'กองทัพ' ชี้ 'กัมพูชา' ไม่หยุดยิง พร้อมดำรงเป้าหมายมั่นคงชายแดน

กองทัพ ลั่น กัมพูชา ไม่หยุดยิง ดำรง 2 เป้าหมาย สถาปนาความมั่นคงชายแดน- ทำลายขีดความสามารถทางทหาร ด้าน ทบ. เผย กัมพูชาดับ 221 นาย ทำลายอาวุธ-ยุทโธปกรณ์เพียบ
ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก พล.ร.สุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ทหารกัมพูชายังระดมอาวุธหนักยิงเข้ามาฝ่ายไทยและฝ่ายไทยมีความจําเป็นที่จะต้องตอบโต้ตามกฎการปะทะและกฎหลักสากล โดยตั้งแต่ช่วงเวลา 22.00 น ของวันที่ 13 ธ.ค. พบ โดรนกัมพูชา แทรกซึมเข้ามา ฝ่ายไทยพยายามสกัดกั้นและมีการตรวจสอบโดรนในพื้นที่จังหวัดตราด ซึ่งกองทัพเรือได้มีการป้องกันการลุกลามอธิปไตย ในช่วงช่วงเวลา 04.00 น.วันนี้กัมพูชายิงBM- 21 และปืนใหญ่เข้ามาในพื้นที่ในจังหวัดศรีสะเกษอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ตลอดแนว ย้ําว่าฝ่ายกัมพูชาไม่ได้หยุดยิงตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด
"ประเทศไทยไม่ได้ปฏิเสธการเจรจา หรือ ด้านการทูต แต่เนื่องจากการ ดําเนินการในช่วงที่ผ่านมาไม่สามารถเจรจาได้เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาไม่พร้อมที่จะเจรจา และยังมีความเป็นภัยคุกคาม และเราจะต้องให้ฝ่ายกัมพูชาสิ้นสุดความเป็นปรปักษ์ก่อน เพื่อจะนําไปสู่การเจรจา อย่างแท้จริงนอกจากนี้ประเทศไทยได้ขอให้ประชาคมโลกได้เข้าใจบริบทสถานการณ์ในพื้นที่จริงเพื่อคุ้มครองพลเรือน ลดความตึงเครียด และเคารพอธิปไตยของรัฐ" พล.ร.สุรสันต์ กล่าว
ด้าน พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวเสริมว่า ภาพรวมการปฏิบัติการ ควบคุมพื้นที่ไว้แล้วยังไม่เปลี่ยนแปลงได้ขยายผลในที่หมาย ในส่วนที่สําคัญ ปราสาทคนา จังหวัดสุรินทร์ ควบคุมเบ็ดเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจากการตรวจสอบพบกําแพงโบราณสถาน และมีภาพการขุดคูเลตที่ใช้ในการรบ ซึ่งบ่งชี้ได้ว่ากัมพูชาเข้ามายึดพื้นที่ดินแดนไทยในบริเวณที่เป็นโบราณสถานซึ่งผิดหลักสากล เพื่อใช้เป็นที่ตั้งทางทหาร
พ.อ.ริชฌา กล่าวต่อว่า สำหรับความสูญเสียของกัมพูชา มีดังต่อไปนี้ฐานที่มั่นที่ตั้งทางทหาร 51แห่ง BM-21 จํานวน 1ระบบ รถถัง 10คัน รถเกราะ-ยานเกาะ 9คันปตอ. 4 ระบบ ปืนใหญ่ปืนค. 7กระบอก แอนตี้โดรน 5จุด โดรน 68 ลํา เสาสื่อสาร 3 จุด และมีทหารกัมพูชาเสียชีวิตประมาณ221ราย
รองโฆษก กองทัพบก กล่าวต่อว่ากองทัพบกยังคงดํารงความมุ่งหมายการปฏิบัติการ 2 ประการ คือ 1.สถาปนาแนวชายแดนที่ถูกรุกล้ำกลับคืนมาให้ได้ และ 2.ทําลายขีดความสามารถทางทหารของกัมพูชาที่ชัดเจนแล้วว่าเข้าโจมตีและเป็นภัยคุกคามทั้งต่อกําลังทหารและประชาชนชาวไทยให้หมดสิ้นสภาพทั้ง กําลังพลยุทโธปกรณ์ ที่ตั้งทางทหาร และสิ่งสนับสนุนต่าง ๆ พร้อมทั้งยืนยันว่าเป็นความมุ่งหมายที่ยังดํารงอยู่อย่างแน่นอน
ด้าน นาวาเอก นรา คุณโฑถม ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ในพื้นที่ที่กองทัพเรือได้รับมอบหมายพื้นที่บ้านชําราด จังหวัดตราด เป็นเป้าหมายหลักที่พยายามยึดคืนที่กัมพูชาถูกรุกล้ํามาเป็นเวลานาน ฝ่ายไทนได้โต้ตอบและยึดคืน ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนการโจมตีทางอากาศของกองทัพอากาศเป็นการทิ้งระเบิดปูทาง หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ใช้กำลังทหารราบดำเนินกลยุทธ์เข้ายึดครองพื้นที่ และมีการตอบโต้จากฝ่ายกัมพูชาอย่างหนาแน่น แต่สุดท้ายก็สถาปนาความมั่นคงในพื้นที่และเชิญธงชาติขึ้นสู่เสาธง ได้สําเร็จเพื่อแสดงอํานาจอธิปไตยในพื้นที่ของเราเอง
"ขอเน้นย้ำาว่าจุดนี้เป็นอธิปไตยของไทยที่ถูกกัมพูชารุกรานตั้งแต่แรกฝ่ายไทยยึดคืนกลับมาจนถึงปัจจุบันยังมีการโจมตีโต้ตอบจากฝ่ายกัมพูชาไม่ได้ลดหย่อนลง กัมพูชายังคงโจมตีกลับมา ฝ่ายไทยยังต้องดําเนินกลยุทธ์เพื่อจํากัดภัยคุกคามจากฝ่ายตรงข้ามต่อเนื่อง" นาวาเอก นรา กล่าว
ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ กล่าวต่อว่าสำหรับการประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่จังหวัดตราด กองทัพเรือมีความจำเป็นเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชน แต่หากมีประชาชนจำเป็นต้องออกจากเคหะสถานนอกเวลา สามารถขออนุญาตและชี้แจงเจ้าหน้าที่ เราจะรับฟังและอํานวยความสะดวก ทั้งนี้ขอให้ยึดความปลอดภัยเป็นหลัก ขอให้เชื่อมั่นว่าสิ่งที่กองทัพเรือดําเนินการ รวมถึงทุกเหล่าทัพ เพื่ออํานาจอธิปไตยเพื่อความปลอดภัยของประชาชน







