนทำให้กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ต้องยอมรับว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ใช้ในสมรภูมิของประเทศใด หากทำลายอาวุธของอีกประเทศหนึ่งได้ ย่อมส่งผลต่อการประกาศแสนยานุภาพของอาวุธชนิดนั้น เป็นการเพิ่มยอดอุปสงค์ อุปทาน เพราะปัจจุบันนี้ ยังมีประเทศที่สาม รวยแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว จากการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา







